วันพุธที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563

คุยกับสมาชิกเกาะน้ำค้าว 1

 สวัสดีครับ สมาชิกห้องและ สมาชิกโครงการเกาะน้ำค้าง ทุกๆท่านครับ ผมกลับไปกรุงเทพหลายวัน ก่อนกลับไปก็พยายามจัดการเองเรื่องหารายชื่อ สมาชิกที่อยู่ในโครงการ ซึ่งก่อนหน้านั้นก็ขอความช่วยเหลือจาก กรรมการดูแลโครงการ (กรรมการตามกฎหมายบังคับ) หลายๆท่านที่ได้ีโอกาสได้คุย แต่สุดท้ายเรื่องก็เงียบหายไป ส่วนตัวผมเองก็ไม่อยากอยู่ในโครงการที่มีสภาพเหมือน บ้านป่าแบบนี้ไปนาน เกรงว่าสิ่งเลวร้ายอาจเกิดขึ้นในโครงการนี้เข้าสักวัน กับเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ที่กำลังจะเกิดขึ้น ผมจึงต้องเดินเรื่องด้วยตัวเองกับคุณฝน ก็....ซับซ้อนยุ่งยากพอสมควร 
     แต่อาจประกอบกับความโชคดีที่เข้าไปขอความช่วยเหลือในจังหวะเวลาที่พอดีมีโชค ท่านเจ้าพนักงานที่ดินที่ท่านมาทำการแทนตำแหน่งที่ว่างอยู่ ท่านให้ความเมตตา ให้ทำเรื่องคำขอ สุดท้ายก็สามารถหามาได้ทั้งหมดจนได้ โดยใช้เวลาไปเสียอยู่ที่กรมที่ดินอยู่ 4 วันกับคุณฝน ต่อจากนั้นก็รีบไปทำงานที่ภาคเหนือและกรุงเทพอีกหลายวัน พอกลับมาเห็นโครงการ ในนาทีแรกที่มาถึงหน้าโครงการ ก็ต้องคิดว่า เราอยู่ในป่าหรือเปล่า? เห็นหญ้าขึ้นรุกลามมาบนฟุตบาท นี่ถ้าถนนไม่เป็นคอนกรีตอยู่มันคงลามเต็มถนนจนรถวิ่งไม่ได้แล้ว จากชื่อโครงการที่สวยน่าเอาไปคุยให้เพื่อนๆฟัง โครงการที่เคยเป็นพระเอกในจันทบุรี ใหญ่โต แข็งแรง มาตรฐาน ลูกค้าไฮโซทั้งนั้น(ก่อนเข้ามาซื้อ  ซึ่งผมได้ยินคนจันท์เขาว่ากันแบบนั้นจริงๆ ฟังแล้วหลงไหลเลย..) แต่...สภาพตอนนี้เหมือนบ้านป่าเมืองเถื่อนเลย..
    เราอยู่สภาพแบบไม่มีคนรับผิดชอบดูแล มานาน ทั้งๆที่ตามกฎหมายแล้วมีผู้ต้องดูแลให้มันคงสภาพเดิมตามที่ขออนุญาตจัดสรรอยู่ แต่เขาอาจไม่รู้ก็ได้ เลยปล่อยให้พวกเราอยู่ในสภาพแบบนี้มานาน  
    ในความคิดผม พื้นที่ส่วนกลางของโครงการที่เราอยู่เนียะ มันมีทางที่จะเป็นไปได้อยู่เพียง 3 ประการเท่านั้นคือ..
  1.พวกเราเลือกตั้ง คณะชุดดูแล บริหาร พท.ส่วนกลาง ของพวกเราเองขึ้นมาแทน ชุดที่รับผิดชอบอยู่ปัจจุบัน
 2. ยก พท.ส่วนกลางให้หลวงไป และ..
 3. ย้ายหนีไปซะที่อื่น
  จาก 3 ข้อนี้ ความเป็นได้มากที่สุดและควรต้องเป็นคือ ข้อ.1 ส่วนอีก 2 ข้อ ยากมากที่จะเกิดขึ้น (เหตุผลว่าทำไมมันยากที่จะเป็น คงต้องคุยเป็นรายละเอียดเวลาที่ได้ประชุมคุยกัน) 
   ดังที่กล่าวไว้ข้างบนว่า เรามีความจำเป็นต้องเปลี่ยนถ่ายการบริหารมาเป็นของพวกเราเอง (กรรมการชุดปัจจุบัน ส่วนมากไม่ได้อาศัยอยู่ในโครงการ จึงไม่ได้รับผลกระทบใดๆจากสถาพในโครงการ) และควรจะเป็นการเร่งด่วน เพราะนานวันไป ในสภาพเงินส่วนกลางที่จะใช้ว่าจ้างคนดูแลไม่มีแบบนี้ นับวันสภาพโครงการจะยิ่งย่ำแย่ เสียหาย และอันตรายมากขึ้น 
 และการที่จะดำเนินการจากสภาพโครงการที่เป็นลบโดยสถาพในปัจจุบัน และเป็นศูนย์ แบบนี้ ถ้าจะเดินทางไปถึง สภาพโครงการที่สวยงาม ไฟสว่าง ปลอดภัย และน่าอยู่อาศัยอย่างมีความสุข ก็ต้องยอมรับว่า เป็นเรื่องใหญ่และยาวนานหลายขั้นตอน เกินกว่าความสามารถของคนเพียงไม่กี่คนจะ ดำเนินการได้ จึงเป็นความจำเป็นอย่างมากที่จะต้องอาศัย พลังสามัคคีของพวกเราที่จะช่วยร่วมมือร่วมใจกัน ขบวนการนี้แทบไม่ต้องใช้เงินเลยหรือใช้ก็น้อยมาก จนอาจไม่ต้องรบกวนสมาชิกเลยก็ได้ แต่สิ่งที่ต้องการใากที่สุดคือ ความเห็นที่ตรงกัน ลู่ทางที่จะช่วยกันคิดหาวิธี เดินทางไปให้ถึงจุดนั้น ซึ่งถ้าทุกๆท่านที่อาศัยอยู่ในโครงการอยู่ในขณะนี้(ซึ่งมีปริมาณไม่ถึงครึ่งของสมาชิกทั้งหมด) มาร่วมช่วยกันรับฟัง รายละเอียด , ช่องทางดำเนินการ , จนสุดท้ายมีความเห็นไปทางเดียวกันได้ สุดท้ายของโครงการนี้ที่ควรจะเป็นมานานแล้วคงมีโอกาสได้เป็นจริง 
  จึงใคร่ขอความกรุณา รบกวนเวลาอันมีค่าของสมาชิกทุกท่าน ช่วยสละเวลากันอีกสักครั้ง มาคุยสรุปกันอีกครั้งก่อนที่ผมจะร่างจดหมายถึง ผู้ถือกรรมสิทธิ์ทั้งหมดเพื่อขอมติ จัดตั้งนิติบุคลบริหารโครงการต่อไป
    สุดท้ายนี้ ผมขอโอกาสนี้ ขอขอบคุณน้อง...เจ้าของร้านอาหารปาทู ที่ช่วยให้ใช้สถานที่นั่งคุยกัน เพราะพวกเราไม่มีที่จะไปนั่งกัน (สโมสรก็ปิดตาย รอวันผุพังไปวันๆ) ถ้าจะมีโอกาสอีกก็อนุอนุเคราะห์แค่น้ำเปล่าคนละแก้วก็เป็นพระคุณแล้ว กับสถานที่ให้เราได้มีที่นั่งคุยกัน 
  จะมีใครมีความกรุณาเป็นคนช่วยนัดให้หน่อยได้ไหมครับ คนที่รู้จัก ท่านสมาชิกในโครงการมากที่สุดน่าจะเป็นผู้ประสานงานการนัดได้ดีที่สุดครับ
       ขอขอบพระคุณล่วงหน้าครับ
                   pjmong



   สวัสดีครับ สมาชิกโครงการเกาะน้ำค้างทุกๆท่าน ผมกลับไปกรุงเทพฯหลายวัน ก่อนกลับไปก็พยายามจัดการเรื่องหารายชื่อสมาชิกที่ถือกรรมสิทธิ์บนที่ดินที่อยู่ในโครงการฯ  ซึ่งก่อนหน้านั้นก็ได้ขอความร่วมมือไปยังกรรมการผู้ดูแลรับผิดชอบโครงการ (กรรมการตามที่กฎหมายบังคับ) หลาย ๆ ท่านได้มีโอกาสมาพูดคุยพร้อมกัน แต่สุดท้ายเรื่องก็เงียบหายไปไม่ได้รับการติดต่อจากกรรมการที่รับปากอีก ส่วนตัวผมเองไม่อยากอยู่ในโครงการที่สภาพเหมือนป่ารกแบบนี้นานนัก  เกรงว่าสิ่งเลวร้ายอาจเกิดขึ้นในโครงการนี้เข้าสักวัน ยิ่งเศรษฐกิจกำลังย่ำแย่ ผมและคุณฝนจึงต้องเดินเรื่องด้วยตัวเอง โดยมีพวกเราที่อยู่อาศัยในนี้ให้ความร่วมมือสนับสนุนเป็นอย่างดี ซึ่งขั้นตอนการติดต่อทำงานมีความซับซ้อนยุ่งยากพอสมควร แต่อาจเป็นความโชคดี ที่เข้าไปปรึกษาในจังหวะเวลาที่เหมาะสม ท่านเจ้าพนักงานที่ดิน ซึ่งเข้ามาทำการแทนตำแหน่งที่ว่างชั่วคราว จึงเมตตาให้ทำเรื่องยื่นคำขอและสามารถหารายชื่อมาได้ทั้งหมด โดยใช้เวลาที่ สนง.ที่ดินจังหวัดอยู่ 4 วัน  ต่อจากนั้นก็รีบไปทำงานที่กรุงเทพฯ และภาคเหนืออีกหลายวัน พอกลับมาเห็นโครงการในนาทีแรกที่ถึงหน้าโครงการก็ต้องคิดว่า " นี่บ้านพวกเราอยู่ในป่ากันหรือเปล่า? "  เห็นหญ้าขึ้นรกลามมาบนฟุตบาทจนไม่เห็นทางเดิน ถ้าถนนไม่ได้เป็นคอนกรีต ต้นหญ้าคงลามเต็มถนน จนรถวิ่งไม่ได้แล้ว จากชื่อโครงการที่สวยจนน่าเอาไปคุยให้เพื่อน ๆ ฟัง โครงการที่เคยใหญ่โตแข็งแรง เป็นมาตรฐาน เป็นชื่อเสียงของจันทบุรีในตอนนั้น แต่สภาพตอนนี้ เหมือนโครงการร้าง ผมตัดสินใจมาซื้อที่ดินในโครงการนี้ก็เพราะ ได้ยินได้ฟังมามากเรื่องความสวยงาม ความมาตรฐานในเชิงวิศวกรรม , layout (ผังโครงการ)ที่สวยงามในทางสถาปัตยกรรม ,และความแข็งแรงและความได้มาตรฐานของโครงการ ขนาดชื่อของโครงการยังเพราะเลย...!!
    เราอยู่สภาพแบบไม่มีคนรับผิดชอบดูแลมานาน ทั้ง ๆที่ตามกฎหมายแล้ว ต้องมีผู้ดูแลให้โครงการคงสภาพเดิม ตามที่ขออนุญาตจัดสรรไว้ แต่ผู้ต้องรับผิดชอบอาจไม่รู้ตัวเอง ว่ามีกฎหมายกำหนดไว้ จึงปล่อยให้พวกเราอยู่ในสภาพตามมีตามเกิดมาแบบนี้ และคิดดูว่า ความรกชัฏของต้นไม้ที่ไม่ต้องการและวัชพืช มันไม่หยุด ยิ่งนานๆไปยิ่งอัตรายขึ้นทุกๆวัน 
     ในความคิดส่วนตัวและตามประสบการณ์ของผม พื้นที่ส่วนกลางมีโอกาสเป็นไปได้เพียง 3 ประการเท่านั้นคือ..  :-
1. พวกเราเลือกตั้งคณะทำงานเพื่อบริหารพื้นที่ส่วนกลาง ขึ้นมาทำหน้าที่แทนชุดที่รับผิดชอบอยู่ในปัจจุบัน
2. ยกพื้นที่ส่วนกลางให้หลวงไป (สาธารณะประโยชน์)
3. ย้ายหนีไปที่อื่น

   จาก 3 ข้อนี้ ข้อที่น่าจะเป็นไปได้มากที่สุดคือข้อ 1  และ 99% ของโครงการในประเทศไทยก็เลือกวิธีนี้ เพราะเป็นวิธีที่เหมาะสมที่สุดกับโครงการใหญ่ขนาดนี้    ส่วนขอ 2 และ 3 ข้อยากมาก ๆที่จะเกิดขึ้น (เรื่องรายละเอียดเราจะได้คุยกันในการประชุมครั้งต่อไป) โดยเฉพาะ การยกให้เป็นสาธารณะประโยชน์ จะมีเรื่องเลวร้ายตามมาอีกมากมายถ้าเลือกข้อนี้ ซึ่งผมได้ไปถ่ายรูปมาให้เห็นสภาพโครงการที่ยกพื้นที่ส่วนกลางให้เป็นสาธารณะประโยชน์ที่กรุงเทพ มาให้ดูด้วย เมื่อตอนกลับไปครั้งนี้ ส่วนอีก 1% ที่ว่ายกส่วนกลางให้เป็นสาธารณะประโยชน์นั้น ทั้งหมดใน 1% นี้ เป็นโครงการขนาดเล็กที่มีบ้านไม่เกิน30-40 หลังคาเรือน กรณีย์ที่ 2 นี้ ยากมากที่จะเกิด และถ้าเกิดขึ้นแล้วยิ่งเลวร้ายกว่า
      ดังที่กล่าวไว้ข้างต้น ว่าพวกเรามีความจำเป็น ต้องเปลี่ยนถ่ายการบริหารพื้นที่ส่วนกลาง ของโครงการเกาะน้ำค้างมาดูแลกันเองเพราะคณะทำงานที่ต้องรับผิดชอบในปัจจุบัน ส่วนใหญ่ไม่ได้อาศัยอยู่ในโครงการ จึงไม่ได้รับผลกระทบจากสภาพที่เป็นอยู่ของโครงการ และพวกราควรจะดำเนินการโดยเร่งด่วน เพราะยิ่งนานวัน โครงการที่ไม่ได้รับการดูแลจะยิ่งทรุดโทรม เสียหายและอันตรายมากขึ้น และการทิ้งร้างไว้นานๆ สภาพที่ทรุดโทรมไปยิ่งบำรุงซ่อมแซมยากและใช้ทุนสูงขึ้นไปเรื่อยๆ 
      การที่จะปรับปรุงจากโครงการที่มีสภาพเป็นลบอยู่ในขณะนี้ ไปสู่โครงการที่สวยงามน่าอยู่อาศัย  มีความปลอดภัย ไฟฟ้าสว่างและถนนหนทางสะอาดสอ้านได้ ต้องยอมรับว่าเป็นเรื่องใหญ่ ต้องใช้เวลาอีกยาวนานหลายขั้นตอน จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องอาศัยพลังความสามัคคีของพวกเรา ที่อาศัยอยู่ในโครงการเกาะน้ำค้างปัจจุบัน ร่วมแรงร่วมใจกันคิดหาวิธีการที่จะไปถึงจุดนั้นให้ได้ หากทุกๆท่านมาร่วมฟังรายละเอียด ช่วยกันแนวทางการดำเนินการ และช่วยกันแสดงความคิดเห็น (brainstrom) ที่สามารถนำไปปฏิบัติได้จริงเป็นแนวทางเดียวกัน สุดท้ายโครงการน่าจะมีสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ในเร็ววัน

   จึงใคร่ขอความกรุณา รบกวนเวลาอันมีค่าของสมาชิกทุกท่าน ช่วยสละเวลากันอีกสักครั้งมาคุยสรุปกันก่อนที่ผมจะร่างจดหมายถึงผู้ถือกรรมสิทธิ์ทั้งหมดเพื่อ เชิญประชุมจัดตั้งนิติบุคคลบริหารโครงการต่อไป

    สุดท้ายผมขอโอกาสนี้ขอบคุณน้อง "อุ๊ก" เจ้าของร้านอาหารปลาทู 
ที่อนุเคราะห์ให้ใช้สถานที่นั่งคุยกัน อีกทั้งยังเลี้ยงขนมและเครื่องดื่มทุกครั้ง
ขอความกรุณาท่านใดที่รู้จักสมาชิกที่อยู่อาศัยในปัจจุบันมากที่สุด ช่วยประสานการนัดหมายครั้งนี้ให้ด้วยครับ (คนที่รู้จักท่านสมาชิกในโครงการมากที่สุดน่าจะเป็นผู้ประสานการนัดได้ดีที่สุด)และดีที่สุดคือทุกคนช่วยกันชวนกันมาเยอะ ๆ นะครับ

       ขอขอบพระคุณล่วงหน้าครับ
                   pjmong
  

วันอังคารที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563

ชั่วคราว

(please)(three)(please)ที่สุดคำสอนของพระพุทธเจ้าก็คือความจริงที่ (please)กรรมมุนาวัตตรีโลโกกุ๊กุ๊(please)(..)ที่ผลกรรมที่อเมริกาได้สร้างและสั่งสมสร้างความเดือดร้อนไปเกือบทั่วโลก ให้ประเทศเล็กน้อยใหญ่ทั่วโลกด้วยนโยบาย(please)(A)(M)(E)(R)(I)(C)(A)(three) (F)(I)(R)(S)(T)ด้วยนโยบายทำลายล้างทุกประเทศที่ขัดขวางเป็นปฎิปักษ์ขัดผลประโยชน์ประเทศ อเมริกา จนผลกรรมที่ได้สร้างไว้ คนต้องตายไปก็เยอะ บ้านเมืองถูกถล่อฉิบหายไปก็ไม่รู้เท่าไหร่ เมื่อกรรมมันเดินมาเรื่อยๆตั้งแต่เจอพายุหนักๆเกือบทุกปี คนตายไปก็ทุกปี การก่อจราจลก็มีให้เห็นในประเทศตัวเองต้องรับมือ และสุดท้ายเชื้อโรคร้ายกำลังคร่าชีวิตคนอเริกันร่วม2แสนกว่าแล้วแทบไม่น่าเชื่อว่าประเทศที่เป็นสุดยอดเทคโนฯกลับมาตายเพราะสิ่งที่มองไม่เห็นแพ้ประเทศอย่างไทยๆ...ถามว่าทำไมคนอเริกาต้องรับกรรมแทนรัฐฯด้วย คำตอบ..ก็ไม่คัดค้านในสิ่งที่รัฐฯของตัวเองไปเที่ยวสร้างไว้โดยไม่ใส่ใจไงละ นั่นแหล่ะคือผลแห่งกรรมที่ได้ร่วมรู้เห็นหรือเฉยเมยและปล่อยวาง เพราะดูดทรัพย์พยากรของเขาไป และให้เอาภาษีรัฐฯส่งอาวุธไปทำลายล้างประเทศต่างๆ ยังไม่ใช่แค่นี้ครับ สิ่งที่ทั้ประเทศและประชาชน อเมริกันยังจะต้องรับอีกจนสุดท้ายก็คือตกลงมาเป็นประเทศที่ล้า...หลังอย่างตัวอย่างนี้ เมืองใหญ่ๆรวมทั้ง LA เอาไม้ปิดหน้าร้านกันหมดแล้วครับ เศร้า เห็นแล้วนึกถึงชื่อวรรณคดีเรื่องหนึ่ง และมันคงไม่ใช่ประชาธิปไตยอันสวยงามแน่แน่พี่น้องคนไทยเอ๋ยตาสว่างเสียทีเราเมืองพุทธ พ่อแม่ปู่ย่าตายาย ต่างได้ร่วมสร้างสมบุญบารมีให้ทั้งลููกหลานและคนไทยทั้งประเทศได้อยู่ดีพอมีพอกิน ยิ่งหากเดินตามนโยบายของพ่อหลวง ร.๙ อย่างพอเพียงไม่ฟุ้งเฟ้อก็อยู่ได้สบายๆ สตางค์ก็จะอยู่ในกระเป๋าเราไม่ใช่ย้ายไปกระเป๋าเศรษฐีอย่างทุกวันนี้..คนไทยไม่จนนะ รวยน้ำใจเห็นมั้ยว่าแค่หลวงพ่อบ่นหน้อยใจว่าไม่มีกฐินเข้าเลย แผล๊บเดียวมาเลย20กว่าล้าน ลุงแทกซี่ลำบากขับรถทั้งถุงน้ำเกลือเงินไหลไม่กี่วันจนเกือบ10ล้าน ลุงแกก็ดีนะบอกว่าพอแล้ว และอีกหลายๆพลังแห่งเมตตาในคนไทยที่มีล้นเหลือ ขอเพียงสอนสั่งลูกหลานรุ่นต่อๆไปให้ได้รับรู้วัฒณธรรมอันดีงามของคนรุ่นเก่าก่อน เพื่อส่งรุ่นต่อรุ่น# ช่วยกันแชร์หน่อยครับ ไม่ได้ต้องการค่าไร้ทอะไรทั้งสิน และไม่กลัวด้วยว่าจะถูกขึ้นบัฐชีดำไม่ให้เข้าประเทศอเมริกา บ้านเราน่าอยู่กว่าเยอะ กับประชาธิปไตรอย่างไทยๆ จริยะธรรม วัฒนธรรมประเพณีอันดีงามมีมากมายจนล้นเหลือ จะไปทำไมประเทศเหยียดผิวที่ปากบอก ประชาธิปไตย.#.รักประเทศไทยเถอะพี่น้องคนไทยไม่รักกันแล้วจะไปรักใครได้