สรรพคุณของโกโก้โกโก้เป็นแหล่งสำคัญของ polyphenol ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ (เมล็ด)[3]เมล็ดมีสรรพคุณช่วยกระตุ้นประสาท ช่วยบรรเทาภาวะของโรคเครียด โรคซึมเศร้า (เมล็ด)[2],[4]ช่วยลดระดับไขมันในเลือด (เมล็ด)[1],[4]ช่วยลดความดันโลหิต (เมล็ด)[1],[4]ช่วยระดับลดน้ำตาลในเลือด (เมล็ด)[1],[4]theobromine เป็นสารอัลคาลอยด์ที่แยกได้จากเมล็ดโกโก้ มีฤทธิ์กระตุ้นหัวใจ ขยายหลอดเลือด นิยมใช้เมื่อมีอาการบวมเกี่ยวกับโรคหัวใจ (เมล็ด)[1],[2]ช่วยป้องกันฟันผุ (เมล็ด)[1]theobromine มีฤทธิ์ขับปัสสาวะ จึงใช้เป็นยาขับปัสสาวะได้ (เมล็ด)[1],[2]ช่วยทำให้กล้ามเนื้อเรียบคลายตัว แก้หอบหืดคล้ายกับฤทธิ์ของ Theophylline แต่ถ้ากินเมล็ดมาก ๆ ก็อาจทำให้เสพติดได้ (เมล็ด)[1],[2]ช่วยบรรเทาอาการอักเสบ (เมล็ด)[4]ในประเทศฟิลิปปินส์จะใช้น้ำต้มจากรากโกโก้เป็นยาขับระดูของสตรี (ราก)[2]theobroma oil หรือ cocoa butter เป็นไขมันที่แยกออกเมื่อนำเมล็ดโกโก้มาคั่ว theobroma oil ใช้เป็นยาพื้นในการเตรียมยาเหน็บและเครื่องสำอาง (เมล็ด)[1]
วิธีการใช้ : ให้นำเมล็ดโกโก้ที่คั่วแห้งมาใช้เป็นเครื่องดื่มยามว่างหรือทำเป็นช็อกโกแลตผสมในอาหาร[1]
advertisements
ข้อมูลทางเภสัชวิทยาของโกโก้สารสำคัญที่พบ ในเมล็ดประกอบไปด้วยน้ำมัน (fixed oil) ประมาณ 30-50%, แป้ง 15%, โปรตีน 15%, alkaloid, theobromine ประมาณ 1-4%, caffeine ประมาณ 0.07-0.36%, สาร catechin, pyrazine, tyramine, tyrosine เป็นต้น[1]โกโก้มีฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรีย ต้านไวรัส ยับยั้งออกซิเดชั่น ป้องกันฟันผุ ขับปัสสาวะ ลดความดันโลหิต ลดไขมันในเลือด[1]สารสำคัญในโกโก้ คือ สารอัลคาลอยด์ theobromine มีโครงสร้างคล้ายกับคาเฟอีน (caffeine) มาก แต่จะมีฤทธิ์อ่อนกว่าคาเฟอีน โดยจะมีฤทธิ์กระตุ้นระบบประสาทส่วนกลาง กระตุ้นหัวใจ ขยายเส้นเลือด คลายกล้ามเนื้อเรียบ ขับปัสสาวะ และแก้หืดหอบคล้ายกับฤทธิ์ Theophylline ซึ่งถ้ากินเมล็ดมาก ๆ ก็จะเป็นสารเสพติดได้[2]จากการทดสอบความเป็นพิษ พบว่าโกโก้ไม่มีพิษต่อตัวอ่อน ไม่มีพิษต่อหนูขาว เมื่อนำโกโก้มาผสมอาหารให้กิน ในขนาดที่ทำให้หนูขาวตายเป็นจำนวนครึ่งหนึ่งมีค่าเท่ากับ 5.84 กรัมต่อกิโลกรัม[1]รายงานผลการทดลองของโกโก้ค.ศ.1996 ประเทศจีน ได้ทำการทดลองในหนูทดลอง โดยแบ่งหนูทดลองออกเป็น 3 กลุ่ม กลุ่มแรกให้โกโก้ 10% กลุ่มที่สองให้ soybean oil 10% และกลุ่มที่สามคือกลุ่มควบคุม ผลการทดลองพบว่าหนูทดลองกลุ่มหนึ่งและกลุ่มสอง มีระดับไขมันในเลือดลดลง แต่กลุ่มที่สองจะลดได้มากกว่ากลุ่มที่หนึ่ง[1]ค.ศ.2006 ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ทำการทดลองในอาสาสมัครกลุ่มที่หนึ่ง จำนวน 32 คน โดยให้ดื่มเครื่องดื่มโกโก้ 1.5 กรัม วันละ 2 ครั้ง ส่วนกลุ่มที่สองเป็นกลุ่มควบคุม คือไม่ได้ให้อะไรเลย การทดลองนี้ใช้เวลาประมาณ 6 สัปดาห์ ภายหลังการทดลองพบว่าระดับไขมันในเลือดของอาสาสมัครกลุ่มที่แรกลดลง LDL-c ลดลง 6% P<0.01[1]ค.ศ.2008 ประเทศสเปน ได้ทำการทดลองใช้โกโก้ในหนูทดลอง โดยการให้โกโก้ในหนูทดลอง โดยทำการเปรียบเทียบกับกลุ่มควบคุม ภายหลังการทดลองพบว่าหนูทดลองมีระดับไขมันในเลือดลดลง[1]ค.ศ.2008 ประเทศมาเลเซีย ได้ทำการทดลองใช้สารสกัดโกโก้ในหนูทดลองที่ถูกกระตุ้นให้เป็นเบาหวาน ด้วยสาร streptozocin โดยแบ่งกลุ่มการทดลองออกเป็น 3 กลุ่ม โดยให้สารสกัดโกโก้ในขนาด 10, 20, 30 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัมต่อวัน เป็นระยะเวลา 3 สัปดาห์ ภายหลังการทดลองพบว่าหนูมีระดับไขมันในเลือดลดลง[1]ค.ศ.2009 ประเทศมาเลเซีย ได้ทำการทดลองให้สารสกัดจากโกโก้ในหนูทดลองที่ถูกกระตุ้นให้มีระดับไขมันในเลือดสูง โดยทำการทดลองประมาณ 4 สัปดาห์ และในสารสกัดโกโก้ ประกอบไปด้วย polyphenol 2.7 มิลลิกรัม, epicatechin 1.52 มิลลิกรัม, eatechin 0.25 มิลลิกรัม, methyl xanthenes 8.55 มิลลิกรัม, caffeine 2.22 มิลลิกรัม, theobromine 1 กรัม พบว่าระดับไขมันในเลือดลดลงอย่างมีนัยสำคัญ P[1]ประโยชน์ของโกโก้เมล็ดโกโก้นิยมนำมาใช้ทำช็อกโกแลต (Chicolate) เนื่องจากมีไขมันสูงและมีสารประกอบหลายอย่างที่ทำให้เกิดกลิ่นหอมเฉพาะตัวเมื่อผ่านกรรมวิธี และยังมีผลิตภัณฑ์อีกประเภทหนึ่งที่สกัดได้เมล็ดที่คั่วแล้วด้วยตัวทำละลาย ที่เรียกว่า “โกโก้สกัด” (Cocoa extract) ที่นำมาใช้ผสมในเครื่องดื่มผงรสช็อกโกแลต ขนมอบ ไอศกรีม ลูกกวาด ทอฟฟี่ เป็นต้น[1] โดยสรุปแล้วผลิตภัณฑ์ที่ได้จากเมล็ดโกโก้ คือ เนื้อโกโก้(cocoa liquor หรือ cocoa mass), เนยโกโก้ (cocoa butter), โกโก้ผง (cocoa powder) และช็อกโกแลต (chocolate)[3]Food of the gods” โดยการนำผลโกโก้มาหมักแล้วแยกเอาเมล็ดออก นำมาทำความสะอาดแล้วนำไปย่างไฟ เสร็จแล้วกะเทาะเปลือกออก ก็จะได้เนื้อในเมล็ดที่นำไปใช้ได้[2]น้ำมันโกโก้ใช้เป็นสารแต่งกลิ่นและรสของอาหาร ยา และเครื่องดื่มหลายชนิด[2]เปลือกเมล็ดที่กะเทาะแยกออกจากใบเลี้ยง อาจนำไปบีบเอาเนยโกโก้ (Cocoa Butter) ซึ่งนำมาใช้เป็นส่วนผสมในการทำครีม สบู่ โลชั่นบำรุงผิว และเครื่องสำอาง ใช้เป็นตัวยาพื้นของยาเหน็บ ขี้ผึ้ง และครีม หรือนำมาสกัด theobromine ซึ่งใช้เป็นสารกระตุ้นเช่นเดียวกับคาเฟอีนที่ได้จากกาแฟและชา[2]
หมายเหตุ : โกโก้ที่นำมาทำเป็นช็อกโกแลต รวมไปถึงโกโก้ที่นำมาใช้ทำเป็นเครื่องดื่มต่าง ๆ ยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพอีกหลายอย่าง ซึ่งผมจะขอกล่าวถึงอย่างละเอียดในบทความหน้านะครับ ในเรื่องของ “ช็อกโกแล๊ต”
References”. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: www.rspg.or.th/plants_data/herbs/. [08 ก.ย. 2014].”. (ผศ.ดร.พิมพ์เพ็ญ พรเฉลิมพงศ์, ศาสตราจารย์เกียรติคุณดร.นิธิยา รัตนาปนนท์). [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: www.foodnetworksolution.com. [08 ก.ย. 2014].”. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: www.medplant.mahidol.ac.th. [08 ก.ย. 2014].
ภาพประกอบ : www.flickr.com
เรียบเรียงข้อมูลโดย ฟรินน์.com (ไม่อนุญาตให้คัดลอกเนื้อหาไม่ว่าส่วนหนึ่งส่วนใด)
HomeFood Healthอาหารเพื่อสุขภาพโกโก้ เครื่องดื่มมีประโยชน์
โกโก้ เครื่องดื่มมีประโยชน์
หมวด: อาหารเพื่อสุขภาพ 1207 ฮิต: 18465
ประโยชน์ของเครื่องดื่มโกโก้
ในปัจจุบันมีเครื่องดื่มหลากหลายชนิดให้ผู้ดื่มได้เลือก และเครื่องดื่มที่เป็นที่นิยม ได้แก่ โกโก้ เชื่อว่าหลายๆคนต้องเคยสั่งเครื่องดื่มโกโก้กันบ้าง นอกจากนี้ยังมีวิจัยได้วิจัยเกี่ยวกับประโยชน์ของโกโก้ และต้องเป็นที่น่าตกใจ เพราะคุณประโยชน์ของโกโก้มีสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งมีประโยชน์เช่นเดียวกับ เครื่องดื่มประเภท ชาหรือไวน์แดง แต่ว่าโกโก้มีสารต้านอนุมูลอิสระมากกว่าเครื่องดื่มพวกนี้หลายเท่าตัวเลย ซึ่งสารต้านอนุมูลอิสระช่วยป้องกันโรคได้หลายโรคกันเลยทีเดียว ดื่มโกโก้วันละแก้วเพื่อสุขภาพที่ดีต่อตัวคุณ
ดื่มโกโก้อย่างไรได้รับผลประโยชน์สูงสุด
นักวิจัยเผยว่า การดื่มโกโก้โดยตรงจะได้รับคุณค่าสารอาหารอย่างเต็มที่ ดีกว่านำไปทำเป็นอาหาร การดื่มโกโก้ร้อนสักแก้วนอกจากจะได้รับความอร่อย ยังได้รับความอบอุ่นแกร่างกายและเป็นประโยชน์ต่อร่างกาย โกโก้มีไขมันที่ต่ำกว่าช็อคโกแลต เช่น ช็อคโกแลตในขนาด40กรัม มีไขมัน8กรัม แต่โกโก้มีไขมันเพียง0.3กรัม
คุณประโยชน์
โกโก้อุดมไปด้วย แคลเซียม แมกนีเซียม โซเดียม สารฟลาโวนอยด์(FLAVONOID) และสารต้านอนุมูลอสระ ชื่อว่าโพลีฟีนอล มีประสิทธิภาพในการขยายเส้นเลือด จึงสามารถลดความดันเลือดและปรับปรุงการไหลเวียนของเลือดได้ สารตัวนี้นอกจากจะมีอยู่ในโกโก้แล้ว ยังอยู่ในแอปเปิ้ลแดง บลูเบอรี่ และชาเขียว
1 มีการไหลเวียนโลหิตในสมองดีขึ้น เพราะโกโก้มีสารฟลาวานอลส์สูง เพราะมีการทดลองในบรรดาผู้หญิงที่ให้ดื่มประเภทโกโก้ที่มีสารฟลาวานอลส์สูง มีการไหลเวียนโลหิตในสมองดีขึ้น เมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มที่ไม่ได้ดื่ม
2 โกโก้มีฤทธิ์ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดเส้นเลือดอุดตัน ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคหัวใจ จากทีมนักวิจัย University of California at Davis, USA
3 ช็อคโกแลตซึ่งผลิตมาจากโกโก้ อาจช่วยให้มีอายุยืนขึ้น เนื่องจากมีสารโพลีฟีนอล ซึ่งช่วยกวาดล้างสารผิดออกจากร่างกาย
สำหรับเมนูเครื่องดื่มโกโก้ เพื่อสุขภาพ
1 นำนมถั่วเหลือง 2ถ้วย เทใส่หม้อตั้งไฟปานกลาง
2 พอเริ่มร้อน เติมผงโกโก้เข้มข้น 70%ลงไป 2ช้อนชา
3 เติมน้ำตาล(แบบออกานิคหรือน้ำตาลเที่ยม) 2 ช้อนชา คนให้เข้ากัน
เป็นอันเสร็จเรียบร้อยกับเครื่องดื่มโกโกร้อน ดื่มวันละแก้ว เพื่อสุขภาพที่ดีต่อร่างกายคุณนะคะ
ขอบคุณข้อมูลจาก
http://www.bkkparttime.com/%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B9%87%E0%B8%94%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B9%89/%E0%B9%82%E0%B8%81%E0%B9%82%E0%B8%81%E0%B9%89-%E0%B8%8A%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%A2%E0%B8%9B%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%B8%84%E0%B8%AB%E0%B8%B1%E0%B8%A7/
http://www.refresherthai.com/Article/Benefits_of_Chocolates.php#
ดื่มโกโก้วันละแก้วสุขภาพดี
นอกชาหรือไวน์แดงแล้ว โกโก้ก็อุดมไปด้วยสารต่อต้านอนุมูลอิสระ ไม่แพ้กัน
ผลการศึกษาชิ้นใหม่พบว่านอกจาก ชา หรือไวน์แดง ที่รู้กันดีว่ามีสารแอนตี้ออกซิแดนท์ หรือสารต่อต้านอนุมูลอิสระ ช่วยป้องกันโรคได้หลายโรค รวมถึงยังป้องกันผลกระทบจากอายุที่เพิ่มมากขึ้นทุกวัน ยังมีอาหารอีกชนิดหนึ่ง นั่นก็คือ "โกโก้" ที่มีคุณสมบัติมากกว่าเครื่องดื่มเสริมสุขภาพที่ว่ามาเสียอีก
นักวิทยาศาสตร์ในสหรัฐอเมริกาศึกษาพบว่า โกโก้ร้อน 1 ถ้วยนั้นอุดมไปด้วยสารต่อต้านอนุมูลอิสระ มากกว่าเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีเช่น ชา หรือ ไวน์แดง
ทั้งนี้ เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา ผลการศึกษาหลายชิ้นได้เน้นถึงคุณสมบัติในการเสริมสร้างสุขภาพทีพบใน ชา ไวน์แดง และโกโก้ โดยมีงานวิจัยในจีน ตีพิมพ์เมื่อเดือนเมษายนปีที่แล้วพบว่า คนที่ดื่มน้ำชาเป็นประจำนั้นมีความเสี่ยงที่จะเป็นมะเร็งน้อยกว่าคนที่ไม่ดื่มกว่าครึ่งหนึ่ง
ปีที่แล้ว นักวิจัยในฝรั่งเศสรายงานว่า ดื่มไวน์แดงวันละแก้ว อาจช่วยลดโอกาสความเสี่ยงของโรคหัวใจ และในปี 1998 ได้มีการศึกษากับคนอเมริกันกว่า 8,000 คนพบว่าช็อกโกแลต ซึ่งผลิตมาจากโกโก้ นั้นอาจช่วยให้อายุยืนขึ้น เนื่องจากอุดมไปด้วย โพลีฟีนอล ซึ่งเป็นสารต่อต้านอนุมูลอิสระที่จะช่วยกวาดล้างของเสียที่ผลิตจากร่างกาย โดยของเสียเหล่านั้นมีส่วนทำลายเซลล์ และก่อให้เกิดมะเร็งได้
ในการศึกษาล่าสุดนี้ ดร. ชาง ยง ลี และคณะ จากมหาวิทยาลัยคอร์แนล ในนิวยอร์ก ได้ทำการทดสอบโดยวัดระดับสารต่อต้านอนุมูลอิสระใน ชา ไวน์แดง และโกโก้ พบว่าโกโก้ถ้วยหนึ่งนั้นมีสารแอนตี้ออกซิแดนท์มากที่สุด โดยมีมากกว่า ไวน์แดง 1 แก้วถึง 2 เท่า มากกว่าชาเขียว 1 ถ้วยถึง 3 เท่า และมากกว่าชาดำถึง 5 เท่าเลยทีเดียว
แม้ว่าโกโก้จะถูกนำไปทำเป็นอาหารหลายอย่างรวมทั้ง ช็อกโกแลต แต่นักวิจัยเผยว่า ทางที่ดีที่สุดที่จะได้รับคุณค่าสารอาหารอย่างเต็มที่ ก็คือการดื่มโกโก้ โดยตรง ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะว่าในช็อกโกแลต 1 แท่งอุดมไปด้วยไขมัน โดยช็อกโกแลตแท่ง ขนาด 40 กรัมนั้นมีไขมันมากถึง 8 กรัม ขณะที่โกโก้ร้อน 1 ถ้วยมีไขมันเพียงแค่ประมาณ 0.3 กรัมเท่านั้น
"แม้เรารู้ว่าสารต่อต้านอนุมูลอิสระนั้นดีต่อสุขภาพของเรามาก แต่ก็ไม่มีใครรู้ว่าในแต่ละวัน เราต้องการสารนี้กันจำนวนเท่าใด" ดร. ลี กล่าว "แต่กระนั้น โกโก้ร้อน ถ้วยหรือ สองถ้วย ก็ช่วยในด้านของความอร่อย ดื่มแล้วก็ทำให้รู้สึกอุ่น และช่วยเสริมสร้างสุขภาพจากสารแอนตี้ออกซิแดนท์ที่ได้รับอีกด้วย"
romeoboy
Home
romeoboyView my profile
Previousเรื่องน่าทึ่งของผงโกโก้เคยเป็นแบบนี้ใหมครับ ??เคส “ไอโฟน 5″ สุดหรู มูลค่า 3 ล้านบาทรู้หรือไม่!! ที่มาของแรงบันดาลใจดีไซน์เรียบง่ายสุดหรูของ Apple มาจากอะไร
Recommend
FavouritesIT-Country-LearningThe_evil_aspire
เรื่องน่าทึ่งของผงโกโก้posted on 11 Oct 2012 01:07 by romeo-boy directory Food, Knowledge
วั้นนี้เราไปเดินซื้อของในห้างซูปเปอร์มาเก็ตแห่งหนึ่ง พอเดินถึงแผนกเครื่องดื่ม
เราก็จะเดินไปหยิบเอากาแฟ แต่ขณะที่จะเดินถึงชั้นวางกาแฟ ตาเราก็เหลือบไปเห็นกระป๋องหลายกระป๋อง
วางอยู่บนชั้นวางของอยู่หลายชั้น รูปภาพที่ติดตรงข้างกระป๋องพวกนั้นดูเรียบๆแต่สวยงามมาก
เราก็เกิดสงสัยว่ามันคือกระป๋องอะไร??? ทำไมมันถึงมีวางอยู่หลายชั้น หลายยี่ห้อ ในใจก็คิดว่าคงเป็นกาแฟมั้ง แต่เมื่อเราเอื้อมมือไปหยิบกระป๋องพวกนั้นมาดู เราก้อได้รู้ว่ามันคือกระป๋องที่บรรจุผงโกโก้นั้นเอง
เขียนข้างหน้ากระป๋อง ว่า cocoa powder 100% เราดูราคาข้างกระป๋อง...แพงมาก 300กว่าบาท
บางกระป๋องแพงกว่านี้ ก็เลยหมุนๆ อ่าน ก็พบว่าเป็นของนำเข้า
แต่ในใจก็คิดว่าทำไมมันถึงแพงจัง ด้วยความสงสัย(เป็นอย่างมาก ว่าทำไมผงโกโก้ถึงแพงอย่างนี้
แล้วมันมีประโยชน์อะไร) เราก็เลยล้วงมือถือขึ้นมาจากกระเป๋ากางเกง เข้ากูเกิ้ลแล้วพิมพ์คำค้นหาไปว่า "ประโยชน์ของผงโกโก้" เราเข้าไปอ่านในเว็ปไซด์หนึ่ง ถึงบางอ้อออเลย
ข้อความที่เราเข้าอ่านในเว็ปมันเขียนว่า
รู้หรือไม่ โกโก้ร้อน 1 ถ้วยมีประโยชน์มากแค่ไหนกัน
โกโก้มีประโยชน์กว่าที่คิด
บีบีซีนิวส์ รายงานว่านักวิทยาศาสตร์ในสหรัฐอเมริกาศึกษาพบว่า โกโก้ร้อน 1 ถ้วยนั้นอุดมไปด้วยสารต่อต้านอนุมูลอิสระมากกว่าเครื่องดื่มประเภทชาหรือไวน์แดง
ในปี 1998 ได้มีการศึกษากับคนอเมริกันกว่า 8,000 คน พบว่า ช็อคโกแลตซึ่งผลิตมากจากโกโก้นั้น อาจช่วยให้มีอายุยืนขึ้น เนื่องจากอุดมไปด้วยสารโพลีฟีนอล ซึ่งเป็นสารต่อต้านอนุมูลอิสระที่จะช่วยกวาดล้างของเสียที่ผลิตจากร่างกาย
โดยของเสียเหล่านั้นมีส่วนทำลายเซลล์และก่อให้เกิดมะเร็งได้ ในการศึกษาล่าสุดนี้ ดร. ชาง ยง ลี และคณะ จากมหาวิทยาลัย คอร์แนล ในนิวยอร์ก ได้ทำการทดสอบโดยวัดระดับสารต่อต้านอนุมูลอิสระใน ชา ไวน์แดง และโกโก้
พบว่าโกโก้ถ้วยหนึ่งนั้น มีสารแอนตี้ออกซิแดนท์มากที่สุด โดยมีมากกว่าไวน์แดง 1 แก้ว ถึง 2 เท่า มากกว่าชาเขียว 1 ถ้วย ถึง 3 เท่า และมากกว่าชาดำถึง 5 เท่าเลยทีเดียว
นักวิจัยแนะนำว่าทางที่ดีที่สุดที่จะได้รับคุณค่าสารอาหารอย่างเต็มที่ก็คือ การดื่มโกโก้โดยตรงเพราะว่าในช็อคโกแลต 1 แท่งจะอุดมไปด้วยไขมัน โดยช็อกโกแลตแท่งขนาด 40 กรัมนั้นมีไขมันมากถึง 8 กรัม ขณะที่โกโก้ร้อน 1 ถ้วยมีไขมันเพียงแค่ประมาณ 0.3 กรัมเท่านั้น
หลังจากอ่านเสร็จเราก็หยิบมาเลย 2กระป๋อง ลงในล้อเข็น ถึงจะแพงไปหน่อยแต่มันมีประโยชน์มากมายเลยยอมซื้อ และก็บอกกับตัวเองว่า ตั้งแต่วันนี้ไปจะชงโกโก้ กินทุกคืนก่อนนอน ^^