วันศุกร์ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

ความเคยชิน...คุณอนันต & โทษมหันต์

    .... ขี้เกียจอ่านก็ผ่านไปนะครับ ผ่านแล้วยังยาวก็กดค้างแล้วลบเลยนะครับ...

      """...ความเคยชิน...""
   รู้จักและเข้าใจมาตั้งแต่เริ่มรู้ความ  เอามาพูดทำไม..??
  ครับคำนี้ทุกคนรู้จัก แต่จะมีกี่คนที่ สนใจมัน .?? ความจริงมันมีคุณอนันต์ และโทษมหันต์ จริงๆ แต่ขึ้นอยู่กับว่า ใครจะเป็นเหยื่อมันแบบไหน.??

       ขอยกตัวอย่างแรงๆสักเรื่อง ..หลายคนที่ผมรู้จัก เลือกตายด้วยการฆ่าตัวตายเพราะความเคยชิน  ถ้าสังเกตุดูดีๆเกือบทุกคนที่ตายไปด้วยการฆ่าตัวตาย แทบจะไม่เคยมีใครเลยที่ ตายจากการฆ่าตัวตายเป็นครั้งแรก เขาจะต้องผ่านการพยายามมาหลายครั้ง แต่ละครั้งก็ใกล้ชายแดนความเป็นความตายมาเรื่อยๆ คนธรรมดาอย่างเราๆ กลัวความตายเหลือเกินไม่ว่าด้วยวิธีไหน? แล้วพวกเขาทำได้ยังงัย ? คำตอบคือ เขาชิน..ชินกับความคิด การกระทำ เชื่อเถอะว่าครั้งแรกๆก็กลัว แต่หลายครั้งเข้า แต่ละครั้งจริงจังมากขึ้น บ่อยๆเข้าก็ชิน สุดท้ายก็ข้ามชายแดนไปจนได้.
   เรื่องนี้ตัวผมเองก็มีประสบการณ์ ว่างๆจะเล่าให้ฟังครับ น่าจะเป็นประโสชน์มากทีเดียว ถ้าลืมเล่าก็อย่าลืมเตือนละกัน..!!

    .สามีภรรยา ไม่เคยมีคู่ไหนเลยที่เลิกกันโดยการบอกเลิกครั้งแรก มันจะต้องผ่านการบอกเลิกกันหลายครั้งจนชิน พูดกันไปแบบไม่คิดอะไร โมโหก็พูด โกรธก็พูด ทั้งๆที่ถ้าย้อนกลับไปคิดถึงครั้งแรกที่พูดนะมันช่างพูดยากเหลือเกิน.... สุดท้ายก็เลิกกันได้จริงๆ

     ผมจะบอกเพื่อนๆเสมอว่า เรื่องอะไรที่ไม่ดี อย่าเริ่มแม้จะคิดทำ คิดแล้วอย่าเริ่ม เริ่มแล้วอย่าต่อ เพราะมันจะเคยชิน สุดท้ายคุณจะเสพ เรื่องนั้นจนเป็นนิสัย อย่าคิดยืมเงินใคร ยืมแล้วอย่าคิดเบี้ยว เพราะถ้าเบี้ยวแล้วบ่อยๆเข้า เราจะยืมเขาแบบไม่อาย เบี้ยวเขาแบบไม่รู้สึกผิดเลย...นี่คือ ความเคยชินทางลบ
   ทีนี้มาดูความเคยชินทางบวกกัน ..แบบนี้ต้องรีบหาไว้ใส่ตัว ที่มีอยู่ก็ต้องรักษาไว้:...
  เราเคยถามคนขยันไหมว่า เขาขยันทำงานแบบไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยนะ เขาคิดยังงัย..?   ส่วนมากจะตอบว่า มันชินแล้ว ทำมาทุกวันเลยไม่รู้สึกอะไร สามีที่นั่งทนฟังภรรยาบ่นทุกวัน นั่งมองลูกเล่นกันเจี๊ยวจ้าว ในเวลาที่เหนื่อยแสนเหนื่อยมาจากทำงาน เพราะเขาชินกับมัน ทั้งๆที่แรกๆก็ยากจะทำ ยากจะรับได้ แต่กว่าจะถึงวันนี้ต้องผ่านการใช้สติเตือนใจ ใช้ความคิดบวก เมื่อได้มันมาแล้ว ต้องเก็บมันไว้ และไม่ใช่เก็บเฉยๆ ต้องใช้มันบ่อยๆตลอดเพื่อรักษาอีกด้วย เพื่อรักษาความเคยชินแบบดีๆนี่ไว้งัย...

   หลายครั้งที่ผมทำงานกรรมกรเอง ที่บ้าน ซึ่งความจริงจ้างก็ได้ ใครๆก็ว่า..แต่ผมบอกตัวเองว่า ..""ผมกำลังบริหารความเคยชินเรื่องความขยัน ความอดทน..ให้มันอยู่กับตัวไว้..""

    ความเคยชินด้านบวกที่ควรหามาเก็บไว้ หรือถ้ามีอยู่ก็ต้องงัดเอามาใช้บ่อยๆให้.."""..ชิน.."""  เช่น ความขยัน ความอดทน การคิดบวก ความมุ่งมั่น ความพยายามไปให้ถึงจุดหมาย ความประหยัดมัธยัท ป็นต้น ..ไปถามคนที่ชีวิตสบายมีเงินในกระเป๋าเป็นร้อยๆล้าน พวกเขาไม่เคยรู้สึกเหนื่อยเมื่อทำงาน ไม่เคยท้อเมื่อเจอปัญหา ไม่เคยทรมานเมื่อหิว เพราะเขาฝึกอยู่กับมันจนชิน..อยากรวย อยากสบาย ไม่อยากเจ็บไข้ ร่างกายสุขภาพกายใจสมบูรณ์ก็ควรรีบหาเรื่องดีๆเข้าตัว เมื่อได้มาแล้วต้องพยายามรักษามันไว้ด้วยการงัดเอามาใช้บ่อยๆ ...ในทุกเรื่อง เช่น ออกไปออกกำลังกายทุกวันให้ชิน เลือกกินของที่มีประโยชน์และห้ามใจถ้าอยากกินของที่เป็นโทษ ห้ามให้ชิน..!!

   ถ้าจะถามว่า .แล้วความเคยชินด้านบวกเรื่องอะไรที่เป็นหัวหน้าใหญสุด เก่งสุดกว่าทุกเรื่อง ..?? ส่วนตัวผมขอเป็น ..""การดึงเอาสติมาช่วยบริหารความคิด..""คือ ..เอาสติมาช่วยคิดจนชินนะครับ

ิ    ""สติ""ตัวเดียวจะบอกเราว่าเรื่องแบบนี้แม้จะชินก็ไม่ควรทำตอนนี้ หรือบางเรื่องควรรีบทำเสียแต่ตอนนี้.. หนุ่มๆ เข้าห้องน้ำยังเก็บไม่เรียบร้อย เดินออกมาก็รูดซิบไปด้วย บ่อยๆจนชิน เวลาอยู่ที่สาธารณะ สติจะเตือนเราว่า อย่าทำตอนนี้ เพราะไม่ใช่ที่บ้าน .... ท่านผู้หญิง ที่ชอบปล่อยให้เต็มกลั้นบ่อยๆประเภทไม่ถึงเวลาเต็มที่ข้าไม่นึกถึงห้องน้ำ ชอบตาเหลือกวิ่งเข้าห้องน้ำแล้วปล่อยเต็มที่ ดังเหมือนท่อประปาแตก  สติก็จะเตือนเราว่า ให้ใช้พลังลดแรงดันมันลง...หน่อย..ฮาๆ..!! มีอีกมากมายที่จะยกตัวอย่าง แต่พอก่อนเดี๋ยวแฟนคลับขี้เกียจอ่าน.....

   อย่าลืมนะครับ อะไรที่รู้ว่าไม่ดีกับตัวเอง กับคนใกล้ตัว อย่าแม้กระทั่งเริ่มคิดจะทำ ส่วนเรื่องดีๆ รีบหามา แล้วก็หาโอกาสงัดออกมาใช้บ่อยๆ ทำให้บ่อยๆ ให้ชิน เพราะถ้าไม่เอาออกมาใช้บ่อยๆ เราก็จะชินกับการจ้างเขาทำ หรือชินกับการปล่อยเวลาว่าง สุดท้ายความขี้เกียจก็เข้ามาแทนจนชิน เป็นการปล่อยให้ความชินด้านลบเข้ามาแทนแบบไม่รู้ตัว   คิดได้ดังนี้แล้วชีวิตต้องดีขึ้นแน่นอน.เชื่อเถอะครับ.

   ..มนุษย์ทุกคนเกิดมา ธรรมชาติให้อาวุธมาเท่าๆกัน ต่างกันเล็กน้อยที่ความสูง สีผิว และอย่างอื่นอีกเล็กน้อย แต่เชื้อเถอะครับ มันไม่มีผลสักเท่าไหร่  แต่..สิ่งที่แยกเอามนุษย์ที่อยู่อย่างลำบากกับมนุษย์ที่ประสบความสำเร็จ มีชีวิตอยู่แบบสบาย คือ...""ความคิด..""ครับ ใครคิดดีคิดบวก สรรหาแต่เรื่องดีๆเข้าตัวแล้วหมั่นใช้มันจนชินไม่เหนื่อยกับมัน จะมีโอกาสสุขสบายในบั้นปลายมากกว่าคนที่ปล่อยให้ความเคยชินด้านลบเข้ามาครอบงำความคิดจนเคยชินนะครับ..pjmong..

เครื่องให้น้ำสุนัขภาค 3

เครื่องให้น้ำสุนัขทำเอง Espisode 3
  จากที่ผมทดลองทำเครื่องให้น้ำสุตว์เลี้ยงแบบอัตโนมัติราคาประหยัด ไม่น่าเกิน 200 บาท ถึง ตัวที่ 2 ก็น่าจะใช้งานได้ดีสำหรับทั่วๆไปแล้ว
  ตอนนี้ก็คิดเล่นๆต่อไปอีกว่า ถ้าเจ้าของไม่ชอบให้มีน้ำค้างอยู่ ในถาดล่ะ.?? จะทำงัย..??  แบบว่า หิวน้ำเมื่อไหร่ มากิน ออกไปน้ำหมด..!! ทำนองนี้ ..มันก็ต้องทำแป้นเหยียบนะซิ เดินเข้ามาก็เยียบแป้น น้ำไหล ..กิน...ไป..น้ำก็หยุด นี่คือโจทย์
  นั่งลองทำโดยเอาวัสดุเหลือใช้ ที่พอหาได้โดยไม่ต้องซื้อ ก็สำเร็จออกมาเล่นๆให้ สุนัขในสวนที่บ้านลองใช้กินกัน ...
    ใครชอบไป ตจว. จะทิ้งสัตว์เลี้ยงไว้บ้านนานๆ แบบไม่ต้องห่วงก็ลองทำดูเล่นๆนะครับ  ..สัตว์เลี้ยง อดอาหารได้เป็นสิบวันนะครับ แต่อดน้ำไม่ได้ อันนี้ยืนยันครับ เพราะผมเคยลืมให้อาหารเป็นสิบวันเลย แต่มีน้ำให้โอ่งนึง กลับมายังดีอยู่เฉยเลย...pjmong..

วันอังคารที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

ไซอิ๋วกับธรนมมะ

เคยสงสัยว่าตอบจบของ "ไซอิ๋ว" คืออะไร เพราะสารภาพตามตรงว่าไม่เคยอ่านจริงๆจังๆ สักที เคยดูทางทีวีบ้างบางตอน รู้แต่ว่าเป็นนิยายที่แต่งขึ้นโดยมีเค้าโครงเรื่องจริงของ พระเสวียนจั้ง ที่ไปอัญเชิญพระไตรปิฎกที่อินเดีย แต่เสริมเรื่องอภินิหารให้อ่านสนุกขึ้น

วันนี้เลยนั่งดู google กลายเป็นนั่งอ่านไป 4-5 ชั่วโมง แล้วก็ไปเจอที่เค้าเฉลยว่า ทำไมไซอิ๋วจึงเป็นนิยายที่ทรงอิทธิพลของจีน ไม่ใช่แค่มันแฟนตาซีเท่านั้น แต่ไซอิ๋วคือ การกางพระไตรปิฎกออกมา แล้วเขียนใหม่ในมุมนิทาน

"พระถังซำจั๋ง" คือศรัทธา จะไปชมพูทวีป ต้องเริ่มจากมีศรัทธาก่อน พกจิตไปด้วยซึ่งจิตคนเรา ประกอบด้วย..

โทสะ - หงอคง โกรธ
โลภะ - ตือโป๊ยก่าย โลภ
โมหะ - ซัวเจ๋ง ความไม่รู้

ก็แค่นั้น จนเจอที่เขาอธิบายใน Google แต่ละบทแบบละเอียด ทึ่งในความสามารถของคนแต่งเลยครับ

"หงอคง" แปลงกายได้ เหาะเหิน เดินอากาศได้ ทำอะไรก็ได้ เพราะหงอคง คือจิตคนเรา ที่เป็นลิง ไม่อยู่นิ่ง คิดไปเรื่อย แค่คุมให้ตามลมหายใจยังยากเลย ดังนั้น ถ้าเราคุมหงอคงได้.... การไปชมพูทวีปจะง่ายขึ้น ... เป็นต้น
และเมื่อไหร่ก็ตามที่เราโกรธ - โทสะเราจะเหมือนหงอคง เวลาแผลงฤทธิ์ พังพินาศ ราบเป็นหน้ากลอง

แต่หงอคงแพ้อะไร ? โดนขังไว้ที่ไหน ?
ใช่แล้ว แพ้ฝ่ามือยูไล โดนขังไว้ที่เขา 5 นิ้ว

ฝ่ามือยูไล และเขา 5 นิ้ว แทน "ขันธ์ 5 "
ต่อให้จิตแน่แค่ไหน สุดท้ายก็ไม่พ้นขันธ์ 5
ได้แก่ รูป เวทนา สัญญา สังขาร และวิญญาณ

นอกจากนี้หงอคงยังมีกระบองวิเศษจัดการปีศาจได้ตลอด กระบองนั้นแทนปัญญา แต่ทว่า มีจิต กับปัญญา แค่นั้นยังเกิดปัญหาได้

พระยูไลจึงประทานมงคล มารัดหัวไว้ ให้พระถังซำจั๋งคอยดูแล มงคลนั้นก็แทน "สติ" ซึ่งมงคลเป็นรัดเกล้า 3 ห่วงคล้องกัน แทนไตรลักษณ์ อนิจจัง ทุกข์ขัง อนัตตา

ปีศาจแต่ละตัว แทนกิเลสที่เราต้องค่อยกำจัดออกไป

ตอนเจอกันครั้งแรกเห้งเจียบอกพระถังว่า..
"จะไปชมพูทวีป ผมพาพระอาจารย์ตีลังกาไป 7 ทีก็ถึง
มามัวเสียเวลาเดินทำไมกัน ไม่เข้าใจ" พระถังบอกว่า
"ไม่ได้..ต้องเดินไป"

ปริศนาธรรมข้อนี้บอกว่า จิต+ปัญญา ฟังเขาเล่า ฟังเขาบอก คิดเอาเองก็บอกง่าย แป๊บเดียวก็ไปถึงนิพพานละ
เช่น คนเล่าให้ฟังเรื่องอริยสัจ 4 ทางดับทุกข์ ก็บอกฟังเข้าใจละ.. แต่จริงๆ แล้ว ยังไม่เข้าใจ..

ธรรมมะต้องลงมือปฎิบัติ เหมือนหงอคงบอกตีลังกาไป 7 ที มันไปไม่ถึงเพราะเอาเร็วเข้าว่า แต่ขาดความเข้าใจ ต้องค่อยๆ เดินไป ศึกษาไป ปฎิบัติไป จึงจะถึง...

โป๊ยก่าย คือศีล 8
ซัวเจ๊ง คือสมาธิ

ศรัทธา + ปัญญา + ศีล + สมาธิ จึงจะพ้นทุกข์

แต่บางครั้งปีศาจบางตัวก็เก่งเหลือเกิน
ต้องไปตามเจ้าแม่กวนอิมมาช่วย
เจ้าแม่กวนอิม คือ เมตตา

ปัญญา + เมตตา จะกลายเป็นสัมมาทิฏฐิ ธรรมชั้นสูงซึ่งปราบกิเลสได้เสมอ แต่เจ้าแม่กวนอิม มักให้เห้งเจียลองสู้จนหมดแรงก่อน ถึงมาช่วย เหมือนหากมีกิเลส ควรใช้ปัญญาลองขจัดดูก่อน เกินกำลังแล้วจึงใช้เมตตา..ปล่อยวาง

ถ้าเกินกำลังเมตตา เจ้าแม่กวนอิมช่วยไม่ไหว
คนสุดท้ายที่มักมาช่วย คือ พระยูไล
พระยูไล แทน พระอริยสงฆ์

ลำดับปีศาจแต่ละตัวในเรื่องก็สุดยอดมาก
เช่น เมื่อเริ่มเดินทาง ก็พบโจรทั้งหก ขัดขวางไม่ให้ไป
สุดท้ายเห้งเจียเลยเอากระบองตีจนตาย

โจรทั้งหกคือ "อายตนะ 6" คือ รูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส และอารมณ์ ต้องเอา ปัญญา (กระบอง) ฟาดให้ตายก่อนถึงเริ่มออกเดินทางได้
แล้วก็จะเจอปีศาจไปเรื่อยๆ

สรุป ศรัทธา + ปัญญา + ศีล + สมาธิ.. ออกเดินทาง
กำจัดกิเลส.. ไปจนถึงชมพูทวีป แล้วได้อะไร ?

ตอนจบพระถังซำจั๋งและคณะ มาถึงแม่น้ำแห่งหนึ่ง
สายน้ำเชี่ยวกรากมาก ไม่รู้จะข้ามไปยังไง
จนเจอเรือไร้ท้องเรือ จอดอยู่ พระถังกังวลมาก
เรือไม่มีท้องเรือจะพาข้ามฟากได้อย่างไร?

แต่สุดท้ายก็ยอมใช้เรือข้ามไป
แม่น้ำเชี่ยวกรากแทนกองกิเลส
เรือนั้นแทน "สุญญตา" ความไม่ยึดมั่นถือมั่น

เมื่อข้ามมาแล้วก็ถึงชมพูทวีป
และได้คัมภีร์มา..เป็นหนังสือเปล่าหนึ่งเล่ม
แทนธรรมมะ ซึ่งก็คือความว่างเปล่า ...
หรือ "นิพพาน" นั่นเอง

แต่สุดท้าย.. เห้งเจียขอให้มีอะไรกลับไปเมืองจีนหน่อย
เพราะคนธรรมดาคงไม่เข้าใจ
เลยได้คัมภีร์มาอีกเล่มนึง เต็มไปด้วยอักษร
เป็นบันทึกการเดินทาง เรียกว่า "พระไตรปิฎก" ...

เอวังก็มีด้วยประการฉะนี้

อ่านแล้วต้องคารวะคนแต่งเลย ....

วันศุกร์ที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

น้ำมะนาวร้อน

ผมได้ไปตรวจสุขภาพ ทำอัลตราซาวน์   เมื่อปลายปี 59 พบติ่งเนื้อในถุงน้ำดียาว 4 มม. หมอบอกไม่เป็นไร ถือว่าผิดปกติเล็กน้อย อีก 6 เดือนให้ไปอัลตราซาวน์ใหม่ ครั้งที่ 2 รอบนี้พบว่าติ่งเนื้อมีขนาดใหญ่ขึ้นเป็น 6 มม. หมอบอกยังไม่เป็นไรอีก อีก 6 เดือนให้ไปอัลตราซาวด์อีกครั้ง แต่ครั้งนี้ผมไม่ได้ไปตามนัด คิดว่าจะไม่ไปแล้ว จนกระทั่งเลยกำหนดไป 2 เดือนกว่าลูกๆจึงขอร้องให้ไปตรวจ จึงได้ไปทำอัลตร้าซาวน์อีกครั้ง เป็นครั้งที่ 3 คราวนี้พบว่าติ่งเนื้อเดิม เพิ่มขนาดขึ้นเป็น 1 ซม. หมอบอกควรผ่าตัดถุงน้ำดีออก เพราะหากปล่อยไว้ ติ่งเนื้ออาจกลายเป็นเนื้อร้ายได้ (ผมตรวจที่โรงพยาบาลเอกชนที่กรุงเทพฯ) เมื่อสอบถามค่าใช้จ่ายเห็นว่าสูงพอสมควรจึงขอประวัติไปรักษาต่อเนื่องที่โรงพยาบาลรัฐบาล (ผมใช้สิทธิ์ ข้าราชการเบิกค่าใช้จ่ายได้) เป็นโรงพยาบาลใหญ่ในกรุงเทพฯ เช่นกันหมอดูผลตรวจ แล้วแนะนำว่าหากติ่งเนื้อมีขนาดใหญ่กว่า 1 ซม. ควรผ่าตัดถุงน้ำดีออก ไม่ควรเก็บไว้ โดยท่านให้เวลาอีก 4 เดือนเพื่อมาอัลตราซาวด์ซ้ำอีกครั้งก่อนผ่าตัด

ผมกลับบ้านที่นครศรีธรรมราช เล่าให้บางคนได้ฟังหลังพูดคุยกับคุณณัชชา ปรีชา (ติ้ม) ได้แนะนำให้    ผมดื่มน้ำมะนาวในน้ำร้อน ผมจึงทำดื่มมาตลอด โดยใช้มะนาวสดวันละประมาณครึ่งลูกหั่นเป็นแว่นบางๆ 4-5 แว่น    ใส่แก้ว    รินน้ำร้อน ใส่วางไว้ให้เย็นดื่มหมดแก้ว เติมน้ำร้อนใหม่ดื่มซ้ำไปตลอดวันแล้วจึงเททิ้งในตอนเย็นทำอยู่   3  เดือน    ก่อนไปพบหมอ

เมื่อวันที่ 1 พ.ย. 61 ผมได้มาทำอันตราซาวน์อีกครั้งตามกำหนดและนัดฟังผลตรวจในวันที่ 2 พ.ย. 61 ตามนัด หมอบอกไม่พบเห็นติ่งเนื้อในถุงน้ำดีแล้ว แต่เห็นเป็นก้อนนิ่วเล็กๆขนาดใหญ่สุด 5 มม. หมอถามผมว่ามีอาการอย่างไรบ้างผมเล่าตามตรงว่าไม่มีอาการอะไรผิดปกติเลย หมอจึงว่าถ้าอย่างนั้นไม่ต้องผ่าตัดอีก 6 เดือน (28 เม.ย.62) ค่อยมาตรวจซ้ำ เพื่อตรวจเช็คว่าเป็นอย่างไรบ้าง

จึงบอกมายังทุกท่านว่า    ‘การดื่มน้ำมะนาวในน้ำร้อน’   ตามที่ผมได้ทดลองด้วยตนเอง ได้ผลดังที่กล่าว ตามบทความข้างล่างนี้ลองอ่านดูนะครับอาจจะยาวไปสักนิด แต่มีประโยชน์มาก

ขอบคุณเพื่อน    ณัชชา ปรีชา ที่แนะนำเคล็ดลับดีๆ ขอบคุณคุณหมอ ที่คิดค้นวิจัยและเผยแพร่เป็นอย่างสูง (หลังเมษายน 2562 ผลเป็นอย่างไรจะมาแจ้งความคืบหน้าให้ทราบกันอีกครั้งนะครับ

เสถียร วัฒนาพันธุ์
3 พ.ย. 61

**น้ำมะนาวร้อน

ในโรงพยาบาลกองทัพบก    แห่งกรุงปักกิ่ง(北京เป่ยจิง)มีศาสตราจารย์ท่านหนึ่งชื่อ    เฉินฮุ้ยเหยิน กล่าวหนักแน่นว่า

"ถ้าท่านผู้ใดได้รับเอกสารนี้แล้วสามรถส่งต่อๆไปให้ผู้อื่นอีกร่วมๆ  10  คน   แล้ว แน่นอนที่สุดเราก็จะสามารถช่วยเหลือชีวิตคนอื่นๆอีกได้อย่างน้อยๆ   ก็  1  คน”

ผมได้ทำสิ่งนี้แล้ว และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าท่านสามารถทำสิ่งนี้ด้วยขอขอบคุณมากๆ

น้ำมะนาวร้อน   นี้สามารถช่วยชีวิตของคุณได้ดีตลอดไป แม้คุณจะยุ่งแค่ไหนก็ตามก็ขอให้คุณเปิดอ่านข้อความเหล่านี้แล้วส่งต่อไปให้คนที่   คุณรักทุกๆ   คนได้รับทราบ

น้ำมะนาว   ร้อนนี้  ทำหน้าที่    ฆ่าเซลมะเร็ง ให้ท่านนำ   มะนาวมาผลหนึ่งแล้วทำ    การฝานเป็น    แว่น   บางๆ นำมันใส่ลง   ในแก้วน้ำ เทน้ำร้อน    ลงในแก้ว ทิ้งไว้สักครู่ น้ำมะนาว   ก็จะกลายสภาพ   เปลี่ยนเป็น

*ด่าง*

ทำดื่มมันทุกๆวัน มีผลดีต่อสุขภาพของทุกๆคน น้ำมะนาวร้อนนี้ นี้มันจะปลดปล่อย    สาร  รส  ขม    ที่ต้าน    มะเร็ง    ออกมา

นี่คือ    ความคืบหน้าทางการแพทย์ที่เกี่ยวข้องกับการบำบัดรักษาโรคมะเร็ง น้ำมะนาว   ที่เราแช่เย็นไว้มันมี    แค่วิตามิน *ซี* อย่างมะเขือเทศที่นำมาต้มสุกก็มีแต่   สารไลโปซีน

น้ำมะนาวร้อนนี้มีผลต่อ   การทำลาย  ซีส  และ   เนื้องอก  ต่างๆ ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าน้ำมะนาวร้อนสามารถรักษาโรคมะเร็งได้ทุกชนิด ใช้สารสกัดจากมะนาวมารักษาโรคมะเร็งมาทำลายล้างเซลมะเร็งร้ายให้หมดไป

น้ำมะนาวร้อน   จะไม่ไปทำลาย   และกระทบกระเทือน   ต่อเซลที่แข็งแรงดี   อื่นๆ   ในร่างกายเลย

นอกจากนี้ในน้ำมะนาวร้อน ยังมี   กรด  ซี  ตริก   และ   กรด  ฟีนอล  สามารถไปปรับระดับ   ความดันสูง   และยังช่วยป้องกันไม่ให้เกิดเส้นเลือดตีบ    ปรับการไหลเวียนของเลือดให้ดีขึ้น ลดการจับกันจนแข็งตัวของเลือด

หากอ่านข้อความเหล่านี้จบแล้ว ขอได้โปรดบอกต่อๆให้คนอื่นๆคนในครอบครัวญาติๆเพื่อนๆ และขอให้ดูแลสุขภาพของตัวท่านเองให้มีสุขภาพแข็งแรงอยู่อย่างสม่ำเสมอนะครับ