วันอังคารที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

Pw เรื่องของเงินกับทรัพย์สิน

'เงิน คืออะไร ทำไมทั้งหาและเก็บ มันยากเย็นแสนเข็ญ ?' ...หลายคนสงสัยว่า คนที่สามารถหาเงินและเก็บจนมีเงินเป็นสิบล้าน ร้อยล้าน พันล้าน ...ทำได้อย่างไร

หนึ่ง : 'เงินคือหนี้ ไม่ใช่สินทรัพย์' - เงินยุคนี้สร้างจากหนี้ ต่างกับเงินยุคก่อนที่สร้างจากสินทรัพย์ ...แต่ก่อนจะพิมพ์เงินต้องมีทองค้ำประกัน ใครเก็บเงินสมัยก่อนถึงรวย ..แต่พอเงินสร้างจากหนี้ คนยิ่งเก็บ ก็ยิ่งแพ้

ทองคำ ไม่ได้งอกเพิ่ม ..แต่ 'หนี้' มันเพิ่มตลอด ..เมื่อหนี้เพิ่มมูลค่าของมันจึงลด

ทางแก้คือ 'เอาเงินไปเปลี่ยนเป็นสินทรัพย์ แล้วถือแทน' ...สิ่งที่ผมพูดนี้ คนรวยทั้งโลกเข้าใจเหมือนกัน และก็ทำเหมือนกัน

สอง : 'มูลค่าสินทรัพย์ โตเร็วกว่ารายได้เสมอ' ..นี่เป็นคำตอบที่ว่า คนที่มีอาชีพลูกจ้าง แทบไม่มีโอกาสรวย(ยกเว้นจะพัฒนาความรู้ ให้ลูกจ้างเป็นนักลงทุนควบคู่ไป) ..แต่นักลงทุนกลับรวย เพราะเน้นไปที่การสร้างสินทรัพย์ ที่สุดท้ายมูลค่าโตกว่ารายได้ไปเรื่อยๆ

สาม : 'เงินคือเครื่องมือที่คนส่วนน้อยใช้ควบคุมคนส่วนใหญ่' ...ถ้าไม่เรียนรู้วิธีควบคุมเงินแบบนักลงทุน เราจะถูกเงินควบคุมเราแทน

สี่ : 'เงินยิ่งใช้เป็นยิ่งเพิ่ม' ..เงินถ้าเก็บเฉยๆ มูลค่าจะลดไปเรื่อยๆ ...การใช้ให้เป็นคือ เอาเงินไปสร้างคุณค่าเพิ่ม ..เอาเงินไปต่อยอดงานและการลงทุน เงินจะยิ่งเพิ่มขึ้น

ห้า : 'คนรวยจะเลือกวางเงินทำงานให้ไกลตัวที่สุด' ...เงินถูกออกแบบใช้เราใช้ง่าย ดังนั้น ถ้าเราไม่วางในจุดที่ใช้ยาก มันจะหมดอย่างรวดเร็ว

นี่คือ 5 ข้อ ที่เป็นหลักคิด ของ 'การออมในหุ้น' - สร้างสินทรัพย์ให้ปันผลเลี้ยงเรา ให้รวยแบบอัตโนมัติ

#ภาววิทย์กลิ่นประทุม

วันจันทร์ที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

Pw เรื่องของงาน

ถ้าโลกเปลี่ยนจาก 'เราต้องหางานทำ' มาเป็น 'เราต้องสร้างงานเอง' คุณจะปรับตัวกันอย่างไร ?

- ถ้ายุค 'หางาน' คือ สร้าง Profile ตัวเองให้ดี ..เพื่อจะได้สมัครงานบริษัทที่มั่นคง ..แต่ยุคนี้แม้แต่งาน ราชการ ยังไม่มั่นคงเลย ..สรุปได้เลยว่า ยุค 'หางานทำ' มันจบลงแล้ว ...ไม่มันไม่ได้หายไป เพียงแต่ใครคิดในมุมนี้จะเหนื่อยมากขึ้น และตกไปยุคไปเรื่อยๆ

- อันนี้รวมถึงใครมีลูกแล้วยังสอนให้เขา 'หางานทำ' ชีวิตเขาจะ กดดัน งุนงง ..เหมือนคน Gen X (อย่างพวกผมนี่แหละ) ...พ่อแม่สอนผมว่า ให้หางานมั่นคง เหมือนพ่อแม่ส่วนใหญ่ ...แต่วันนี้ผมยิ่งทำงาน ยิ่งมองไม่เห็นว่า งานอะไรมั่นคง ...วันนี้ Gen X ส่วนใหญ่เริ่มเครียด และไม่เข้าใจการเปลี่ยนแปลงของโลก และ การทำงานยุคต่อไป

- วันนี้ต้องสอนให้ลูก 'สร้างงานเอง' ...เด็กสมัยนี้ต้องปลูกฝังให้เขาคิดเรื่อง สร้างงานเอง ดังนี้

1. อย่ายึดติดใบปริญญา (ต้องเรียนนะ เป็นพื้นฐาน) แต่อย่ายึดติด เพราะ การสร้างงานเอง เราเอาลูกค้าเป็นที่ตั้ง - 'ลูกค้าจะถามว่า คุณแก้ปัญหาและสร้างประโยชน์อะไรให้ฉันได้บ้าง ..ลูกค้าไม่ได้สนใจว่าเราจบอะไรมา (ไม่สน)'

2. 'ลูกค้าสนว่าเราชำนาญเรื่องไหน' ..ยิ่งเราทำงานเร็ว ฝึกทำจริงๆ ไม่ใช่แต่เรียนจากตำรา ยิ่งน่าเชื่อถือ ยิ่งได้งาน

3. 'เก่งสักเรื่องให้สุดๆ' ...อย่าเก่งทุกเรื่อง (ถึงคุณเก่งทุกเรื่อง ก็อย่าโชว์ เพราะมันทำให้ คุณดูจับฉ่าย) - เก่งเรื่องเดียว

4. 'มุ่งสร้างผลงาน และพัฒนาตัวเอง' ...วันนี้ไม่ต้องตกแต่ง Resume แต่ให้มุ่งสร้างผลงาน สร้างประสบการณ์และ พัฒนาความรู้ตัวเอง ...นี่คือสิ่งที่ลูกค้าต้องการ

5. 'ดูแลตัวเอง' ...ความมั่นคงในชีวิตคือการสร้างพอร์ตลงทุนระยะยาวที่เลี้ยงเรา ...ใช่!! ออมในหุ้น แบบถูกวิธี รีบทำเลย

ทั้ง 5 ข้อนี้ จะช่วยให้เรารับมือ กับโลกยุคใหม่ ...เปลี่ยนแปลงหนักแค่ไหน เราก็ยังโอเค !!!

Pw เปลี่ยนตัวตามโลก

........'เจอใครๆ เขาก็อยากเปลี่ยนโลกนะ' ..ผมว่าไม่ต้องเปลี่ยนหรอก เพราะมันเปลี่ยนไปแล้ว

ถามใหม่ดีกว่า 'เราเข้าใจหรือเปล่า ว่าโลกมันเปลี่ยนไปแล้ว เพียงแต่หลายๆ คนยังไม่เปลี่ยนเท่านั้นเอง'

- วันนี้การติดต่อสื่อสาร เร็ว ถูก ครอบคลุมเกือบทุกที่ ..แม้กระทั่งโทรต่างประเทศ ที่เคยแพงมาก ..วันนี้ฟรี

- นั่งแท๊กซี่ในเมือง ไม่ต้องเรียกแท๊กซี่ กด App ..โหแต่ละค่าย แจกโปรแข่งกัน เกือบนั่งฟรี ..555

- บริษัทใหญ่เดี๋ยวนี้ประหยัดค่าโฆษณาลดลงสิบเท่า เอามาลง Facebook ..ผลกลับดีกว่าเดิม

- ดาราเดี๋ยวนี้ไม่ต้องจ้างมาเป็นพรีเซนเตอร์ ..เจ้าของโฆษณาเอง ..เฮ้ย น่าเชื่อถือกว่า

- นักร้องไม่ต้องมีค่าย ..จัดการเอง รายได้หลักคือโชว์ตัว เพลงไม่มีใครจ่ายเงินซื้อซีดีอีกต่อไป

- สื่อวันนี้กระทบหนัก เพราะ ทุกคนผันตัวมาเป็นสื่อ ..หลายๆ สินค้า จ่ายค่า endorses ให้คนเหล่านี้ช่วยขายของ ..คุ้มเกินคุ้ม เพราะยุคนี้ คนเชื่อเพื่อนมากกว่า

- Startup แข่งกัน เอาของมาลดราคา ส่งถึงบ้าน ..ถูกแบบไม่เดินห้างละ ..ถ้าไม่ได้เดท จะไปเดินทำไมอีก

- เที่ยวต่างประเทศที่ถูกมาก ..ป.5 นี่เริ่มเดินทางเองละ แม่เจ้า !! ...ยุคเรา ป.5 นี่เดินห้าง แม่ยังห้ามเลย

- ธุรกิจ เดี๋ยวนี้ไม่มีใครรอเรียนจบ ช้าไป ..เด็กเขาหาเงินกันตั้งแต่อยู่โรงเรียน ...เจอเด็กหนุ่มสาว เดี๋ยวนี้แนะนำตัว ..ผม CEO ... เจสสส !!

- พนักงานออฟฟิศเดี๋ยวนี้ ขายตรงหมด ..มีอาชีพเสริมหมด แทบไม่มีแล้วทำงานอย่างเดียว

- ร้านกาแฟนี่มีคนนั่งทั้งวัน ..ทำไร ..co-working space ทำงานครับ หาเงิน เล่นหุ้น ...ขอโทษนะ ผม นักลงทุนอิสระ ..เท่ห์ว่ะ

- อยากทำอะไร วันนี้มีสอนออนไลน์ เรียนปั๊บ เปลี่ยนอาชีพเลย ..เฮ้ย ในอดีตต้อง 4 ปี กลับไปเอาใบปริญญา เดี๋ยวนี้ไม่ต้อง ..เรียนพิเศษแล้วหาเงินเลย

- คนรุ่น gen x ทำงาน ประมาณ 3 อาชีพก่อนเกษียณ ...เด็กรุ่นนี้ ทำงาน 7 อาชีพ แล้วไม่มีเกษียณ

- รุ่นก่อนทำงานหนักหวังให้องค์กรดูแล ..คนรุ่นนี้สร้างพอร์ตการลงทุน แล้วดูแลตัวเอง

- ยุคก่อนขายฝัน สามารถอยู่ได้ไม่ต้องทำงาน ...ยุคนี้มันทำได้จริง อยู่ที่วางแผน ..ปั้นพอร์ต Passive เอาแค่เกินค่าใช้จ่าย ...คนรุ่นใหม่จำนวนมาก เป็นแบบนั้น ทำงานที่อยากทำ ..ไม่ทำงานประจำ ...แต่มีรายได้ประจำ และมี Project พิเศษ

มิติการใช้ชีวิต มันมีทางเลือกมากขึ้น

คนแต่ก่อน หยุดทำงานไม่ได้ อดตายแน่นอน เลยมีความฝันว่า อยากเกษียณให้เร็ว

แต่คนรุ่นนี้ วางแผนการลงทุนดี นี่ 10 ปี ก็มี Passive แล้ว ..เรื่องหยุดทำงานหรือเกษียณกลายเป็นสิ่งล้าสมัย

มันกลายเป็นเป้าหมายชีวิต คือ 'เลิกทำงานที่ไม่ชอบ มาสู่การทำงานที่รัก นั่นคือเป้าหมาย'

'โลกเปลี่ยนไปแล้ว ทำความเข้าใจมันดี แล้วเปลี่ยนชีวิตเราให้ดีขึ้น รวยขึ้น สบายขึ้น ดีกว่า'

- เปลี่ยนเรา ไม่เปลี่ยนโลก เพราะโลกเปลี่ยนไปแล้ว !!

วันพฤหัสบดีที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

คำตมดีๆ

พูดความจริงแต่ทำลายน้ำใจผู้อื่น
ย่อมไม่เรียกว่าเป็นคนพูดตรง

อ้างอายุที่มากแต่ไม่รับฟังผู้น้อย
ย่อมไม่เรียกว่าเป็นผู้ใหญ่

ไร้กาลเทศะโดยไม่สนใจใคร
ย่อมไม่เรียกว่าเป็นตัวของตัวเอง

เรียนอภิธรรมแล้วไม่ปฏิบัติตาม
ย่อมไม่เรียกว่าเป็นผู้มีธรรม

คิดเก่งพูดเก่งแต่ไม่ทำ
ย่อมไม่เรียกว่าเป็นผู้มีความสามารถ

ฉลาดหาเงินแต่ไม่ฉลาดหาความสุข
ย่อมไม่เรียกว่าเป็นผู้มีปัญญา

ละทิ้งระหว่างทางสนใจเพียงจุดหมาย
ย่อมไม่เรียกว่านักเดินทาง

นับถือพระพุทธศาสนาแต่ไม่เจริญวิปัสสนา
ย่อมไม่เรียกว่าเป็นชาวพุทธ

ชีวิตมีค่าแต่ไม่ใช้ให้มีค่า
ย่อมไม่เรียกว่าชีวิตมีค่า

เคยเจอเคยเห็นแต่ไม่เคยวิเคราะห์
ย่อมไม่เรียกว่าเป็นประสบการณ์

เสียงผ่านเพียงหูแต่ไม่ทะลุถึงใจ
ย่อมไม่เรียกว่าการรับฟัง

เป็นผู้ครอบครองแต่ไม่เคยได้ใช้
ย่อมไม่เรียกว่าเป็นเจ้าของ

ถูกกฏหมายแต่ผิดธรรม
ย่อมไม่เรียกว่าความถูกต้อง

ดีกับญาติมิตรแต่แล้งน้ำใจต่อผู้อื่น
ย่อมไม่เรียกว่าเป็นคนดี

มีเงินแต่ไม่รู้จักคำว่าพอ
ย่อมไม่เรียกว่าเป็นคนรวย

ทำความดีแต่ป่าวประกาศ
ย่อมไม่เรียกว่าการทำดี

บริจาคทรัพย์แต่หวังผล
ย่อมไม่เรียกว่าขัดเกลาจิตวิญญาณ

รอโชควาสนาแต่ไม่เคยไขว่คว้า
ย่อมไม่เรียกว่าผู้ใกล้ความสำเร็จ

เรียนมากรู้มากแต่ไม่รู้จักตรึกตรอง
ย่อมไม่เรียกว่านักปราชญ์

รู้ทฤษฏีแต่ขังตัวเองอยู่ในกรอบ
ย่อมไม่เรียกว่าผู้เชี่ยวชาญในศาสตร์

เขียนเป็นอ่านออกแต่ไร้ศิลปะ
ย่อมไม่เรียกว่าเป็นนักกวี

มองเห็นดอกไม้แต่ไม่เห็นความงาม
ย่อมไม่เรียกว่าเป็นศิลปิน

เห็นกิเลสแล้วไม่ทำลาย
ย่อมไม่เรียกว่าอริยชน

อ่านคำคม..แล้วไม่ทำ..ย่อมไม่เกิดประโยชน์อะไรเลย...