วันพฤหัสบดีที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2559

ไม่รู้ใครเขียนไว้ อ่านแล้วโดน จึงส่งมาให้เพื่อน มิตร ศิษย์ ครู ได้อ่าน

เพื่อการคิด การพูด การฟัง และการทำที่ดีกว่า

กฎของศูนย์ (0) 30 ข้อ

1. มีแผนการ แต่ไม่ได้ทำ = ศูนย์
2. มีโอกาส แต่ไม่รักษา = ศูนย์
3. มีลงมือทำ แต่ไม่ต่อเนื่อง= ศูนย์
4. มีคุณค่า แต่ไม่แสดง = ศูนย์
5. มีก้าวหน้า แต่ไม่มีความอดทน = ศูนย์
6. มีหน้าที่ แต่ไม่สื่อสาร = ศูนย์
7. มีศักยภาพ แต่ไม่สำแดง = ศูนย์
8. มีสร้างสรรค์ แต่ไม่ผลักดัน = ศูนย์
9. มีความรู้ แต่ไม่รู้จักใช้ = ศูนย์
10. มีเป้าหมาย แต่ไม่กล้า = ศูนย์
11. มีเวที แต่ไม่ทำอย่างเต็มที่ = ศูนย์
12. มีอุทิศให้ แต่ไร้ประโยชน์ = ศูนย์
13. มีหลักการ แต่ไม่ยืนหยัด = ศูนย์
14. มีอุดมการณ์ แต่ไม่ยาวนาน = ศูนย์
15. มีความกระตือรือร้น แต่ไร้
จุดหมาย = ศูนย์
16. มีความเด็ดขาด แต่ไม่มีความแน่วแน่ = ศูนย์
17. มีไอเดีย แต่ไม่มีการกระทำ = ศูนย์
18. มีน้ำใจ แต่ไร้ความอ่อนน้อม = ศูนย์
19. มีแต่ออกคำสั่ง แต่ไม่ร่วมทำ = ศูนย์
20. มีวิธี แต่ไม่กระทำ = ศูนย์
21. มีกระทำ แต่ไม่มีประสิทธิภาพ = ศูนย์
22. มีตลาด แต่ไม่ปรับกลยุทธ์ = ศูนย์
23. มีงานทำ แต่ขาดคุณภาพ = ศูนย์
24. มีมาตรฐาน แต่ขาดการตรวจสอบ = ศูนย์
25. มีผลงาน แต่ขาดกำลังใจ = ศูนย์
26. มีระบบ แต่ไม่ใช้ = ศูนย์
27. มีแผนงาน แต่ขาดการประเมิน = ศูนย์
28. มีทีม แต่ไม่ให้ความร่วมมือ = ศูนย์
29. มีสายตาแหลมคม แต่มองไม่เห็น = ศูนย์
30. มีปัญหา แต่ไม่แก้ไข = ศูนย์

วันศุกร์ที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2559

ศาสนาในไทย ฝากไว้

       part 1.... good morning friends ...Today i like to write an article(บทความ) about ...The Religions(ศาสนา) of Thailand ...
     Buddhism (ศาสนาพุธ) come from Idia .A long time ago ..there was a prince called  Siddhatha Gautama .He ws born (v.tobe +vช่อง2 เป็น passive voice  ใช้กับอะไรที่ทำเองไม่ได้ ต้องให้คนอื่นทำให้ ท่านเกิดเองไม่ได้  ,he is called  =เขาถูกเรียกว่า.คนอื่นเรียกเรา ...)in a palace but he left his home to learn about the world .He travelled(เดินทาง ท่องเที่ยว) for many years and taught(ช่อง2 ของ teach =สอน) a lot of people about his ideas .People called him...Buddha...
  สวีัสดีเพื่อนๆ วันนี้ผมอยากจะ เขียนโพสบทความเรื่องเกี่ยวกับ ศาสนาในเมืองไทยครับ (หัดคิด หัดพิมพ์ หัดภาษาไปครับ)
    ศาสนาพุธ มาจากประเทศ อินเดีย นานมาแล้ว มีเจ้าชายชื่อว่า สิทธัทถะ กุมาร ท่านเกิดในวัง แต่ท่านได้ละทิ้งบ้านท่านเพื่อเรียนรูปโลกภายนอก ท่านเดินทางท่องเที่ยวไปหลายปี และสั่งสอนคนในเรื่องที่ท่านได้เรียนรู้มา คนทั่วไปเรียกท่านว่า..""พระพุทธเจ้า..""..เดี๋ยวมีต่ออีกครับ ค่อยๆเขียน เวลามีไม่มาก แบ่งๆไปทำหลายอย่างครับ ...เป็นตัวอย่างครับ ใครอยากพัตนาก็หาบทความมาเขียนเล่าสู่กันฟังครับ ...pjmong..

     Today i will continue my article from yesterday  in about ."..The Religion in Thailand  ".By spit to parts or  to be issues
     .......Buddhists( ชาวพุธ) learn( เรียน) about(เกี่ยวกับ) Buddhism (ศาสนาพุธ ) จากหนังสือที่เรียกว่า ""Tripitaka" (ไตรปิตะกะ=คนไทยอ่านว่า ไตรปิฎก....(กลัวผิดเหมือนกันนะเนียะ ...ถ้าผิดก็ช่วยบอกชด้วยช่วยแก้ด้วยนะครับ ไม่ได้เป็นผู้ชำนาญ บางทีก็เดาเอาครับ ใช้หลักการนิดหน่อย) .Tripitaka mean.""tree baskets .Along time ago the Buddhist teachings were writen on leaves and put in baskets. 
  วันนี้จะขอต่อบทความที่ลงไว้เมื่อวานครับ เรื่อง ศาสนา ในประเทศไทย โดยแบ่งบทความเป็นส่วนๆ(parts) หรือ เป็นส่วนย่อยๆต่อเนื่อง(issues) ....
ชาวพุธเรียนเกี่ยวกับศาสนาพุธ จากหนังสือ พระไตรปิฎก ซึ่งหมายถึง ตระกรีาสามใบ ( คือ 1.วินัยปิฎก =เรื่องวินัย ของพรัภิษุ,ภิษุกณี
2.สุตตันตปิฎก=พระธรรมทั่วๆไป  3.อภิธัมมปิฎก=ธรรมมะที่สำคัญๆ   ...ผู้แปล..) นานมาแล้ว ชาวพุธเขียนธรรมมะลงบนใบไม้ (ใบลาน,หรือใบตาล)และใส่ตะกร้า เก็บไว้....pjmong...ผู้แปล ผิดพลาดประการใดช่วย แนะนำดีวยครับ..

....Religions in thailand part 3....
     Buddhism teachs us......to be good..,to be  respectful and polite... .tobe happy by helping others...,how to be  patient ..
  ศาสนาพุธสอนให้เราเป็นคนดี .., เคารพและสุภาพต่อผู้อื่น ...,สอนให้มีความสุขด้วยการช่วยเหลือผู้อื่น...,และสอนวิถีของความอดทน วางเฉยต่อทุกข์ที่เกิดต่อหน้า
     - Buddhists give food  to the monke in the morning  ชาวพุธใส่บาตรตอนเช้า
- Buddhists put flowers and burn incense or candles  at statuss of Buddha  ชาวพุธ ถวายดอกไม้ จุดธูป(สมัยก่อนใช้กำยาน  ที่มีควันหอมๆ  ) จุดเทียน ถวายต่อหน้าพระพุธเจ้า
  Buddhists  go to pray in temples ชาวพุธไปสวดมนต์ที่วัด
   Buddhists meditate ชาวพุธเป็นผู้เจริญต่อสมาธิ และพิจารณา ....พยายามแปลโดย...pjmong..

ศิล...บุญ

O “ศีล”เป็นกำลังไม่มีที่เปรียบ ศีลเป็นอาวุธสูงสุดศีลเป็นเครื่องประดับอย่างประเสริฐสุด ศีลเป็นเกราะอย่างอัศจรรย์”
นี้เป็นพระพุทธศาสนาสุภาษิต ผู้อ่านหรือผู้ฟัง ด้วยความใส่ใจแม้เพียงเล็กน้อย ย่อมรู้สึกได้ถึงความประเสริฐเลิศล้ำของศีล แต่ผู้ใดจะปรารถนาทำตนให้เป็นผู้มีศีลหรือไม่ ขึ้นอยู่กับความมีบุญหรือไม่มีบุญของผู้นั้น พึงพิจารณาตนให้ดี ตกลงใจให้ดี ว่าจะยอมเป็นผู้ไม่มีบุญ หรือจะเป็นผู้ใฝ่บุญ ได้เป็นผู้มีบุญ""กดไลด์กดแชร์ขอให้สมหวังในสิ่งที่มุ่งมาดปรารถนา ประสบแต่โชคลาภและมีชิวิตอันอุดมสมบรูณ์......
O บุญเป็นเครื่องนำสุขมาให้ แทบทุกคนเข้าใจความจริงนี้ดี แต่แทบทุกคนหลงลืมความจริงนี้ จึงไม่เอาจริงเอาจังที่จะทำบุญให้เกิดขึ้นเป็นสมบัติของตนเพื่อให้นำความสุขมาให้ตน ทั้งที่รู้ว่าบุญจะนำสุขมาให้เป็นอำนาจของกรรมไม่ดีที่ให้เป็นไป ให้ไม่สามารถนึกได้ถึงอานุภาพแห่งบุญ ที่จะนำให้เกิดความสุข.
พระนิพนธ์สมเด็จพระญาณสังวร
สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก"

วันพฤหัสบดีที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2559

หินปูนในร่างกาย

###หินปูนจากกรดยูริค ##


#หินปูนหรือกรดยูริกสะสม ถ้าท่านเคยมีประวัติกินสัตว์ปีกซึ่งเป็นสารอาหารที่มีเพียวลีนสูง  อย่างเช่น เป็ด ไก่ ห่าน สัตว์ปีกทุกชนิด เครื่องในสัตว์ ผักที่มีกลิ่นฉุน ยอดผัก รวมถึงผักยอดนิยม อย่างเช่นคะน้า กะหล่ำปลี บรีอคโคลี่ แตงกวาและข้าวกล้อง รู้ไหม ข้าวกล้องหรือน้ำข้าวกล้องงอก อันดับหนึ่งเลยนะ คนมักจะกินข้าวกล้องโดยหวังผลว่าจะได้วิตามิน แต่สิ่งที่เป็นภัย ของเสียที่มากับข้าวกล้องไม่มีใครบอก เขาจะบอกแต่ด้านดีว่าบำรุงสมอง มีสารกาบาอะไรอย่างนี้ แต่ข้อเสียของข้าวกล้องก็คือมีเพียวลีนสูง กินแล้วจะเกิดกรดยูริก ท่านก็จะปวดเข่า ปวดข้อ กินข้าวกล้องนานๆ สมองแจ่มใสก็จริง แต่ทำไมเดินไม่ได้ ไปไหนก็เดินกระย่องกระแย่ง ปวดเข่าปวดข้อ อากาศหนาวก็ปวด 

เรามาหาตัวที่จะมาแก้กันนะคะ ตัวที่จะไปลดยูริค ลดพีวลีน แก้อาการเก๊าต์ แล้วหินปูนไปเกาะที่ไหนบ้าง หินปูนเกาะที่จอประสาทตา วันหนึ่งอยู่ดีๆเลือดไม่ไปเลี้ยงที่จอประสาทตา หมอก็จะบอกว่า จอประสาทตาเสื่อมโดยไม่ทราบสาเหตุมันมีสาเหตุแต่หมอไม่ทราบเท่านั้น คือมีหินปูนไปเกาะไง ถ้าเราล้างหินปูนทางตา เราก็จะไม่มีปัญหาตาเป้นต้อเป็นอะไร สายตาสั้น-สายตายาวยังพอให้อภัย แต่ตาเป็นต้อนี่ ไม่น่าให้อภัย อย่าเป็นกันนะ ตาเป็นต้อ ท่านต้องล้างหินปูน

-หินปูนเกาะที่ขั้วปอด คราวนี้ก็เป็นหอบหืด ไอไม่เลิกอย่างนี้นะ-หินปูนไปเกาะที่เส้นเลือดฝอยหัวใจ อยู่ๆก็ทำให้หัวใจวายได้-หินปูนไปเกาะที่กระดูกสันหลังก็กลายเป็นกระดูกงอกกดทับเส้นประสาท จริงๆเราล้างหินปูน อย่าให้มันไปเกาะก็สิ้นเรื่อง ยาลดกรดยูริกไม่มีนะคะ

## สารพิวลีนเมื่อเจอกับความเครียดในร่างกายจะเปลี่ยนเป็นกรดยูริกลอยเท้งเต้งอยู่ในกระแสเลือด สะสมนานเข้าก็ตกตะกอนกลายเป็นหินปูน หินปูนก็จะไปเกาะตามอวัยวะต่างๆ เช่นเกาะในหู เกาะจอประสาทตาเป็นต้อหิน ทั้งผ่าทั้งขูดทั้งลอกเท่าไหร่ ถ้าไม่แก้ที่ต้นเหตุก็จะงอกอีก หรือไปเกาะตามข้อกระดุก ทำให้คนเรามีอาการปวดรุ่นแรง ปวดข้อปวดเข่า ปวดกระดุก จนกลายเป็นโรคเก๊าตื  รูมาตอยดื และที่ร้ายกว่านั้น  หินปูนอาจจะไปเกาะตามอวัยวะสำคัญเช่นปอด  ตับ ไต หัวใจ โดยเฉพาะหลอดเลือดหัวใจ ถ้าแก้ไขไม่ทันอันตรายถึงชีวิต แล้วเราจะทำอย่างไรล่ะ มี สองสูตร 
&&สูตร ที่ 1สูตรน้ำลูกเดือย ขอแนะนำว่าให้ใช้ลูกเดือยต้มน้ำเป็นเครื่องดื่มน้ำลูกเดือยดื่มเป็นประจำจะช่วยลดหินปูน วิธีทำ ลูกเดือย 1 กำมือ ต้มกับน้ำ 1 ลิตร ให้เป็นเหมือนน้ำข้าว ดื่มอุ่นๆได้ทั้งวัน พอน้ำงวดก็เติมน้ำร้อนใหม่ ดื่มได้อีก เติมอีกดื่มอีก จนกว่าจะจางใส ดื่มติดต่อกัน 7-15 วัน

🍂🍂(กากลูกเดือยทิ้งไปไม่ต้องกิน เพราะถ้ากินแล้วมันจะไปดึงตัวยากลับมาการรักษาจะไม่ได้ผล) 🍂🍂

***ถ้าเติมถั่วขาวลงไปด้วยจะบำรุงปอด บำรุงไต และเพิ่มสรรพคุณในการล้างหินปูนได้แรงขึ้นเร็วขึ้น (อัตราส่วน ลูกเดือย 2 ส่วน ถั่วขาว 1 ส่วน)

🍂🍂น้ำลูกเดือย ถ้าดื่มก่อนนอนวันละ 2 แก้ว จะไปช่วยบำรุงตับทำให้หลับสบาย ด้วยนะจ๊ะ🍂🍂

&-สูตรที่ 2 ใบรางจืด 7 ใบ ใบเตย 7 ใบ ต้มกับน้ำ 3 แก้วต้มแล้วให้น้ำเหลือ 2 แก้ว ให้ดื่มช่วงท้องว่างจะช่วยในการดูดซึมได้ดีกว่า ดื่มต่อเนื่อง 8-10 วัน (ต้องต้มใหม่ทุกวัน) จึงจะได้ผล คือต้มดื่มวันต่อวัน พอวันรุ่งขึ้น ต้มใหม่

🍃🍃สูตรรางจืดใบเตย เมื่อใส่ใบเตยแล้วไม่ต้องกลัวว่า มันจะไปล้างอะไร มันจะล้างแค่หินปูนเท่านั้น 🍃🍃

### สูตรต่างๆทั้งหลายเหล่านี้ เมื่อกินได้ระยะหนึ่งจนหายดีแล้ว ให้เลิกกินบ้าง ไม่ใช่ว่าชอบกินอะไรก็จะกินแต่สิ่งเหล่านั้นเรื่อยไป

&& สูตรน้ำใบรางจืดใบเตย จากหนังสือชีวิตนี้อยู่ได้ 150 ปี ตามวิถีภูมิปัญญาไทย

บางคน มีค่ายูริกสูง  จะตรวจพบค่าของไต สูงไปด้วย ทั้งๆที่ไม่ได้กินเค็ม เป็นเพราะมีหินปูนไปเกาะที่เนื้อเยื่อไต นั่นเอง  บางคนเป็นโรคเก๊าท์จะได้โรคไตแถมมา ก็มี ไม่เป็นไร เรามีตัวแก้

โดยปกติเนื้อเยื่อของไตจะมีลักษณะอ่อนนุ่ม ผิวเป็นรูพรุน เหมือนฟองน้ำ แต่เมื่อหินปูนไปเกาะ ทำให้ไตแปรสภาพคล้ายของแข็ง เหมือนมีปูนปลาสเตอร์ไปโบก ไม่สามารถทำหน้าที่ได้ตามปกติ หมอก็จะจับฟอกไต แค่เราล้างหินปูน ออก ด้วยสูตรน้ำลูกเดือย กับสูตรน้ำรางจืดใบเตย. ก็จะได้ไม่ต้องไปฟอกไต ให้เปลืองตัวเปลืองตังค์ แถมเสียเวลาทำงาน เวลาคนเราเจ็บป่วย มันชวนหงุดหงิดในหัวใจ นะเออ ดูแลสุขภาพก่อนป่วย เป็นสิ่งสำคัญ ดีกว่าป่วยแล้วมารักษา.

เรียบเรียงโดย: คุณนปภา

วันอาทิตย์ที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2559

ธรรมชาติมะเร็ง

ห้ามผ่าน ต้องอ่าน ต้องอ่าน สำคัญมาก จนต้องแชร์

ดร. รุ่ง  จาก รพ. จุฬาส่งมาให้ น่าสนใจมาก

Shafin de Zane presents: What is Cancer?

นี่คือ สิ่งที่คุณ ไม่เคยคาดคิด มาก่อนเลยว่า จะมีผู้ใดกล่าวว่า - มะเร็ง คือ ธรรมชาติ
(Cancer is Natural)
มะเร็ง คือ ธรรมชาติ ของการปรับตัว ของเซลล์ อันเนื่องมาจาก การที่เลือดของเรา กลายเป็นพิษ เกินกว่าที่ เซลล์จะมีชีวิต ต่อไปได้ ถ้าหาก เซลล์เหล่านั้น ไม่ปรับตัว เซลล์เหล่านั้น จะป่วย และตาย เซลล์เหล่านั้น จึงตอบสนอง อย่างเป็น ธรรมชาติ ด้วยการผ่าเหล่า เพราะเซลล์ ในร่างกายมนุษย์ มีความสามารถ ที่จะปรับตัว เพื่อรับมือกับ การเปลี่ยนแปลง การปรับตัว ของเซลล์ จึงเป็นสิ่ง ที่เป็นธรรมชาติ
เป็นที่ น่าเสียดายว่า คุณหมอทั่วโลก บอกกับเราว่า วิธีการรักษามะเร็ง คือ การบำบัดด้วย-คีโม หรือ การทำลาย เซลล์มะเร็ง ด้วยรังสี แต่สิ่งที่คุณหมอ ไม่ได้บอกเราคือ ทำไมเซลล์มะเร็ง จึงผ่าเหล่า
ตั้งแต่แรก? อย่างไรก็ตาม- เมื่อสภาพแวดล้อม เปลี่ยนไป เซลล์อีกจำนวนมาก ก็จะผ่าเหล่า- ต่อไปอีก-ไม่เร็วก็ช้า นั่นเป็นสาเหตุ ที่เราพบเห็น
ผู้ป่วยมะเร็ง ถูกให้คีโม ดีขึ้นเพียงชั่วคราว แล้วกลับทรุด ลงไปใหม่อีก
จากมุมมอง ของเซลล์ หากมัน ไม่ผ่าเหล่า-มันจะต้องตาย การผ่าเหล่า ของเซลล์ จึงเป็นธรรมชาติ
มะเร็ง แท้จริงแล้ว คือ วิวัฒนาการ ของกลุ่มเซลล์ ที่พยายามรอดตาย จากสภาพแวดล้อม ที่เป็นพิษ แต่ทั้งหมดนี้ ก็กลายเป็นสิ่งที่ ควบคุมไม่ได้ เพราะเซลล์เหล่านั้น ลงเอยด้วยการ- ฆ่าร่างกาย แต่นั้น ไม่ใช่ประเด็น ที่แท้จริง

มะเร็ง คือ วิวัฒนาการ ของกลุ่มเซลล์ ที่พยายาม จะรอดตาย ในสภาพแวดล้อม ที่เป็นพิษอย่างสูง เราต้องพยายาม ทำความเข้าใจ ในประเด็นนี้ ให้ชัดเจน การพยายามฆ่า เซลล์เหล่านั้น -โดย ไม่ได้เปลี่ยนแปลง สภาพแวดล้อม เปรียบได้กับ การฆ่าแมลงวัน โดยไม่ได้พยายาม เอาขยะออกไป
เอาละ คุณจะลงมือ อย่างฉับพลัน- เพื่อปรับปรุง สภาพแวดล้อม ของคุณ อย่างรวดเร็ว ได้อย่างไร
มีวิธีการง่ายๆ ด้วยกัน 3 วิธีคือ:

👉วิธีที่ 1. หายใจลึกๆ - หายใจลึกๆ
สิ่งแรกที่กระตุ้น ให้เซลล์ผ่าเหล่า และ กลายเป็น เซลล์มะเร็ง คือ การขาดออกซิเจน
เซลล์มะเร็ง ปรับตัวเพื่อรอดชีวิต ในสภาพแวดล้อม ที่มีระดับ ออกซิเจนต่ำ ยิ่งมีออกซิเจน ต่ำเท่าไร เซลล์มะเร็ง ก็ยิ่งเติบโต ได้มากขึ้นเท่านั้น เพราะนี่คือ วิวัฒนาการ ของเซลล์ ที่ปกติต้องการ จะรอดชีวิต อยู่ได้ ในสภาพแวดล้อม ที่มีระดับ ออกซิเจนต่ำ - วิธีแก้ไขคือ หายใจลึกๆ ซึ่งเป็นการ ออกกำลังง่ายๆ ที่ทำได้ทุกเช้า เพื่อเพิ่ม ระดับออกซิเจน ให้กับเลือด
-- เดิน 5 นาที แล้วหายใจแบบนี้ คือ
- หายใจเข้า 4ครั้ง ติดกัน กลั้นหายใจแล้วนับ 1 ถึง4
- หายใจออกช้าๆ 4 ครั้ง ติดกัน
ทำอย่างนี้ครับ
>>>> 1-2-3-4 <<<<
ทำอีกครั้งครับ
>>>> 1-2-3-4 <<<<
ผมหายใจเข้าทางจมูก >>>>
กลั้นใจแล้วนับ 1-2-3-4
หายใจออกทางปาก <<<<
หายใจ เข้าไปในท้อง ไม่ใช่หายใจ เข้าไปในอก นี่คือวิธีการหายใจ ที่ถูกต้อง ถ้าหากไม่มีที่เดิน ให้เดิน ในห้องนอน ของคุณ เพราะมันมีที่ พอสำหรับ
การออกกำลัง ของเราทุกวิธี

👉วิธีที่ 2 หยุดรับประทาน -กรด
สิ่งที่สอง ที่มากระตุ้นเซลล์ ให้ผ่าเหล่า กลายเป็น เซลล์มะเร็ง คือ สภาพแวดล้อม ที่เป็นกรด เพราะนั่นคือ การตอบสนอง ที่จะทำให้ เซลล์รอดชีวิตได้ ในสภาพแวดล้อม ที่เป็นกรด เซลล์ที่ผ่าเหล่า จะตาย ในสภาพแวดล้อม ที่เป็นด่าง และเติบโต ในสภาพแวดล้อม ที่เป็นกรด คุณจะทำ ให้ร่างกายของคุณ เป็นด่างได้ ก็ด้วยการ รับประทาน
อาหารที่เป็นด่าง มากขึ้น
- น้ำผัก น้ำผลไม้สด มีประสิทธิภาพ สูงมาก
- งดน้ำตาล โคคา-โคล่า เปปซึ่ และ น้ำอัดลมทุกชนิด กาแฟ เนื้อสัตว์ นม บุหรี่ และ แอลกอฮอล์
- รับประทาน ผักสดสีเขียว ผลไม้สด น้ำด่าง และ น้ำมะพร้าว หากคุณ ต้องการเห็น การเปลี่ยนแปลง ของสุขภาพ อย่างน่าอัศจรรย์ ในระยะเวลาอันสั้น ดื่มน้ำผักสดปั่น ทุกเช้า โดยไม่ต้อง รับประทาน อะไรอีกเลย จนกว่าจะถึง มื้อเที่ยง -นำผักใบเขียว หลากชนิด มะเขือเทศ แตงกวา ปั่นกับน้ำสะอาด แล้วดื่ม คุณอาจจะคิดว่า มันไม่น่าดื่มเลย แต่มันไม่เลวร้าย และออกจะอร่อย ด้วยซ้ำไป เมื่อคุณ คุ้นเคยกับมัน

👉วิธีที่ 3 ดูแลร่างกายของคุณ
ความเครียด ทำให้ ระบบภูมิคุ้มกัน อ่อนแอ
ความเครียด คือ ฆาตกรเบอร์หนึ่ง และเป็นต้นเหตุ ที่ก่อให้เกิดโรค -ทุกโรค ความเครียด เพิ่มกรด และ ส่งผลกระทบ ต่อทุกสิ่งทุกอย่าง ในร่างกาย มันจึงเป็นสิ่ง ที่สำคัญมาก ที่เราจะต้อง ทำจิตใจ ให้แข็งแรง เบิกบานอยู่เสมอ
คุณจะทำเช่นนั้น ได้อย่างไร ?
- ทำสมาธิ ดูหนังตลก ละเว้นจากการดู ข่าวร้าย
และ เรื่องเลวร้าย อ่านหนังสือดีๆ ที่ทำให้เกิด แรงบันดาลใจ หาสัตว์มาเลี้ยง พบเพื่อนใหม่ๆ สัมพันธภาพใหม่ๆ ปลดความทุกข์ ความสลดใจเก่าๆ และสิ่งเลวร้ายต่างๆ ที่ผ่านไปแล้ว

👏และแชร์ข้อมูลนี้ ให้กับผู้อื่นต่อไป ให้มากที่สุด ที่คุณจะทำได้
ความเจ็บปวด และ ความเสียหาย ที่เกิดจากการ บำบัดด้วยคีโม เลยเถิดไปอย่าง เหนือคำบรรยาย
ช่วยให้ผู้อื่น ตื่นจากฝันร้าย ที่เกิดจาก โฆษณาชวนเชื่อ ของผู้ผลิตยา กันเสียที การป้องกัน และ รักษาตนเอง ให้หายจากมะเร็ง เป็นสิ่งที่ง่ายดาย เสียจนแทบ จะเป็นเรื่องตลก อย่างเหลือเชื่อ
ใช้ความคิด ให้ถูกต้อง
จงเปลี่ยนน้ำ ในบ่อปลา เมื่อปลาป่วย เพราะ การทำลายบ่อปลา ไม่ใช่ทางออก ที่ถูกต้อง
มาช่วยกัน ทำให้โลกของเรา ในวันนี้- น่าอยู่ขึ้น

เครดิต ดร.ชนิสา อรรถจินดา Chanisa Arthachinda, Ph.D., ดร.รุ่ง รพ.จุฬา

ตีแผ่บทความ โดย นฤมล ฮอร์นบี  #TheiCon

วันเสาร์ที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2559

ปรัชญาดีๆ

1. เมื่อวาน
ไม่สามารถกลับไป
แก้ไขอะไรได้
จึงมีวันพรุ่งนี้
ให้เราได้ทำสิ่งดีๆต่อไป
════ღஐƸ̵̡Ӝ̵̨̄Ʒஐღ═════
2. คนเดียวเท่านั้น
ที่จะช่วยให้คุณผ่าน
ทุกปัญหาได้
คือ "ตัวคุณ"
════ღஐƸ̵̡Ӝ̵̨̄Ʒஐღ═════
3. เรื่องวุ่นวายบนโลก
มีอยู่ 2 อย่างเท่านั้นคือ
"ไปหลงรัก" และ
"ไปหลงเกลียด"
════ღஐƸ̵̡Ӝ̵̨̄Ʒஐღ═════
4. ความสบายใจ
ไม่ได้เกิดจาก
ทำทุกสิ่งให้ได้ดังใจ
แต่เกิดจากใจ
ที่ยอมรับว่า ไม่มีอะไร
ที่จะได้ดังใจเราไปทั้งหมด
════ღஐƸ̵̡Ӝ̵̨̄Ʒஐღ═════
5. ต่างคนต่างความคิด
ต่างจิตต่างใจ
อย่าดูถูกความคิดใคร
ถ้าความคิดต่าง
════ღஐƸ̵̡Ӝ̵̨̄Ʒஐღ═════
6. อ่านหนังสือออก สำคัญ
อ่านเหตุการณ์ออก สำคัญกว่า
อ่านคนอื่นออก สำคัญยิ่ง
อ่านตนเองออก สำคัญที่สุด
════ღஐƸ̵̡Ӝ̵̨̄Ʒஐღ═════
7. ถ้าคิดได้ ให้ช่วยคิด
ถ้าคิดไม่ได้ ให้ช่วยทำ
ถ้าทำไม่ได้ ให้ความร่วมมือ
ถ้าร่วมมือไม่ได้ ให้กำลังใจ
แม้ให้กำลังใจไม่ได้
ให้สงบนิ่ง
════ღஐƸ̵̡Ӝ̵̨̄Ʒஐღ═════
8. ละได้ ใจก็สะอาด
วางได้ ใจก็โล่ง
ปลงได้ ใจก็เย็น
อภัยได้ ใจก็สงบ
════ღஐƸ̵̡Ӝ̵̨̄Ʒஐღ═════
9. เงาจันทร์ เกิดจาก
ความนิ่งของน้ำ ฉันใด
ปัญญา เกิดจาก
ความนิ่งของใจ ฉันนั้น
════ღஐƸ̵̡Ӝ̵̨̄Ʒஐღ═════
10. ไม่ใช่ความทุกข์
ที่ทำให้เราคิดมาก
แต่เป็นเพราะเราคิดมาก
ทำให้เกิดความทุกข์
════ღஐƸ̵̡Ӝ̵̨̄Ʒஐღ═════
11. รู้จักให้ รู้จักรับ
รู้จักปรับ รู้จักให้อภัย
รู้จักแบ่ง รู้จักได้
รู้จักแข็ง รู้จักคลาย
ชีวิตจะเบาสบาย
และมีความสุข
════ღஐƸ̵̡Ӝ̵̨̄Ʒஐღ═════
12. หาที่สงบร้อยที่
ยังไม่ดีเท่าสงบที่ใจตน
รู้จักคนร้อยคน
ไม่ดีเท่ารู้จักตน
เพียงคนเดียว
════ღஐƸ̵̡Ӝ̵̨̄Ʒஐღ═════
13. เมื่อมี จงรู้จักให้
เมื่อได้ จงรู้จักพอ
เมื่อขอ จงรู้คุณค่า
คนเราเกิดมา ถึงเวลา
.........ก็ ต้องจากไป
════ღஐƸ̵̡Ӝ̵̨̄Ʒஐღ═════
14. สิ่งที่ย้อนไม่ได้ คือเวลา
สิ่งที่หนีไม่ได้ คือความตาย
สิ่งที่ชื้อไม่ได้ คือ สุขภาพ&ชีวิต
สิ่งที่มองไม่เห็น คือใจคน
สิ่งที่ต้องอดทน คือใจตัวเอง
════ღஐƸ̵̡Ӝ̵̨̄Ʒஐღ═════
15. ไฟไม่ได้ร้อน
ถ้าเราไม่เอาตัวเข้าไปใกล้
ทุกข์ใดๆก็ไม่ทำให้เราหนัก
ถ้าเราไม่เอาใจเข้าไปแบก
16. กำลังใจอาจหาได้
จากคนรอบข้าง
แต่ความเข้มแข็ง
เราต้องสร้างมันขึ้นเอง
════ღஐƸ̵̡Ӝ̵̨̄Ʒஐღ═════
17. บางครั้งกำลังใจ
นอกจากจะมีไว้ให้ใครๆ
ก็ต้องเก็บไว้ให้ตัวเองด้วย
════ღஐƸ̵̡Ӝ̵̨̄Ʒஐღ═════
18. เมื่อตัดสินใจ
ที่จะเดินไปข้างหน้า
ก็อย่าหวั่นไหวกับปัญหา
ที่จะต้องพบเจอ
════ღஐƸ̵̡Ӝ̵̨̄Ʒஐღ═════
19. คนมีปัญญา
มักมองเห็นโอกาส
ในทุกๆปัญหา
คนขาดปัญญา
มักมองเห็นปัญหา
ในทุกๆโอกาส
════ღஐƸ̵̡Ӝ̵̨̄Ʒஐღ═════
20. ทุกครั้งที่เรา ไม่เข้าใจกัน
ไม่ผิดที่จะโกรธ
แต่ผิดที่เราไม่ขอโทษกัน
════ღஐƸ̵̡Ӝ̵̨̄Ʒஐღ═════
21. จงเป็นคนดี
คนเก่งและมีความสุข
แค่นี้ก็เป็นคนโดยสมบูรณ์แล้ว

วันอาทิตย์ที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2559

การนั่งกรรมฐาน

ตัวอย่างคนนั่งกรรมฐาน ช่วยแม่ขึ้นมาจากนรก - กฎแห่งกรรม (หลวงพ่อจรัญ ฐิตธัมโม)

เมื่อเร็ว ๆ นี้มีเรื่องเล่า กรรมฐานอุทิศส่วนกุศลช่วยแม่ผูกคอตายขึ้นมาจากนรกได้

มีโยมคนหนึ่ง ไม่ต้องออกชื่อรับราชการ ซี.๗ ยังไม่มีครอบครัว อยู่กับแม่ ๒ คน บ้านใหญ่โตแถวบางกะปิ เขาไม่ทราบแม่เขาแท้ที่จริงเป็นน้าสาว เลี้ยงเขามาตั้งแต่ยังเล็ก ๆ และไม่ทราบว่าพ่ออยู่ที่ไหน แต่ก็รู้ว่าอยู่แถว ๆ ถนนสุขุมวิท พ่อเลิกกับแม่เขาไป

เขามานั่งกรรมฐานที่วัดนี้ ๒ ครั้ง ๆ ละ ๗ วัน ลาพักร้อนมาโยมไม่ทราบเหตุการณ์อื่นใดทั้งสิ้น นั่งกรรมฐาน ๗ วัน ครั้งแรกยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น ครั้งที่สอง มานั่งกรรมฐานกลับไปได้เรื่องออกมาเลย แม่ตัวจริงมาเข้าฝัน แต่งนุ่งขาวด้วย มาตอนตี ๓ ตี ๔ มากอดลูกบอกว่า

ลูกเอ๋ย แม่ได้ขึ้นจากนรกแล้ว นี่แม่ตัวจริงของเจ้า เจ้ารู้ไหมว่าแม่ผูกคอตายที่เตียงที่เจ้านอน แม่ผูกคอตาย ได้ลูกมานั่งเจริญกรรมฐานทำให้แม่ขึ้นมา จากนรกได้

อาตมาจับได้หลายรายการแล้ว ถ้าฆ่าตัวตาย ไม่ต้องไปทำบุญให้ ไม่ถึงแน่นอน บุญสูงสุด คือ บุญจากกรรมฐานแน่นอน

คุณโยมคนนี้ก็เล่าให้ฟังต่อไปว่า แม่มากอดลูก บอกว่าแม่จะเล่าความจริงให้ฟัง พ่อเจ้าไปมีเมียใหม่ กลับมาบ้าน น้าเจ้าเอาปืนขับยิงพ่อเจ้า พ่อเจ้าจึงเข้าบ้านไม่ได้ น้าเจ้าดุเป็นผู้ครองสมบัตินี้ ชื่อของน้าเจ้าทั้งนั้น พ่อเจ้าจึงไม่มาเลย ไปมีภรรยาใหม่ที่ถนนสุขุมวิท เจ้ามาเจริญกรรมฐาน แม่ขึ้นจากนรกแล้ว แม่ลำบากเหลือเกินลูกเอ๋ย เขาก็ทำโทษ ให้ขุดดินขุดทราย กินอาหารก็ไป กินที่กองขยะ ทรมานอย่างที่สุดลูกเอ๋ย พอเจ้ามาเจริญกรรมฐาน แม่ขึ้นจากนรกแล้ว บัดนี้แม่มาบอกขอบคุณขอบใจเจ้า

นี่ตำรา ได้ที่วัดนี้หลายเจ้า เช่น ตาเล่งฮ้วยผูกคอตาย พระสมภารชื่อหลวงตามด วัดกลางพรหมนคร ผูกคอตาย เช่นเดียวกัน เดี๋ยวนี้ยังไม่ไปเกิด ยังอยู่ตรงนั้น ไม่มีใครเจริญกรรมฐานให้ บรรดาญาติก็ไม่มีแล้ว โยมคนนี้ก็เล่าต่อไปว่า ลูกเอ๋ย ทอง ๔ เส้น แหวนเพชร ๓ วง แม่ฝากน้าเจ้าไว้ เขาให้เจ้าหรือยัง และก็ขอให้ลูกไปใช้หนี้ให้แม่หน่อยได้ไหม ก่อนตายแม่ไปขอยืมเพื่อนที่โรงเรียนสวนกุหลาบ ๔๘๐ บาท เจ้าเอาไปใช้แทนแม่หน่อยนะ โยมจำไว้อย่างหนึ่ง เวลาตายรูปร่างอย่างไร เวลามาเข้าฝันก็รูปร่างเหมือนเดิม ไม่มีแก่ เป็นรูปร่างของเปรตวิสัย มีรูปอยู่ที่บ้านเขา เขาก็ไม่รู้ว่าเป็นแม่ของเขา เข้าใจว่าน้าเป็นแม่ เพราะรูปร่างเหมือนกัน พอตกใจตื่นก็ไปปลุกน้า บอกว่า แม่เนี่ยะเป็นน้าหนูใช่ไหม น้าก็ตกใจ เอ๊ะ รู้ได้ยังไง เขาก็เล่าให้ฟัง น้าน้ำตาร่วงเลย แม่บอกว่า ฝากของน้าไว้ ยังอยู่ไหม แม่น้าบอกว่า ยังอยู่ ยังไม่ให้เจ้าหรอก เจ้ายังไม่มีครอบครัว เขาก็ลางาน ๑ วัน ไปสืบหาเพื่อนแม่ จนพบและเล่าเรื่องที่แม่ให้นำเงินมาใช้ เขาบอกว่า หนูไม่ต้องใช้ แม่เจ้าตาย ได้รับพระราชทานเพลิงศพที่วัดโสมนัส แม่ให้อโหสิกรรมแล้ว บอกดวงวิญญาณของแม่เจ้า ไม่เอาโทษ ยกโทษให้เลย

เขาโทร.มาบอกอาตมาเมื่อวันอาทิตย์ที่แล้วก็มาที่วัดเขาบอกว่า นั่งกรรมฐานให้แม่ทุกวัน นี่เห็นไหม ขอฝากญาติโยมไว้ เวลาใครตายจะอุทิศส่วนกุศล ไม่มีอะไรดีเท่ากรรมฐาน อุทิศให้ได้ผลอย่างสมคาด ปรารถนา จะได้รู้ว่าจะไปอยู่ที่ไหน ถ้าไปอยู่บนสวรรค์ เราทำบุญสังฆทานไป เขาก็รับอนุโมทนา แต่เขารับอาหารนี้ไม่ได้ เขากินอาหารทิพย์ ถ้าไปตกนรกโลกันต์ ขุมนรกที่ลึกมาก เราก็อุทิศให้ไม่ถึง ต้องเจริญกรรมฐานถึงจะได้ถึงนะ

- กฎแห่งกรรม (หลวงพ่อจรัญ ฐิตธัมโม)

แชร์ไปได้บุญ สาธุ..