วันศุกร์ที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2559

เพื่อนคู่คิดสำคัญขนาดไหน

"การเลือกคบคน สำคัญต่อความสำเร็จขนาดไหน..."

ลองทายดูเล่นๆนะครับว่า มหาเศรษฐีเหล่านี้มีอะไรที่เหมือนกัน
1. บิล เกตส์ 2. สตีฟ จ๊อบส์ 3. แลรี่ เพจ (ผู้ก่อตั้งบริษัท Google)
4. เควิน ซิสตรอม (ผู้คิดค้นแอพพลิเคชั่น
Instagram) และ 5. วิลเบอร์ ไรท์ (หนึ่งในพี่น้องตระกูลไรท์)

เมื่อดูจากคุณลักษณะภายนอกคนเหล่านี้อาจมีหลายอย่างที่คล้ายกัน แต่สิ่งหนึ่งที่หลายคนอาจไม่ทราบ และเป็นสิ่งที่น่าสนใจที่สุดเกี่ยวกับพวกเขาก็คือ คนเหล่านี้ไม่ได้ประสบความสำเร็จระดับโลกด้วยตัวเอง แต่พวกเขามี “คู่คิด” ที่ดีคอยช่วยเหลืออยู่เสมอ

ยกตัวอย่างเช่น ผู้ที่เป็นนักประดิษฐ์ตัวจริงของบริษัท Apple แท้จริงแล้วไม่ใช่ สตีฟ จ๊อบส์ แต่เป็นคู่หูของเขาชื่อ สตีฟ วอซเนียก และแท้จริงแล้วผู้ตั้งชื่อให้บริษัท Microsoft ก็ไม่ใช่ บิล เกตส์ แต่เป็นคู่หูของเขาชื่อ พอล อัลแลน นอกจากนี้ พอล อัลแลน ยังเป็นผู้โน้มน้าวให้ บิล เกตส์ ลาออกจากมหาวิทยาลัยฮาวาร์ดเพื่อมาจัดตั้งบริษัท Microsoft ที่ภายหลังมีชื่อเสียงโด่งดังก้องโลกอีกด้วย และมหาเศรษฐีที่เหลืออีกสามคนก็ไม่อาจเป็นที่รู้จักและประสบความสำเร็จได้อย่างทุกวันนี้ได้เลย หากขาดคู่คิดคนสำคัญของเขาไป

คนที่ประสบความสำเร็จสูงสุดในโลกธุรกิจทุกคน จะมีผู้ที่คอยเป็น “คู่คิด” ให้เขาอยู่เสมอ หากไม่ใช่คนๆเดียวก็จะเป็นกลุ่มคนที่เขาไว้ใจ แม้แต่ มาร์ค ซักเกอเบิร์ก มหาเศรษฐีอายุน้อยที่สุดผู้ก่อตั้ง Facebook เองก็ยังเคยให้สัมภาษณ์ว่า:

“ผมรู้สึกทุกข์ใจทุกครั้งที่มีคนชื่นชมความสำเร็จของผม เพราะอันที่จริงแล้วผมไม่ได้สร้าง Facebook ขึ้นมาคนเดียว ทีม
งานของผมต่างหากที่เป็นผู้สร้างมันขึ้นมา คำชื่นชมทั้งหมดควรเป็นของพวกเขา และหากผมสามารถให้คำแนะนำในเรื่องธุรกิจกับคุณได้เพียงข้อเดียว ผมก็จะแนะนำว่า... จงเลือกคบคนให้ดี”

จริงอยู่ว่าในโลกของความสำเร็จ “ความคิด” นั้นเป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก ใครคิดได้เก่งกว่า เร็วกว่า ดีกว่า ย่อมจะได้รับชัยชนะ แต่เรามักจะให้ความสำคัญกับ “ความคิด” มากเกินไป จนมองข้าม “แหล่งกำเนิดของความคิด” ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญยิ่งกว่า เพราะถ้าถามว่าความคิดของเรามาจากไหน ก็ต้องตอบว่า “มาจากสิ่งที่เราได้ยิน ได้เห็น และได้สัมผัสในแต่ละวัน”
ซึ่งสิ่งเหล่านั้นส่วนใหญ่ก็มาจาก “คนที่อยู่ใกล้ตัวเรา” นั่นเอง...

กล่าวคือ “คนที่คุณคบ” อาจสำคัญยิ่งกว่า “สิ่งที่คุณคิด” เสียอีก เพราะแหล่งกำเนิดความคิดส่วนใหญ่ของคุณ ก็มักจะมาจากคนที่คุณคลุกคลีอยู่ด้วยนั่นเอง

เรื่องราวที่น่าสนใจที่สุดเกี่ยวกับการคบคน คือเรื่องของ “ลี กา ชิง” มหาเศรษฐีชาวฮ่องกงซึ่งได้รับการจัดอันดับเป็น “บุคคลที่ร่ำรวยที่สุดของทวีปเอเชียในปี 2014” และเป็น “บุคคลที่ทรงอิทธิพลที่สุดของทวีปเอเชียในปี 2001” แต่ที่สำคัญที่สุดคือ เขาเป็นหนึ่งในมหาเศรษฐีที่ใจบุญที่สุดในทวีปเอเชียอีกด้วย โดยเขาได้บริจาคเงินช่วยเหลือผู้คนไปแล้วกว่า 2 พันล้าน
ดอลล่าห์สหรัฐ หรือประมาณ 7 หมื่นล้านบาท
ทว่า... เรื่องที่ผมจะเล่าให้ฟังต่อไปนี้ไม่ใช่เรื่องของ ลี กา ชิง แต่เป็นเรื่องคนขับรถของเขา!

เรื่องมีอยู่ว่า หลังจากที่คนขับรถของ ลี กา ชิง ได้ทำงานด้วยความซื่อสัตย์มาตลอดระยะเวลาถึง 30 ปี ในที่สุดวันหนึ่งเขาก็ขอลาออก  ลี กา ชิงตัดสินใจมอบเช็คเงินสดมูลค่า 2 ล้านดอลล่าร์ฮ่องกงให้เขาเพื่อแทนคำขอบคุณ แต่คนขับรถกลับปฏิเสธไม่ขอรับเงินจำนวนนั้น!

เขาให้เหตุผลว่า “เงิน 10 ล้าน หรือ 20 ล้าน นั้นท่านได้ให้ผมมาแล้ว” ลี กา ชิง ประหลาดใจมาก จึงถามว่า “ก่อนหน้านี้ผมไม่เคยให้เงินคุณ และเงินเดือนคุณก็แค่ 2 หมื่น คุณเก็บยังไงถึงได้มากมายขนาดนั้น” คนขับรถจึงตอบว่า “ในขณะที่ผมทำงานให้ท่าน ทุกครั้งที่ท่านคุยโทรศัพท์อยู่เบาะหลัง ไม่ว่าจะเป็นการซื้อที่ดินหรือซื้อหุ้น ผมอาศัยการฟังแล้วนำเงินที่มีอยู่
เล็กๆน้อยๆไปซื้อตามท่านบ้าง
จนวันนี้เงินเหล่านั้นได้งอกเงยเป็นมูลค่าร่วม 20 ล้านแล้ว”

ลี กา ชิง ถึงกับเอ่ยปากชมคนขับรถของเขายกใหญ่ พร้อมกับทิ้งท้ายว่าเรื่องนี้สามารถเป็นคติสอนใจให้กับนักธุรกิจได้เป็นอย่างดีว่า “คุณจะเป็นใครนั้นไม่สำคัญเท่ากับว่าคุณอยู่กับ
ใคร” เพราะแม้เป็นเพียงคนขับรถ แต่เมื่อรู้จักเรียนรู้และซึมซับสิ่งดีๆจากนักธุรกิจระดับพระกาฬ เขาก็สามารถมีเงินเก็บมากกว่าคนที่มีใบปริญญาและประกาศนียบัตรเต็มบ้านได้!

ผู้เขียนบทความนี้กล่าวต่อไปว่า คนที่รู้จักซึมซับและพัฒนาตัวเอง เมื่ออยู่กับเศรษฐีเงินล้านก็จะมีกำไรนับแสน เมื่ออยู่กับคนอยู่กับเศรษฐีเงินสิบล้านก็จะมีกำไรนับล้าน และเมื่ออยู่กับคนอยู่กับเศรษฐีเงินร้อยล้านก็จะมีกำไรสิบล้าน หากเราเดินตามแมลงวันก็จะเข้าใกล้ห้องสุขา หากเราเดินตามตัวผึ้งก็จะหาดอกไม้จนเจอ อยู่กับคนที่คิดบวกคุณก็จะเป็นคนคิดบวก อยู่กับคนที่คิด
ลบคุณก็จะพูดแต่คำสกปรก เพราะคนโบราณสอนไว้ว่า ‘สิ่งของแยกตามประเภท ส่วนคนนั้นแยกตามกลุ่ม’

พระพุทธเจ้าเองก็ตรัสสอนเรื่องนี้อย่างชัดเจน ยกตัวอย่างเช่นใน “มงคล 38” (หลักการใช้ชีวิต 38 ประการที่จะทำให้ชีวิตประเสริฐและดีงาม) มงคลข้อแรกสุดคือ “จงไม่คบคนพาล” และข้อต่อมาคือ “จงคบบัณฑิต” จะเห็นได้ว่าทรงให้ความสำคัญกับ “การคบคน” อย่างมาก ถึงขนาดที่ทรงนำมาเป็นมงคลชีวิตสองข้อแรกสุด ก่อนความขยัน การทำบุญ การมีวินัย
หรือแม้กระทั่งความกตัญญูเสียอีก

ที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่า หากคุณคบคนดี เขาก็ย่อมจะชักชวนคุณให้ทำแต่ความดี เช่น เป็นตัวอย่างให้คุณในเรื่องการมีวินัย คอยกระตุ้นให้คุณขยัน แนะนำเรื่องความกตัญญูกตเวที หรือพยายามพาคุณไปทำบุญด้วยอยู่แล้ว แต่ถ้าคบคนพาล ต่อให้คุณมีคุณสมบัติที่ดีอยู่ในตัวมากมาย แต่ก็มีความเป็นไปได้ที่จิตใจคุณจะไหลสู่ที่ต่ำตามเขาไปทีละน้อย ทำให้คุณสมบัติดีๆทั้งหลาย เหล่านั้นค่อยๆหายไปทีละข้อ จึงอาจกล่าวได้ว่าการมีกัลยาณมิตร หรือการ “คบคนดี” คือจุดเริ่มต้นที่สำคัญที่สุดของความสำเร็จทั้งทางโลกและทางธรรมเลยทีเดียว

“สิ่งที่เราคิด” กับ “คนที่เราคบ” มักจะมีความคล้ายกันอย่างน่าอัศจรรย์ ฉะนั้น ถ้าอยากจะประสบความสำเร็จในระดับสูง ไม่ว่าทางโลกหรือทางธรรม ขอให้เลือกคบคนให้ดี เพราะหาก “คบ” คนแบบไหนเราย่อม “คล้าย” คนแบบนั้น เมื่อเรา “คล้าย” คนแบบไหนเราย่อม “คิด” แบบนั้น และเรา “คิด” แบบไหนเราก็ย่อมได้ “ชีวิต” แบบนั้น...
รับประกันได้เลย!

"ดอกไม้เมื่ออยู่ในกองขยะ ย่อมส่งกลิ่นเหม็นเน่า
แต่เศษขยะเมื่ออยู่ในดงดอกไม้ ย่อมส่งกลิ่นหอม"

-ขุนเขา สินธุเสน เขจรบุตร-

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น