วันจันทร์ที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

(Pir)😗😗😗ข้อคิดดีมาก..ใน Good-day😗😗😗

1. เมื่อวาน
ไม่สามารถกลับไป
แก้ไขอะไรได้
จึงมีวันพรุ่งนี้
ให้เราได้ทำสิ่งดีๆต่อไป

2. คนเดียวเท่านั้น
ที่จะช่วยให้คุณผ่าน
ทุกปัญหาได้
คือ "ตัวคุณ"

3. เรื่องวุ่นวายบนโลก
มีอยู่ 2 อย่างเท่านั้นคือ
"ไปหลงรัก" และ
"ไปหลงเกลียด"

4. ความสบายใจ
ไม่ได้เกิดจาก
ทำทุกสิ่งให้ได้ดังใจ
แต่เกิดจากใจ
ที่ยอมรับว่า ไม่มีอะไร
ที่จะได้ดังใจเราไปทั้งหมด

5. ต่างคนต่างความคิด
ต่างจิตต่างใจ
อย่าดูถูกความคิดใคร
ถ้าความคิดต่าง

6. อ่านหนังสือออก สำคัญ
อ่านเหตุการณ์ออก สำคัญกว่า
อ่านคนอื่นออก สำคัญยิ่ง
อ่านตนเองออก สำคัญที่สุด

7. ถ้าคิดได้ ให้ช่วยคิด
ถ้าคิดไม่ได้ ให้ช่วยทำ
ถ้าทำไม่ได้ ให้ความร่วมมือ
ถ้าร่วมมือไม่ได้ ให้กำลังใจ
แม้ให้กำลังใจไม่ได้
ให้สงบนิ่ง

8. ละได้ ใจก็สะอาด
วางได้ ใจก็โล่ง
ปลงได้ ใจก็เย็น
อภัยได้ ใจก็สงบ

9. เงาจันทร์ เกิดจาก
ความนิ่งของน้ำ ฉันใด
ปัญญา เกิดจาก
ความนิ่งของใจ ฉันนั้น

10. ไม่ใช่ความทุกข์
ที่ทำให้เราคิดมาก
แต่เป็นเพราะเราคิดมาก
ทำให้เกิดความทุกข์

11. รู้จักให้ รู้จักรับ
รู้จักปรับ รู้จักให้อภัย
รู้จักแบ่ง รู้จักได้
รู้จักแข็ง รู้จักคลาย
ชีวิตจะเบาสบาย
และมีความสุข

12. หาที่สงบร้อยที่
ยังไม่ดีเท่าสงบที่ใจตน
รู้จักคนร้อยคน
ไม่ดีเท่ารู้จักตน
เพียงคนเดียว

13. เมื่อมี จงรู้จักให้
เมื่อได้ จงรู้จักพอ
เมื่อขอ จงรู้คุณค่า
คนเราเกิดมา ถึงเวลา
.........ก็ ต้องจากไป

14. สิ่งที่ย้อนไม่ได้ คือเวลา
สิ่งที่หนีไม่ได้ คือความตาย
สิ่งที่ชื้อไม่ได้ คือ สุขภาพ&ชีวิต
สิ่งที่มองไม่เห็น คือใจคน
สิ่งที่ต้องอดทน คือใจตัวเอง

15.ไฟไม่ได้ร้อน
ถ้าเราไม่เอาตัวเข้าไปใกล้
ทุกข์ใดๆก็ไม่ทำให้เราหนัก
ถ้าเราไม่เอาใจเข้าไปแบก

16. กำลังใจอาจหาได้
จากคนรอบข้าง
แต่ความเข้มแข็ง
เราต้องสร้างมันขึ้นเอง

17. บางครั้งกำลังใจ
นอกจากจะมีไว้ให้ใครๆ
ก็ต้องเก็บไว้ให้ตัวเองด้วย

18. เมื่อตัดสินใจ
ที่จะเดินไปข้างหน้า
ก็อย่าหวั่นไหวกับปัญหา
ที่จะต้องพบเจอ

19. คนมีปัญญา
มักมองเห็นโอกาส
ในทุกๆปัญหา
คนขาดปัญญา
มักมองเห็นปัญหา
ในทุกๆโอกาส

20. ทุกครั้งที่เรา ไม่เข้าใจกัน
ไม่ผิดที่จะโกรธ
แต่ผิดที่เราไม่ขอโทษกัน

21. จงเป็นคนดี
คนเก่งและมีความสุข
แค่นี้ก็เป็นคนโดยสมบูรณ์แล้ว.

󾌬󾌬󾌬󾌬󾌬󾌬󾌬󾌬󾌬󾌬

วันพฤหัสบดีที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

ท่านรู้หรือไม่....???

    เชื่อว่า 90% ของคนใช้ smartphone (โทรศัพท์ที่ใช้เล่นไลน์ เล่นเฟส เข้าเน็ตได้) ใช้บริการจ่ายค่าโทรแบบเป็นแพคเกจ ตั้งแต่ถูกสุด 199 ถึง แพงสุดถึง 2000 ขึ้นไป ทุกค่ายมีราคาแพคเกจต่างกันไป แต่ที่เหมือนกันหมดคือในทุกแพคเกจจะบอกว่ารวมใช้เนตแบบไม่อั้น ไม่มีวันหมด .....แต่เคยเจอไหมครับว่าวันดีคืนดีมี sms มาบอกว่า เน็ตท่านหมด ถ้าต้องการเพิ่มให้ซื้อ เท่านั่นเท่านี้ได้มากี่ g ใช้ได้กี่วัน....บราๆๆๆๆ
    สงสัยไหมครับว่า ..ก็ไหนว่าเน็ตไม่อั้นแล้วไหงต้องซื้อเพิ่มอีก..??? คือ..มันเป็นงี้ครับ ...
    ก่อนอื่น เอาเรื่องนี้ให้รู้กันก่อนดีกว่าครับ  คำว่า 1G 2G 3G..อ่านว่า 1 Gig ,2 Gig ,3 Gig,  Gig.มาจาก Giga ครับ Giga เป็นหน่วยนับครับ มีค่าดังนี้
1000 เราเรียก 1 kilo..(พัน).
1000 kilo = 1 Maga(1 Mag =1000,000) เรียกสั้นๆว่า เม็ก(ล้าน)
1000M     =  1Giga(1 Gig)
สรุปคือ kilo คือ พัน , Mag. คือ ล้าน , Gig คือ พันล้าน
    มีเรื่องบังเอิญอยู่เรื่องนึงในวงการคือ การเรียกคำย่อครับ คือคำว่า..""Gb""ครับ ในวงการดิจิตอล คำนี้มีความหมาย 2 ความหมายครับ คือ
     1.หมายถึงความเร็วในการส่งถ่ายข้อมูลครับ ว่ากันว่าเป็นจำนวนข้อมูลที่ส่งต่อวินาที เรียกว่า บิท/วินาที (bit/sec) เช่นความเร็ว 10Gb หมายถึง ส่งข้อมูลด้วยความเร็ว  หมื่นล้านตัวอักษรต่อวินาที
       2.หมายถึงความจุ เช่น แฟลตไดรฟตัวนี้มีความจุ 32Gb อ่านว่า 32 กิกกะไบท์(bite) หมายถึง แฟลตไดรฟตัวนี้มีความจุ 32 พัน ลัานหน่วย
    เห็นไหมครับว่า ใช้อักษรย่อ ตัวGb เหมือนกัน แต่ความหมายไม่เหมือนกันเลย เรียกก็ไม่เหมือนกันครับ ตัวนึงเรียก บิท อีกตัวเรียก ไบท์ เพราะความเคยชินเลยตัดต่อวินาทีออกไป
        
       ทีนี้ก็มาเข้าเรื่องกันดีกว่า คือ...เวลาเราใช้แพกเกจนั้น จะมีความเร็วเน็ตอยู่สองระดับครับ คือความเร็วต่ำกับความเร็วสูงครับ โดยไอ้ที่ว่าเน็ตไม่อั้นนะคือ เน็ตความเร็วต่ำครับ คือถ้าส่งข้อความก็พอได้ แต่ส่งรูปถาพต้องรอเล็กน้อย แต่ถ้าส่ง(uplode)หรือรับ(downlode) vdo คงต้องรอนานหน่อย หมุนอยู่อย่างนั้นแหละ นี่พูดถึง เน็ตจาก ซิมโทรศัพท์นะครับ แต่ถ้าเน็ตจาก wifi ที่บ้านไม่มีปัญหาครับ เร็วปรกติ
     แพคเก็จที่มากับเบอร์โทรแต่ละเดือน เขาจะให้ความเร็วสูง และจำนวนพื้นที่ที่จะให้เราเข้ามาเอาข้อมูลไปมากน้อยแค่ไหน ขึ้นอยู่กับที่เราซื้อครับ เช่น เราซื้อแพคเก็จ 899 บาท ได้ความเร็วสูง 5 Gbit/วินาที(ความเร็ว5000 ล้านบิท/วินาที) และให้เอาข้อมูลไปได้ จำนวน  3 Gbite   ถ้าพื่้นที่ที่ให้มาหมดก็จะเหลือความเร็ว 128  Mbit/วินาที(128 ล้านบิท/วินาที ซึ่งช้ากว่าเดิมเยอะเลย) ทีนี้สมมุติว่าเราโหลด VDO มาดู สัก 3 คลิป  แต่ละคลิปใช้พื้นที่ 1 Gbite พื้นที่ที่ให้มา 3Gbiteก็หมดแล้ว ทีนี้เน็ตก็ถูกปรับมาที่ความเร็วต่ำ ถ้าต้องการความเร็วสูง ก็ต้องซื้อเพิ่มนะครับ
       ต่อมามาดูการใช้ไลน์ ของเราทุกวันนี้กันครับ ก่อนนี้เราส่งแต่ข้อมูลที่เป็นตัวอักษรกัน เก่งขึ้นมาหน่อย ก็ส่งเป็นรูปกันเก่งขึ้น เดี๋ยวนี้พัตนาไปถึงส่ง VDO คลิปกันเก่งขึ้นแล้ว
    เมื่อส่งข้อมูลที่เป็นคลิป VDO มากขึ้น ท่านทราบหรือไม่ว่า ข้อมูลที่กินพื้นที่ มากสุดคือ คลิปVDO ครับ รองมาก็รูปภาพ น้อยสุดคือข้อมูลที่เป็นตัวอักษรที่เราพิมพ์คุยกันนะครับ  ดังนั้นถ้าเราดูคลิป VDO บ่อยๆทุกคลิป หรือดูคลิปเดิมบ่อยๆก็ตาม ดูครั้งหนึ่งก็เสียแพคเกจเน็ตครั้งหนึ่ง ไม่ช้าเน็ตความเร็วสูงกับพื้นที่เยอะๆที่ให้มาก็หมด ต่อจากนั้นจนกว่าจะสิ้นเดือนก็เจอเน็ตช้าๆไปตลอด
   ข้อแนะนำก็คือ    วิธีการดู VDO คลิปที่ผมใช้อยู่ประจำก็คือ ในระหว่างวัน สนใจคลิปไหน ห้องไหนก็ กดแช่ แล้วเลือกเก็บไว้ที่ keep ไว้ก่อน ถึงบ้านมีไวไฟ ค่อยเปิดดูแล้วค่อยลบทิ้ง ข้อดีอีกเรื่องก็คือ ตลอดทั้งวันมีคลิปเข้ามามากมาย จะดูเลยก็เปลืองเน็ตหรือถ้าใครแพคเกจหมดแล้วยิ่งเสียเวลาดูแต่ละคลิป หมุนอยู่นั่นแหละ จะปล่อยเลยไปดูตอนเย็น ก็จำไม่ได้แล้วว่าแต่ละคลิปมันอยู่ห้องไหน เมื่อไหร่ ผมเลยใช้วิธีตุนเก็บไว้ที่  keep เอาไว้ดูตอนถึงบ้านที่มี wifi นะครับ หรือไปนั่งร้านกาแฟที่มีเน็ตก็รีบๆดูซะ เพราะคลิปบางคลิปให้ประโยชน์เราแบบคาดไม่ถึงเลยครับ...pjmong ..fw.allow...
  

 

วันพุธที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

สูตรทะลวงเส้นเลือด

ทะลวงหลอดเลือดด้วยภูมิปัญญาโบราณ เพียง 2 นาที เป็นของขวัญอันล้ำค่าแก่พ่อแม่และเพื่อนๆ ของคุณ

ชายชาวลอนดอนคนหนึ่งได้เล่าประสบการณ์ส่วนตัว เมื่อเขาไปประชุมที่ปากีสถาน เกิดมีอาการเจ็บหน้าอกอย่างเฉียบพลัน แพทย์ตรวจพบว่าเส้นเลือดหัวใจของเขา 3 เส้นอุดตันอย่างรุนแรง จำเป็นต้องผ่าตัดทำบายพาส. กำหนดการผ่าตัดคืออีก 1 เดือน ในช่วงระหว่างนั้นเขาไปพบหมอบำบัดมุสลิมโบราณ หมอบำบัดให้เขาทำยาทานเองที่บ้าน เมื่อทานครบ 1 เดือน ก็ไปตรวจที่โรงพยาบาลเดียวกันก่อนผ่าตัด พบว่าเส้นเลือดทั้ง 3 เส้นใสสะอาด ที่เคยอุดตันก็ถูกทะลวงออกหมด เพื่อช่วยให้คนอื่นได้รับประโยชน์ เขาได้บอกเล่าประสบการณ์ของตัวเองบนอินเทอร์เน็ต รวมทั้งโชว์ภาพถ่ายเส้นเลือดของเขาก่อนและหลัง เพื่อให้แสดงความแตกต่างก่อนและหลังทานยา

วัตถุดิบที่ใช้ …

– 1 น้ำมะนาว 1 ถ้วย

– 1 น้ำขิง 1 ถ้วย

– 1 น้ำคั้นกระเทียม 1 ถ้วย

– 1 น้ำส้มสายชูแอปเปิล 1 ถ้วย

วิธีเตรียม..

1.ลอกเปลือกกระเทียมและขิง หั่นขิงเป็นชิ้นบางๆ นำทั้งสองอย่างใส่เครื่องปั่นเครื่องคั้นน้ำผลไม้ ปั่นละเอียดแล้วเทลงบนผ้ากรอง เพื่อบีบน้ำคั้นออกมา

2.นำน้ำคั้นกระเทียมและขิงลงไปในหม้อ เติมน้ำมะนาวและน้ำส้มสายชูแอปเปิลลงไป ต้มจนเดือด แล้วค่อยๆเคี่ยวไปโดยไม่ต้องปิดฝาหม้อ เพื่อให้น้ำระเหยออก ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมง ก็จะได้ยาที่เคี่ยวแล้วประมาณครึ่งหนึ่งของปริมาณเริ่มต้น

3. ตั้งทิ้งไว้จนอุณหภูมิลดลง ก็ให้เติมน้ำผึ้งลงไปผสมเพื่อให้ทานได้ง่าย (ใส่มากเท่าที่รสชาดพอจะทานได้)

4.ใส่น้ำสมุนไพรนี้ในขวดแก้ว แช่ในตู้เย็นเก็บไว้

วิธีรับประทาน :

ทาน 1 ช้อนโต๊ะก่อนอาหารเช้าทุกวัน สามารถขจัดโรคหัวใจและหลอดเลือดให้หายขาดได้ คนทั่วไปยังสามารถใช้เป็นเครื่องดื่มในชีวิตประจำวัน เพื่อป้องกันโรคหัวใจและความดันโลหิตสูง รวมทั้งป้องกันโรคหวัดและโรคภัยอื่นๆ ได้อีกด้วย

เมื่อทานได้ 1 เดือน ให้ไปตรวจที่โรงพยาบาล คุณจะพบหลอดเลือดสะอาด เส้นที่มีการอุดกั้นถูกทะลวงไปแล้ว

****สูตรลับนี้จะต้องบันทึกเก็บไว้นะครับ…! และต้องเผยแพร่ส่งต่อให้คนที่ท่านรักและปรารถนาดี! ****

หมายเหตุ น้ำส้มสายชูที่ทำจากแอปเปิ้ล มีจำหน่ายตามห้างต่างๆ เช่น ท๊อป แมคโคร

Cr. พระอธิการ นพดล กันตสีโล

เรื่องของแอร์ กับค่าไฟ

เพื่อพิจารณาค่ะ
"วิธีประหยัดไฟค่าแอร์ปีละ 12,500 บาท ต่อห้องนอน

วันนี้โลกร้อน แอร์(คอนดิชั่น)กลายเป็นสิ่งจำเป็นไปเสียแล้วสำหรับคนเมือง แต่ค่าไฟแอร์มันแพงมาก เช่น แอร์ขนาด 1 ตัน ที่ใช้ในห้องขนาดเล็กทั่วไป จะมีความต้องการไฟฟ้าประมาณ 1500 watts ถ้าเปิดวันละ 10 ชม. ค่าไฟ 3.5 บาทต่อหน่วย ก็จะต้องเสียค่าไฟปีละ ประมาณ 19,000 บาท แต่แอร์มันมีการตัดไม่ทำงานอยู่บ้างสัก 20% (แล้วแต่ระดับการตั้งอภ) ดังนั้นค่าไฟประมาณปีละ 15,000 บาท ...โห เงินเดือนป.ตรีเดือนนึงก่อนหักภาษีเลยนะเนี่ย

ส่วนใหญ่หน่วยงานรัฐไทย ภายใต้การแนะนำของวิศกรเครื่องกลไทย จะแนะนำปชช. ให้ตั้งอภ.ไว้ที่ ๒๕ อศ. และ ความชื้นสัมพัทธ์ที่ ๕๐% ซึ่งเป็นการลอกฝรั่งมาทั้งดุ้น (เหมือนหมอเลยที่ไปลอกอาหาร ๒๐๐๐ แคลอรี่ น้ำแปดแก้ว อาหารห้าหมู่จากฝรั่งมาให้คนไทยกินจนอ้วนเป็นหมูตอนกันทั้งประเทศไปแล้ว)

ผมได้พยายามโพนทะนามาอย่างไร้ผลในช่วง ๒๐ ปีที่ผ่านมาว่า ของไทยเรา ควรกำหนดอภ. ที่ ๒๗ ความชื้นที่ ๗๐ ...เพียงแค่นี้ค่าแอร์จะลดจาก ๑๕๐๐๐ เหลือ ๑๐๐๐๐ ทันที ..ผมว่า ในขณะที่ยังรู้สึกสบายดี เพราะสำหรับคนไทยเรา ๒๕/๕๐ นั้นมันหนาวเกินไปแล้ว บางคนป่วย บางคนคลุมโปงมิด (ขาดอากาศหายใจอีกต่างหาก) ถ้าใช้ชุดนอนโปร่งๆ ไม่ห่มผ้าหนา จัดไว้ที่ ๒๘ ยังได้เลย ก็ลดลงเหลือ ๘๐๐๐


ยัง ยังไม่พอ ผมเสนอ ให้ตั้งที่ ๓๐ แล้ว เอาพัดลมตั้งพื้นราคา ๑๐๐๐ บาท มาเป่าเตียงนอนแบบส่ายไปมา พัดลมนี้กินไฟเพียง ๕๐ วัตต์ เปิด 10 ชม. ต่อวันตลอดปีเสียค่าไฟ 630 บาท แต่จะลดค่าไฟแอร์ จาก ๘๐๐๐ เหลือ ๒๐๐๐ เท่านั้น ...เหลือเชื่อนะครับ ทั้งนี้เพราะพอเลยเที่ยงคืนไปแล้ว อภ. มันต่ำกว่า ๓๐ แล้ว ครับ แอร์ก็ไม่ทำงานถึงเช้า ส่วนเราก็หลับแล้วเป็นส่วนมาก ไม่ว่าจะหลับหรือไม่ก็เย็นสบายดีเพราะพัดลมจะทำงานตลอด ทำให้เรารู้สึกสบายเหมือนว่าอยู่ในอภ. ๒๗ อศ. (ซึ่งกำลังดีสำหรับคนไทย ทำให้ไม่เป็นโรคจากความเย็นเกินไปอีกต่างหาก) เที่ยงคืนถึง ๘ โมงเช้า เราไม่เสียค่าไฟแอร์เลย (1500 w.) แต่เสียพัดลม 50 w.
สรุปรวมคือ เราจะเสียค่าไฟแอร์เพียงปีละ ๒๐๐๐ บาท และพัดลมอีก ๖๐๐ บาท ประหยัดได้ ๑๒,๕๐๐ บาท (ซึ่งกฟผ กฟภ กฟน คงไม่ชอบ เพราะขายไฟได้น้อยลง)


ยัง ยังไม่จบ สามารถประหยัดได้มากกว่านี้อีก ในขณะที่กินข้าวดูทีวีตอนหัวค่ำ ควรเข้าไปแง้มหน้าต่างห้องนอนนิดนึง แล้วเปิดพัดลมไล่อากาศร้อนออก ...ไม่ใช่อากาศร้อนเฉยๆนะ แต่ผนังปูนร้อนๆ ที่มันอมความร้อนไว้มหหาศาลด้วย วิธีนี้จะช่วยประหยัดแอร์ได้อีก และเพิ่มความสุขสบายด้วย จากการที่ห้องนอนจะเย็นอย่างรวดเร็วทันทีที่เปิดแอร์ ไม่งั้นครึ่งชม.แรกก็ยังร้อนอยู่ จากการที่ปูนมันแผ่รังสีออกมา

เรื่องนี้ เชื่อไหมว่า เอาไปทำวิทยานิพนธ์ปริญญาเอกด้านวิศวกรรมเครื่องกล หรือ พลังงาน ได้สบายๆ ประหยัดเงินให้ชาติปีละ แสนล้านบาท สบายๆ (แบ่งให้ผม คนต้นคิดมั่งก็ดีนิ) ...คนถางทาง (๒๔ มกราคม ๒๕๕๖) -- ใฝ่รู้ ใฝ่คิด ใฝ่ดี คือวิถีของปัญญาชน
--ทวิช จิตรสมบูรณ์"

วันอังคารที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

เป็นเบาหวานต้องอ่าน

ข่าวดี "ผู้ป่วยแผลเบาหวานเรื้อรัง" รักษาได้ ไม่ต้องผ่าตัด
หนังสือพิมพ์แนวหน้า: 22 พค 2559
󾭵󾭵󾭵󾭵󾭵󾭵󾭵󾭵󾭵󾭵

ผมไม่ได้เป็นนายแพทย์นะครับ แต่เป็นนายตำรวจที่ห่วงใยบ้านเมือง แม้จะพ้นหน้าที่มาแล้ว คอลัมน์สำหรับวันนี้ หยุดคุยเรื่องบ้านเมืองสักครั้ง เพราะอยากคุยเรื่องสุขภาพ จะเชิญชวนผู้ป่วย หรือญาติพี่น้องของผู้ป่วยที่มีอาการเกิดบาดแผลที่มือเท้าแขนขา หรือที่ใดก็ตาม โปรดฟังทางนี้ คนป่วยบาดแผลเรื้อรังและมีโรคประจำตัวเบาหวาน ผมเห็นมาแล้วทุกรายต้องผ่าตัดแผลนั้นทิ้ง บางรายมือเท้าแขนขาขาดเป็นคนพิการ ตัดแล้วบางครั้งยังไม่ยอมหยุด บาดแผลเรื้อรังลุกลามร้ายแรงถึงเสียชีวิตไปก็มี

ผมได้พบเพื่อนเก่าคนหนึ่ง เขาเล่าให้ฟังเรื่องที่รู้มาจากโรงพยาบาลตำรวจ มี ดาบตำรวจพิภพ พานทอง อายุ ๔๖ ปี เป็นคน จ.ราชบุรี มารับราชการเป็นผบ.หมู่(ป.)สภ.องค์พระ จ.สุพรรณบุรี มีโรคประจำตัวเป็นเบาหวาน เกิดบาดแผลที่เท้า ๔ วัน แล้วลุกลามอย่างรวดเร็ว มีไข้สูง ซึม ปวดแผลมาก แผลยาวตั้งแต่เข่าลงมาถึงตาตุ่ม ได้เข้าทำการรักษาที่โรงพยาบาลจังหวัดราชบุรี ตั้งแต่ ๑๑มกราคม ๒๕๕๙ แพทย์ที่โรงพยาบาลลงความเห็นว่า ต้องตัดขาผู้ป่วย เนื่องจากมีภาวะติดเชื้อที่ไม่สามารถควบคุมได้ ผู้ป่วยและญาติได้ติดต่อขอย้ายเข้ามารักษาที่โรงพยาบาลตำรวจ วันที่ ๑๘ มกราคม ๒๕๕๙ โดยพ.ต.อ.นพ.ไพบูลย์ มะระพฤกษ์วรรณ ได้รับตัวไว้และทำการรักษาตามวิธีมาตรฐาน ร่วมกับ "ยาอิมมูโนไคน์ (Immunokine)" ทำให้ผู้ป่วยมีอาการดีขั้นโดยลำดับ ทั้งด้านการติดเชื้อและโรคเบาหวาน จนสามารถออกจากโรงพยาบาลไปพักฟื้นที่บ้านได้ล่าสุดได้เข้ามาติดตามการรักษาในวันที่ ๒๗ เมษายน ๒๕๕๙ พบว่าอาการดีขึ้นมาก แผลใกล้จะหาย ไม่มีไข้ นัดมาติดตามการรักษาอีกครั้งวันที่ ๒๕ พฤษภาคม ๒๕๕๙

อีกราย ว่าที่ ร.ต.ต.สุทิน ปลอดปล่อง อายุ ๕๗ ปีตำแหน่งรองสว.(สส) สภ.สวี จ.ชุมพร บ้านอยู่ที่อ.สวี เป็นแผลติดเชื้อที่เท้า ลักษณะแผลเป็นรูใหญ่ทะลุจากฝ่าเท้าขึ้นมาที่หลังเท้า มีไข้สูงเดิมรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลจังหวัดชุมพร แต่อาการไม่ดีขึ้น แพทย์ลงความเห็นว่า ต้องตัดขา ผู้ป่วยจึงขอย้ายมารักษาที่โรงพยาบาลตำรวจ วันที่ ๒๒ ตุลาคม ๒๕๕๘ ผู้ป่วยมีภาวะหลอดเลือดที่ขาอุดตัน และมีเลือดออกในระบบทางเดินอาหาร มีภาวะซีดมาก ทำให้ไม่สามารถรักษาด้วยยา Immunokine ได้ ทาง พ.ต.อ.นพ.ไพบูลย์ มะระพฤษ์วรรณ ได้ทำบอลลูน ขยายหลอดเลือดที่ขา และรักษาอาการเลือดออกในระบบทางเดินอาหารด้วยยาปัจจุบันแผลหายดีแล้ว

ผู้ป่วยรายสุดท้ายที่จะเล่าให้ฟังชื่อ นายนพรัตน์ ยุทธภิมุข เป็นพลเรือน อายุ ๔๓ ปี คนสุราษฎร์ธานี เป็นโรคเบาหวานและเกิดบาดแผลที่ฝ่าเท้าเพราะโดนกระเบื้องบาด แผลยาวเต็มฝ่าเท้า ผู้ป่วยไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลจังหวัดสุราษฎร์ธานี ตามสิทธิประกันสุขภาพถ้วนหน้า แต่อาการไม่ดีขึ้นแพทย์ที่โรงพยาบาลแจ้งกับผู้ป่วยว่า จะต้องตัดขา แต่ผู้ป่วยมีอาชีพขับรถรับ-ส่งนักเรียนในจังหวัด จะกลายเป็นคนพิการและสูญเสียอาชีพ เมื่อวันที่ ๕ กันยายน ๒๕๕๙ จึงย้ายมาทำการรักษากับ พ.ต.อ.นพ.ไพบูลย์ มะระพฤษ์วรรณโรงพยาบาลตำรวจ ได้ทำการรักษาด้วยตัวยา Immunokine ในวันที่ ๘-๑๒ กันยายน ๒๕๕๘ และหลังจากให้ยาเสร็จแล้ว ๒ วัน ผู้ป่วยกลับไปพักฟื้นที่บ้านจังหวดสุราษฎร์ธานี เนื่องจากไม่สามารถจ่ายค่ารักษาพยาบาลที่โรงพยาบาลตำรวจได้ และผู้ป่วยสามารถเดินทางจากสุราษฎร์ธานี มารับยาที่โรงพยาบาลตำรวจได้ หลังจากนั้น ๒ เดือน แผลก็หายสนิท รวมทั้งอาการเบาหวานก็ดีขึ้น

ที่เล่าเรื่องที่ได้ยินมาจากเพื่อนให้ฟังอย่างละเอียดเพื่อให้ทราบถึงวิธีการรักษาด้วยยาตัวใหม่ ทราบว่าเป็นตัวยาจากประเทศเยอรมนี โดย พ.ต.อ.นพ.ไพบูลย์ มะระพฤษ์วรรณ ได้นำมารักษา ส่วนค่าใช้จ่ายรักษาพยาบาล สำหรับตำรวจรักษาฟรี ส่วนพลเรือนต้องเสียค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลเว้นแต่เป็นคนไข้อนาถา หรือมีบัตรทองสามสิบบาทที่ขึ้นทะเบียนกับโรงพยาบาลตำรวจเท่านั้น จึงขอบอกเล่ามาให้เป็นกุศลแก่ผู้ป่วย

สุดท้ายนี้ ขอให้ผลบุญกุศลได้ตกแก่ ผู้เผยแพร่ข้อมูลการรักษาผู้ป่วยแผลเรื้อรังเบาหวาน โดยทั่วกันทุกคนเทอญ

พล.ต.อ.ประทิน สันติประภพ

ประเทศจีน

รายงานจากนักวิจัยทางด้านไอทีที่ไปอยู่จีนกลับมาสู่ระดับนโยบายของไทยครับ

คู่แข่งที่แท้จริงของ Silicon Valley คือจีน หรือถ้าให้พูดชัดๆก็คือ Beijing นั่นเอง บทความที่โพสท์มานี้เป็นบทความที่น่าสนใจมากที่เขียนโดยผู้ก่อตั้ง ShopKick ที่ไป"ฝังตัว"อยู่ที่จีนเป็นเวลา 3 อาทิตย์และมุมมองหลายๆอย่างค่อนข้างตรงกันกับมุมมองที่ผมมีจากทริปที่บินไปที่จีนเมื่อปีที่แล้วและตอนที่เคยทำงานที่ Google China ครับ.

โดยสรุปคือ

1. ที่เราคิดกันว่าจีนนั้นเก่งเรื่องลอกเลียนแบบหรือโคลนนิ่งอย่างเดียวนั้นมันไม่จริงเสียแล้วเพราะเริ่มมีนวัตกรรมที่ออกมาจาก startup จีนที่มีฐานมาจาก deep science / technology และ R&D

2. ซึ่ง innovation ที่มีฐานมาจาก deep science / technology เหล่านี้ก็เนื่องด้วยการศึกษาระดับ world class ที่สร้างวิศวกรและ technologists ระดับหัวกระทิจำนวนมหาศาลออกมา มหาวิทยาลัย Tsinghua นั้นถึงกับได้รับการยอมรับว่าเทียบเท่า MIT เลยทีเดียว ผมเองเคยไปแลกเปลี่ยนที่ Tsinghua มาแล้วบอกได้เลยว่าโหดมากๆครับ

3. Reverse Brain Drain ด้วยโอกาสมหาศาลของตลาดเมืองจีนที่อาจจะ overheated แต่ก็ยังมี ศักยภาพมหาศาล และล่าสุดการลงทุนกว่า USD 1 billion ของ Apple ใน Didi ก็ยิ่งเป็นการตอกย้ำศักยภาพของจีนได้เป็นอย่างดี ก็ยิ่งทำให้ talents หลายๆคนทั้งที่สัญชาติจีนเองหรือสัญชาติอื่นๆยิ่งอยากมาสร้างธุรกิจ tech startup ที่เมืองจีนมากขึ้น

4. ตลาดจีนที่มีขนาดมหึมาด้วยจำนวนผู้ใช้ smartphone ที่คาดกันว่าจะมีกว่า 700 ล้านคนภายในปี 2020 หรือ 3 เท่าของผู้ใช้ smartphoneใน US และด้วย success story ของ startups หลายๆตัวในเมืองจีนที่เติบโตจากศูนย์กลายมาเป็น ธุรกิจขนาด 700,000 ล้านบาทใน 4 ปี อย่าง Meituan ที่มีฐานลูกค้ากว่า 200 ล้านคนแล้วผู้ก่อตั้งคือ Xing นั้นพึ่งอายุแค่ 34 เอง ไม่ต้องพูดถึงรุ่นพี่ๆ generation ที่แล้วอย่าง Alibaba หรือ Baidu ในส่วนเงินลงทุนกับ startup นั้นยิ่งไม่ต้องพูดถึงเพราะมหาศาลมากๆการลงทุนใน startup ที่มีมูลค่าสูงสุดในโลกนั้นก็อยู่ที่จีน และ VC ระดับ top ของโลกแทบทั้งหมดก็ลงไปลุยที่ตลาดจีนและเอา knowhow รวมทั้ง connection ทั้งหลายไปลงที่เมืองจีนและช่วยให้วงการ startup จีนนั้นพัฒนาขึ้นมาเร็วมากๆ

5. ศักยภาพในการขยายขนาดอย่างรวดเร็ว (Rapid scaling ) หลายๆคนคิดว่า Silicon Valley นั้นเร็วแล้วแต่ ปักกิ่งกลับเร็วกว่าด้วยตลาดจีนที่มีขนาดมหึมารวมทั้ง วิธีการ scaling ของผู้ประกอบการจีน ไม่ต้องพูดถึง work ethics หรือการทำงานหนัก ที่ Silicon Valley นั้นชั่วโมงทำงานปกติของ Startup นั่นว่าโหดแล้วแต่ที่จีนนั้นเรียกว่า 9/9/6 ขั้นต่ำ คือ 9 am ถึง 9 pm และทำงาน 6 วันต่อสัปดาห์ ส่วน ทีมผู้ก่อตั้งนั้นยิ่งโหดกว่าคือจะเป็น 9/11/6.5 คือ ขั้นต่ำ 9 am - 11 pm และ 6.5 วันต่อสัปดาห์ Hugo Berra อดีต VP ของ Android ที่ไปอยู่กับ Xiaomi นั้นมีประชุมถึงเที่ยงคืนก่อนที่จะต้องบินตอน 6 โมงเช้าของอีกวัน ส่วน startup ที่กำลัง launch product นั้นก็จะขังตัวเองกับทีมไว้ไม่ออกไปไหนจนกว่า product จะเสร็จและ launch ออกไปไม่มีปัญหา ตอนผมไป private conference ที่ Chong Qing ก็เจอ entrepreneur คนนึงที่ทำ HR outsourcing platform ที่ scale จากพนักงาน 300 คนเป็น 3,000 คนในปีเดียวโดยที่ตัวยอดขายและกำไร โต 15 / 20 เท่าใน 1 ปี ซึ่งเรียกว่าโหดมากๆครับ เรื่องของการ hustling และ be aggressive and competitive นั้นผู้ประกอบการจีนเรียกได้ว่าไม่แพ้ใครในโลกจริงๆครับ และรวมทั้งการแข่งขันที่โหดมากๆในเมืองจีน แบบที่ว่าบางตลาดนั้นคุณไม่ได้คู่แข่งเป็นร้อยรายแต่เป็นพันๆรายทำให้ ผู้ที่อยู่รอดและเติบโตได้นั้นแข็งแกร่งมากๆ

6. มุมมองที่ว่าจีนนั้นลอกเลียนแบบอย่างเดียวนั้นไม่จริงแล้วเพราะ entrepreneur จีนนั้นเป็นพวกที่ practical มากๆ และรู้ว่าการ cloning อย่างเดียวนั้นไม่ work แล้วต้องมี innovation ด้วย เพราะเค้ารู้ว่าวิธีการที่เร็วที่สุดที่จะเป็นผู้ชนะอย่างยั่งยืนนั้นไม่ใช่ cloning แต่คือ innovation DJI ของจีนนั้น มี maketshare กว่า 70% ในตลาด Drone ทั่วโลก , computer ราคาแค่ 300 กว่า บาท based on Linux ก็มาจากเมืองจีน และ innovation อื่นๆที่กำลังจะออกจากจีนมาตีตลาดโลกในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า

7. แต่ startup จีนนั้น ก็ยัง focus อยู่แต่ในตลาดจีน ณปัจจุบันเพราะแค่ตลาดจีนนั้นก็มหาศาลแล้วครับ แต่ wave หน้าผมเชื่อว่า startup จีนจะเริ่มรุกคืบมา SEA และไทยในอนาคตอันไกล้ด้วยศักยภาพของ SEA และ ด้วยการรุกคืบเข้ามาของรุ่นพี่อย่าง Alibaba ทำให้ startup ไทยและ SEA มีเวลาอีกไม่กี่ปีที่จะต้องพัฒนาตัวเองให้เป็นผู้เล่นที่แข็งแกร่งและมี scale ที่ใหญ่พอที่จะสู้กับ ผู้เล่นระดับโคตรโหดเหล่านี้ได้ไม่ต้องพูดถึง คู่แข่ง local หรือจากประเทศอื่นๆที่ปกติก็เข้ามาในไทยหรือ SEA อยู่แล้ว ข้อดีคือจะมี เงินทุนที่ไหลมาจากจีนเข้ามาในภูมิภาคนี้เยอะขึ้นมาก แต่การแข่งขันก็น่าจะโหดขึ้นมากในอีก 2-3 ปีข้างหน้า และผมคิดว่าเรามีเวลาอีกไม่มากนักที่จะสร้างฐานธุรกิจใหม่ให้แข่งขันได้ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าในขณะที่จีนยังไม่ลงมาลุยในไทย / SEA มากนักครับ...ไม่บอกว่า ผมคือใคร สงสัยเหมือนกัน