แต่อาจประกอบกับความโชคดีที่เข้าไปขอความช่วยเหลือในจังหวะเวลาที่พอดีมีโชค ท่านเจ้าพนักงานที่ดินที่ท่านมาทำการแทนตำแหน่งที่ว่างอยู่ ท่านให้ความเมตตา ให้ทำเรื่องคำขอ สุดท้ายก็สามารถหามาได้ทั้งหมดจนได้ โดยใช้เวลาไปเสียอยู่ที่กรมที่ดินอยู่ 4 วันกับคุณฝน ต่อจากนั้นก็รีบไปทำงานที่ภาคเหนือและกรุงเทพอีกหลายวัน พอกลับมาเห็นโครงการ ในนาทีแรกที่มาถึงหน้าโครงการ ก็ต้องคิดว่า เราอยู่ในป่าหรือเปล่า? เห็นหญ้าขึ้นรุกลามมาบนฟุตบาท นี่ถ้าถนนไม่เป็นคอนกรีตอยู่มันคงลามเต็มถนนจนรถวิ่งไม่ได้แล้ว จากชื่อโครงการที่สวยน่าเอาไปคุยให้เพื่อนๆฟัง โครงการที่เคยเป็นพระเอกในจันทบุรี ใหญ่โต แข็งแรง มาตรฐาน ลูกค้าไฮโซทั้งนั้น(ก่อนเข้ามาซื้อ ซึ่งผมได้ยินคนจันท์เขาว่ากันแบบนั้นจริงๆ ฟังแล้วหลงไหลเลย..) แต่...สภาพตอนนี้เหมือนบ้านป่าเมืองเถื่อนเลย..
เราอยู่สภาพแบบไม่มีคนรับผิดชอบดูแล มานาน ทั้งๆที่ตามกฎหมายแล้วมีผู้ต้องดูแลให้มันคงสภาพเดิมตามที่ขออนุญาตจัดสรรอยู่ แต่เขาอาจไม่รู้ก็ได้ เลยปล่อยให้พวกเราอยู่ในสภาพแบบนี้มานาน
ในความคิดผม พื้นที่ส่วนกลางของโครงการที่เราอยู่เนียะ มันมีทางที่จะเป็นไปได้อยู่เพียง 3 ประการเท่านั้นคือ..
1.พวกเราเลือกตั้ง คณะชุดดูแล บริหาร พท.ส่วนกลาง ของพวกเราเองขึ้นมาแทน ชุดที่รับผิดชอบอยู่ปัจจุบัน
2. ยก พท.ส่วนกลางให้หลวงไป และ..
3. ย้ายหนีไปซะที่อื่น
จาก 3 ข้อนี้ ความเป็นได้มากที่สุดและควรต้องเป็นคือ ข้อ.1 ส่วนอีก 2 ข้อ ยากมากที่จะเกิดขึ้น (เหตุผลว่าทำไมมันยากที่จะเป็น คงต้องคุยเป็นรายละเอียดเวลาที่ได้ประชุมคุยกัน)
ดังที่กล่าวไว้ข้างบนว่า เรามีความจำเป็นต้องเปลี่ยนถ่ายการบริหารมาเป็นของพวกเราเอง (กรรมการชุดปัจจุบัน ส่วนมากไม่ได้อาศัยอยู่ในโครงการ จึงไม่ได้รับผลกระทบใดๆจากสถาพในโครงการ) และควรจะเป็นการเร่งด่วน เพราะนานวันไป ในสภาพเงินส่วนกลางที่จะใช้ว่าจ้างคนดูแลไม่มีแบบนี้ นับวันสภาพโครงการจะยิ่งย่ำแย่ เสียหาย และอันตรายมากขึ้น
และการที่จะดำเนินการจากสภาพโครงการที่เป็นลบโดยสถาพในปัจจุบัน และเป็นศูนย์ แบบนี้ ถ้าจะเดินทางไปถึง สภาพโครงการที่สวยงาม ไฟสว่าง ปลอดภัย และน่าอยู่อาศัยอย่างมีความสุข ก็ต้องยอมรับว่า เป็นเรื่องใหญ่และยาวนานหลายขั้นตอน เกินกว่าความสามารถของคนเพียงไม่กี่คนจะ ดำเนินการได้ จึงเป็นความจำเป็นอย่างมากที่จะต้องอาศัย พลังสามัคคีของพวกเราที่จะช่วยร่วมมือร่วมใจกัน ขบวนการนี้แทบไม่ต้องใช้เงินเลยหรือใช้ก็น้อยมาก จนอาจไม่ต้องรบกวนสมาชิกเลยก็ได้ แต่สิ่งที่ต้องการใากที่สุดคือ ความเห็นที่ตรงกัน ลู่ทางที่จะช่วยกันคิดหาวิธี เดินทางไปให้ถึงจุดนั้น ซึ่งถ้าทุกๆท่านที่อาศัยอยู่ในโครงการอยู่ในขณะนี้(ซึ่งมีปริมาณไม่ถึงครึ่งของสมาชิกทั้งหมด) มาร่วมช่วยกันรับฟัง รายละเอียด , ช่องทางดำเนินการ , จนสุดท้ายมีความเห็นไปทางเดียวกันได้ สุดท้ายของโครงการนี้ที่ควรจะเป็นมานานแล้วคงมีโอกาสได้เป็นจริง
จึงใคร่ขอความกรุณา รบกวนเวลาอันมีค่าของสมาชิกทุกท่าน ช่วยสละเวลากันอีกสักครั้ง มาคุยสรุปกันอีกครั้งก่อนที่ผมจะร่างจดหมายถึง ผู้ถือกรรมสิทธิ์ทั้งหมดเพื่อขอมติ จัดตั้งนิติบุคลบริหารโครงการต่อไป
สุดท้ายนี้ ผมขอโอกาสนี้ ขอขอบคุณน้อง...เจ้าของร้านอาหารปาทู ที่ช่วยให้ใช้สถานที่นั่งคุยกัน เพราะพวกเราไม่มีที่จะไปนั่งกัน (สโมสรก็ปิดตาย รอวันผุพังไปวันๆ) ถ้าจะมีโอกาสอีกก็อนุอนุเคราะห์แค่น้ำเปล่าคนละแก้วก็เป็นพระคุณแล้ว กับสถานที่ให้เราได้มีที่นั่งคุยกัน
จะมีใครมีความกรุณาเป็นคนช่วยนัดให้หน่อยได้ไหมครับ คนที่รู้จัก ท่านสมาชิกในโครงการมากที่สุดน่าจะเป็นผู้ประสานงานการนัดได้ดีที่สุดครับ
ขอขอบพระคุณล่วงหน้าครับ
pjmong
สวัสดีครับ สมาชิกโครงการเกาะน้ำค้างทุกๆท่าน ผมกลับไปกรุงเทพฯหลายวัน ก่อนกลับไปก็พยายามจัดการเรื่องหารายชื่อสมาชิกที่ถือกรรมสิทธิ์บนที่ดินที่อยู่ในโครงการฯ ซึ่งก่อนหน้านั้นก็ได้ขอความร่วมมือไปยังกรรมการผู้ดูแลรับผิดชอบโครงการ (กรรมการตามที่กฎหมายบังคับ) หลาย ๆ ท่านได้มีโอกาสมาพูดคุยพร้อมกัน แต่สุดท้ายเรื่องก็เงียบหายไปไม่ได้รับการติดต่อจากกรรมการที่รับปากอีก ส่วนตัวผมเองไม่อยากอยู่ในโครงการที่สภาพเหมือนป่ารกแบบนี้นานนัก เกรงว่าสิ่งเลวร้ายอาจเกิดขึ้นในโครงการนี้เข้าสักวัน ยิ่งเศรษฐกิจกำลังย่ำแย่ ผมและคุณฝนจึงต้องเดินเรื่องด้วยตัวเอง โดยมีพวกเราที่อยู่อาศัยในนี้ให้ความร่วมมือสนับสนุนเป็นอย่างดี ซึ่งขั้นตอนการติดต่อทำงานมีความซับซ้อนยุ่งยากพอสมควร แต่อาจเป็นความโชคดี ที่เข้าไปปรึกษาในจังหวะเวลาที่เหมาะสม ท่านเจ้าพนักงานที่ดิน ซึ่งเข้ามาทำการแทนตำแหน่งที่ว่างชั่วคราว จึงเมตตาให้ทำเรื่องยื่นคำขอและสามารถหารายชื่อมาได้ทั้งหมด โดยใช้เวลาที่ สนง.ที่ดินจังหวัดอยู่ 4 วัน ต่อจากนั้นก็รีบไปทำงานที่กรุงเทพฯ และภาคเหนืออีกหลายวัน พอกลับมาเห็นโครงการในนาทีแรกที่ถึงหน้าโครงการก็ต้องคิดว่า " นี่บ้านพวกเราอยู่ในป่ากันหรือเปล่า? " เห็นหญ้าขึ้นรกลามมาบนฟุตบาทจนไม่เห็นทางเดิน ถ้าถนนไม่ได้เป็นคอนกรีต ต้นหญ้าคงลามเต็มถนน จนรถวิ่งไม่ได้แล้ว จากชื่อโครงการที่สวยจนน่าเอาไปคุยให้เพื่อน ๆ ฟัง โครงการที่เคยใหญ่โตแข็งแรง เป็นมาตรฐาน เป็นชื่อเสียงของจันทบุรีในตอนนั้น แต่สภาพตอนนี้ เหมือนโครงการร้าง ผมตัดสินใจมาซื้อที่ดินในโครงการนี้ก็เพราะ ได้ยินได้ฟังมามากเรื่องความสวยงาม ความมาตรฐานในเชิงวิศวกรรม , layout (ผังโครงการ)ที่สวยงามในทางสถาปัตยกรรม ,และความแข็งแรงและความได้มาตรฐานของโครงการ ขนาดชื่อของโครงการยังเพราะเลย...!!
เราอยู่สภาพแบบไม่มีคนรับผิดชอบดูแลมานาน ทั้ง ๆที่ตามกฎหมายแล้ว ต้องมีผู้ดูแลให้โครงการคงสภาพเดิม ตามที่ขออนุญาตจัดสรรไว้ แต่ผู้ต้องรับผิดชอบอาจไม่รู้ตัวเอง ว่ามีกฎหมายกำหนดไว้ จึงปล่อยให้พวกเราอยู่ในสภาพตามมีตามเกิดมาแบบนี้ และคิดดูว่า ความรกชัฏของต้นไม้ที่ไม่ต้องการและวัชพืช มันไม่หยุด ยิ่งนานๆไปยิ่งอัตรายขึ้นทุกๆวัน
ในความคิดส่วนตัวและตามประสบการณ์ของผม พื้นที่ส่วนกลางมีโอกาสเป็นไปได้เพียง 3 ประการเท่านั้นคือ.. :-
1. พวกเราเลือกตั้งคณะทำงานเพื่อบริหารพื้นที่ส่วนกลาง ขึ้นมาทำหน้าที่แทนชุดที่รับผิดชอบอยู่ในปัจจุบัน
2. ยกพื้นที่ส่วนกลางให้หลวงไป (สาธารณะประโยชน์)
3. ย้ายหนีไปที่อื่น
จาก 3 ข้อนี้ ข้อที่น่าจะเป็นไปได้มากที่สุดคือข้อ 1 และ 99% ของโครงการในประเทศไทยก็เลือกวิธีนี้ เพราะเป็นวิธีที่เหมาะสมที่สุดกับโครงการใหญ่ขนาดนี้ ส่วนขอ 2 และ 3 ข้อยากมาก ๆที่จะเกิดขึ้น (เรื่องรายละเอียดเราจะได้คุยกันในการประชุมครั้งต่อไป) โดยเฉพาะ การยกให้เป็นสาธารณะประโยชน์ จะมีเรื่องเลวร้ายตามมาอีกมากมายถ้าเลือกข้อนี้ ซึ่งผมได้ไปถ่ายรูปมาให้เห็นสภาพโครงการที่ยกพื้นที่ส่วนกลางให้เป็นสาธารณะประโยชน์ที่กรุงเทพ มาให้ดูด้วย เมื่อตอนกลับไปครั้งนี้ ส่วนอีก 1% ที่ว่ายกส่วนกลางให้เป็นสาธารณะประโยชน์นั้น ทั้งหมดใน 1% นี้ เป็นโครงการขนาดเล็กที่มีบ้านไม่เกิน30-40 หลังคาเรือน กรณีย์ที่ 2 นี้ ยากมากที่จะเกิด และถ้าเกิดขึ้นแล้วยิ่งเลวร้ายกว่า
ดังที่กล่าวไว้ข้างต้น ว่าพวกเรามีความจำเป็น ต้องเปลี่ยนถ่ายการบริหารพื้นที่ส่วนกลาง ของโครงการเกาะน้ำค้างมาดูแลกันเองเพราะคณะทำงานที่ต้องรับผิดชอบในปัจจุบัน ส่วนใหญ่ไม่ได้อาศัยอยู่ในโครงการ จึงไม่ได้รับผลกระทบจากสภาพที่เป็นอยู่ของโครงการ และพวกราควรจะดำเนินการโดยเร่งด่วน เพราะยิ่งนานวัน โครงการที่ไม่ได้รับการดูแลจะยิ่งทรุดโทรม เสียหายและอันตรายมากขึ้น และการทิ้งร้างไว้นานๆ สภาพที่ทรุดโทรมไปยิ่งบำรุงซ่อมแซมยากและใช้ทุนสูงขึ้นไปเรื่อยๆ
การที่จะปรับปรุงจากโครงการที่มีสภาพเป็นลบอยู่ในขณะนี้ ไปสู่โครงการที่สวยงามน่าอยู่อาศัย มีความปลอดภัย ไฟฟ้าสว่างและถนนหนทางสะอาดสอ้านได้ ต้องยอมรับว่าเป็นเรื่องใหญ่ ต้องใช้เวลาอีกยาวนานหลายขั้นตอน จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องอาศัยพลังความสามัคคีของพวกเรา ที่อาศัยอยู่ในโครงการเกาะน้ำค้างปัจจุบัน ร่วมแรงร่วมใจกันคิดหาวิธีการที่จะไปถึงจุดนั้นให้ได้ หากทุกๆท่านมาร่วมฟังรายละเอียด ช่วยกันแนวทางการดำเนินการ และช่วยกันแสดงความคิดเห็น (brainstrom) ที่สามารถนำไปปฏิบัติได้จริงเป็นแนวทางเดียวกัน สุดท้ายโครงการน่าจะมีสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ในเร็ววัน
จึงใคร่ขอความกรุณา รบกวนเวลาอันมีค่าของสมาชิกทุกท่าน ช่วยสละเวลากันอีกสักครั้งมาคุยสรุปกันก่อนที่ผมจะร่างจดหมายถึงผู้ถือกรรมสิทธิ์ทั้งหมดเพื่อ เชิญประชุมจัดตั้งนิติบุคคลบริหารโครงการต่อไป
สุดท้ายผมขอโอกาสนี้ขอบคุณน้อง "อุ๊ก" เจ้าของร้านอาหารปลาทู
ที่อนุเคราะห์ให้ใช้สถานที่นั่งคุยกัน อีกทั้งยังเลี้ยงขนมและเครื่องดื่มทุกครั้ง
ขอความกรุณาท่านใดที่รู้จักสมาชิกที่อยู่อาศัยในปัจจุบันมากที่สุด ช่วยประสานการนัดหมายครั้งนี้ให้ด้วยครับ (คนที่รู้จักท่านสมาชิกในโครงการมากที่สุดน่าจะเป็นผู้ประสานการนัดได้ดีที่สุด)และดีที่สุดคือทุกคนช่วยกันชวนกันมาเยอะ ๆ นะครับ
ขอขอบพระคุณล่วงหน้าครับ
pjmong