วันจันทร์ที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2560

พ่อกับความพอเพียง

วันนี้ได้อ่านบทสัมภาษณ์ของ  ร.๑๐ และสมเด็จพระเทพฯ จากผู้ใหญ่ใจดีท่านหนึ่งส่งมาให้ อ่านจบ อดไม่ได้ที่จะแชร์ต่อ เพราะเป็นประโยชน์มากๆ  ควรจดจำให้ขึ้นใจ..ทิ้งไม่ได้แม้แต่ข้อเดียว..เลยคัดลอกมาให้ทุกท่านได้อ่านด้วยกันค่ะ..🙏😊😭
-
ร10และพระเทพฯทรงให้สัมภาษณ์ BBCไว้ดีมากทั้ง 2 พระองค์

ข้อคิดในวันที่พ่อไม่อยู่  อ่านให้จบ ดีมากๆๆ

1. จากนี้ไปประเทศไทยของเราจะไม่มีวันเหมือนเดิมอีก อาจมีหลายสิ่งเปลี่ยนไป รอยต่อของคนรุ่นเก่าและรุ่นใหม่อาจชัดเจนขึ้น มันคือการเปลี่ยนผ่านในวันที่พ่อไม่อยู่ ทุกคนมีสิทธิ์เสียใจ และควรเสียใจ ทุกคนมีสิทธิ์กลัว และควรกลัว แต่จงตระหนัก เตรียมพร้อมรับมือกับความเปลี่ยนแปลงด้วยสติปัญญา

2. พ่อคือตัวแทนของความพอเพียง เป็นต้นฉบับของปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ในวันที่ประเทศไทยกำลังถูกปั่นด้วยกระแสความโลภ จงหยิบภูมิปัญญาของท่านมาใช้ให้เกิดประโยชน์ จดจำหลอดยาสีฟันของท่านไว้ จดจำการแต่งกายที่เรียบง่ายของท่านไว้ อะไรที่ประหยัดได้จงประหยัด อะไรที่พึ่งพาตนเองได้จงพึ่งพา อะไรที่แบ่งปันได้จงแบ่งปัน เมื่อยืนด้วยลำแข้งตัวเองได้แล้ว เราจะพึ่งพาผู้อื่นน้อยลง

3. พ่อเป็นผู้มีความเพียรดุจพระมหาชนก ท่านเป็นผู้ว่ายน้ำข้ามมหาสมุทรโดยไม่เคยถามว่าเมื่อไหร่จะถึงฝั่ง ความคิดเช่นนี้ทำให้ท่านทำงานที่ยิ่งใหญ่ได้ ฝากถึงคนไทย อย่าทำงานด้วยตัณหา อย่าขับเคลื่อนชีวิตด้วยความอยากมี อยากได้ อยากเป็น อย่าให้อำนาจวัตถุบังตาจนไม่รู้จักผิดชอบชั่วดี จงขับเคลื่อนชีวิตและการงานด้วยฉันทะ ความรัก ความเมตตา ด้วยประโยชน์ของเพื่อนมนุษย์เหมือนที่พ่อเคยทำให้เห็นเป็นตัวอย่าง

4. พ่อยืนเคียงข้างคนยากจนเสมอ คนจนอยู่ที่ไหนท่านก็อยู่ที่นั้น ท่านเดินทางบุกป่าฝ่าดงไปเยี่ยมพวกเขาถึงบ้าน เป็นพระราชาผู้อยู่ง่าย กินง่าย ไม่ยึดติดความหรูหรา เมื่อพ่อไม่อยู่แล้ว เราอย่าหลงลืมปณิธานข้อนี้ อย่าทอดทิ้งคนยากจน จงหยิบยื่นโอกาสให้ผู้ด้อยกว่า อย่าใช้ช่องว่างกฎหมายซ้ำเติมและเอาเปรียบผู้อื่น

5. ไม่มีท่าน เราจะมานั่งทะเลาะกันเหมือนในอดีตไม่ได้ เพราะไม่มีใครที่จะมาห้ามเราได้ ไม่มีใครอีกแล้วที่เราจะเกรงใจ รับฟังเหมือนที่เคยรับฟังท่าน ถ้าทุกฝ่ายไม่คิดถึงข้อนี้ให้มาก ถ้ายังเอาแต่ความคิดตนเป็นใหญ่ ประเทศไทยที่เรารัก ย่อมตกอยู่ในฐานะอันตราย เมื่อพ่อไม่อยู่แล้ว จงรักและถนอมน้ำใจกันให้มากกว่าที่ผ่านมา

6. สิ่งที่พ่อทิ้งไว้ ไม่ใช่เพียงอิฐ หิน ปูน ทราย แต่เป็นความรู้ขั้นปรีชาญาณ เราอาจรักษาร่างกายท่านไว้ไม่ได้ เพราะนั่นคือกฎธรรมชาติ แต่เราสามารถรักษาภูมิปัญญาของท่านไว้ได้ จงค้นคว้าข้อมูลทางเทคนิคต่างๆ ฝนเทียมเกิดได้อย่างไร กังหันน้ำชัยพัฒนาคืออะไร มันมีความน่าทึ่งยังไงในมิติทางวิศวกรรม การเพาะปลูกโดยไม่พึ่งสารเคมีทำได้อย่างไร การพัฒนาดิน รักษาน้ำ ชุบชีวิตป่าเป็นอย่างไร ทำไมท่านไม่สนับสนุนให้ปลูกพืชเชิงเดี่ยว ทำไมท่านจึงส่งเสริมให้ชาวบ้านรู้จักการห่มดิน ท่านเคยสร้างรากฐานอันใดไว้ให้วงการเกษตรกรรมของชาติ สิ่งเหล่านี้ควรสนับสนุนให้มีการร่ำเรียนกันเป็นระบบ ในโรงเรียน มหาวิทยาลัย ถ้าเราทำเช่นนี้ได้ภูมิปัญญาที่ท่านคิดค้นมาหลายสิบปีจะไม่สูญหายไปจากสังคมไทย

7. จากนี้ไปจะมีคนอีกมาก ที่ออกมาแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง อาจมีคนที่ไม่เข้าใจท่านออกมาพูดในสิ่งที่เราไม่ชอบ จงใช้สติ อดทน ไม่โต้ตอบ เหมือนที่ท่านได้กระทำมาชั่วชีวิต พระพุทธเจ้าตรัสไว้เสมอ ไม่เคยมีสันติภาพใด เกิดจากความรุนแรงและคำด่าทอ

8. พ่อเป็นผู้ค้ำชูศาสนาโดยแท้จริง ไม่ใช่ด้วยคำพูด หรือแค่เม็ดเงินบริจาค แต่ท่านคือผู้พิสูจน์ธรรมะด้วยกายใจ ในฐานะผู้ปฏิบัติธรรม ท่านคือนักภาวนาที่หาตัวจับยาก เป็นผู้มีอานาปานสติเป็นวิหารธรรม ทำไมพ่อทำงานหนัก แต่ยังมีเวลาภาวนา ทำไมเราทำงานน้อยกว่าท่าน แต่เรากลับอ้างว่าเราไม่มีเวลา สิ่งนี้ต้องคิดให้มาก เพื่อนำไปสู่การปรับปรุงเปลี่ยนแปลงตนเอง

9. พ่อคือครูผู้ยิ่งใหญ่ที่สอนด้วยชีวิตและการกระทำ ชีวิตคือธรรมะ และธรรมะก็คือชีวิตที่ตั้งอยู่ในความธรรมดาที่เกิดขึ้นกับเราทุกคน พ่อกำลังบอกเราว่า จงดำรงตนอยู่ในความไม่ประมาท ทำให้ดีที่สุดในวันนี้ จะไม่ต้องติดค้างเสียใจในภายหลัง

10. แม้วันนี้พ่อจะไม่อยู่ แต่ขอให้ชาวไทยจงวางใจว่า สถานที่ที่ท่านเดินทางไปนั้น น่าอยู่และงดงามกว่านี้หลายเท่า ท่านคือพระโพธิสัตว์ผู้ผ่านมาสร้างแสงสว่าง การเกิดของท่านในชาตินี้เป็นการเกิดที่สมศักดิ์ศรีแห่งความเป็นมนุษย์ และเราทั้งหลายควรภูมิใจไปกับท่าน ท่านคงไม่อยากให้เราคนไทยถูกทับถมด้วยทะเลแห่งความเศร้า อย่าทิ้งหน้าที่ อย่าทิ้งการงาน และสิ่งต่างๆ ที่รับผิดชอบอยู่ จงตั้งสติให้มั่นคง เป็นกำลังสมาธิ เป็นความสว่างเบิกบาน เพื่อน้อมส่งท่านสู่สวรรค์คาลัย ด้วยหัวใจแห่งความรักของเราชาวไทยทุกคน…

เขียนด้วยความรัก สำนึก และบูชาตลอดไป 🙇🏻‍♀️🙇🏻‍♀️🙇🏻‍♀️
อ่านแล้วน้ำตาไหล😩😫😭😭😭😭

วันจันทร์ที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2560

จีน& ฝรั่ง


       สงครามมันเกิดแล้ว!! "จีน" และ "สหรัฐฯ" ประกาศสงครามต่อกันมานานแล้ว แต่เป็นสงครามในรูปแบบใหม่ ที่หลายคนยังคิดไม่ถึง
2017-04-09 07:15:07--Tnews_latest

วันที่ 26 สิงหาคม 2015 เพจแฉ...ความลับ โดยเสธ น้ำเงินได้โพสข้อความเรื่องราวของการทำสงครามรูปแบบใหม่ ที่ไม่ได้เอาอาวุธเข้าห้ำหั่นกันเหมือนสมัยก่อน แต่ปัจจุบันนี้ วิวัฒนาการของการทำสงครามพัฒนาไปไกลกว่านั้น เป็นอย่างไรต้องติดตามอ่านกัน

เป็นที่ทราบว่าโลกของเรา ณ วันนี้หาความสงบสุขไม่ได้เสียแล้ว เมื่อประเทศยักษ์ใหญ่ค่ายลัทธิประชาธิปไตยโลกตะวันตก กับค่ายอนุรักษ์นิยมโลกตะวันออก ไม่ยอมกันอีกต่อไปแล้ว เพราะแนวคิดโลกตะวันตกคือต้องแย่งชิง รุกราน สร้างสถานการณ์ให้คับขัน แต่แนวคิดโลกตะวันออกคือการรักความสงบ อยู่แบบพอเพียง

เมื่อใดถูกกลั่นแกล้งจนถึงจุดเลยเส้นความอดทน ก็จะรวมตัวกันสู้ยิบตาตายเป็นตาย เจ๊งเป็นเจ๊ง เราสามารถศึกษาประวัติศาสตร์คราวสงครามโลกครั้งที่ 2 นี้ได้ คราวนั้นฮิตเลอร์แห่งเยอรมนี ทึ่เข้มแข็งทางกองทัพอย่างมาก ส่งทหารบุกจากยุโรปตะวันตกผ่านพรมแดนสหภาพโซเวียต โดยไม่สามารถต้านทานไหว

ผู้นำสหภาพโซเวียตยุคนั้นใช้กลยุทธ์ สู้พลางถอยพลาง ถ่วงเวลาจนถึงหน้าหนาว จนกองทัพเยอรมนีล้อมกรุงมอสโคได้ ชาวรัสเซียก็ตั้งมั่นในที่ตั้งปล่อยให้ทหารเยอรมนีหนาวและป่วยตายไปหลายหมื่นคนจนกองทัพอ่อนแอรบไม่ไหว เมื่อถึงจุดนี้ผู้นำสหภาพโซเวียต จึงสั่งลุยกองทัพเยอรมันทันที

ส่งผลให้ทัพเยอรมันที่เกรียงไกรพ่ายแพ้อย่างง่ายดายถอยทัพไม่เป็นท่า ใครที่มีข้อมูลว่าอเมริกากับอังกฤษช่วยสหภาพโซเวียตขับไล่ทหารเยอรมัน คือกำลังถูกบิดประวัติศาสตร์ เพราะตอนนั้นสหภาพโซเวียตขอความช่วยเหลือไปหลายครั้ง แต่อเมริกากับอังกฤษถ่วงเวลานิ่งเฉย กองทัพสหภาพโซเวียตจึงรวมพลกันบุกจากยุโรปตะวันออกข้ามไปยุโรปตะวันตกด้วยตนเอง

โดยกองทัพอเมริกา อังกฤษมาฉกฉวยร่วมโจมตีในช่วงนี้ จนสามารถบุกยึดเมืองหลวงของเยอรมนีได้ในที่สุด ฮิตเลอร์ต้องฆ่าตัวตายพร้อมครอบครัวก่อนจะถูกจับตัวได้ ซึ่งประเทศอเมริกา ที่ก่อตั้งมาแค่ 230 ปี คือ การรวมตัวของคนที่เคยเป็นชาวอังกฤษ ฝรั่งเศส เสปน ที่เป็นนักล่าอาณานิคมมาก่อน

แล้วไปรุกรานแย่งชิงดินแดนจากชาวพื้นเมืองอินเดียนแดง โดยการใช้อาวุธ และโรคร้ายไข้ทรพิษ จนชาวอินเดียนแดงตายไปกว่า 1 ล้านคน การรุกรานแย่งชิงปล้นทรัพย์จากคนชาติอื่นด้วยกำลังความรุนแรงจึงถือเป็นลักษณะเฉพาะของชาวตะวันตกมาแต่โบราณกาล เพราะเขาถือว่าชนชาติตนเองสูงส่ง

และดูแคลนคนผิวสีดินแดนอื่นๆ เช่น แอฟฟริกา ตะวันออกกลาง เอเซีย ที่เป็นเพียงชนชาติรับใช้ เมื่อก่อนดินแดนพวกนี้จึงตกเป็นอาณานิคมชาติตะวันตกจนหมด เมื่อปกครองดินแดนพวกนี้อยู่หลายร้อยปี จึงค่อยๆ ปล่อยให้เอกราช "แบบมีเงื่อนไข" โดยการสร้างลัทธิการปกครองที่ชาวตะวันตกครอบงำทางการเมืองได้เรียกว่า "ลัทธิประชาธิปไตย"

โดยมีการเลือกตั้งเป็นพิธีกรรมบังหน้าให้ดูเนียน และอ้างว่าเป็นตัวแทนประชาชน จากนั้นชาติตะวันตกก็สร้างตำราลัทธิฯ หลักสูตร เป็นของตนเองแต่เป็นแนวตะวันตก เช่น ด้านรัฐศาสตร์ นิติศาสตร์ การทหาร เศรษฐศาสตร์ทุนนิยม วิทยาศาสตร์ ฯลฯ แล้วก็ดึงคนในชาตินั้นๆ ไปเรียนหลักสูตรของตนเองเพื่อล้างสมองเป็นต้นไม้พิษ

แล้วส่งกระจายกลับมาสร้างผลไม้พิษในดินแดนต่างๆ ผู้คนทั่วโลกจึงถูกฝังหัวมาตั้งแต่แรกเกิดว่าลัทธิประชาธิปไตย และทุนนิยมนั้นดีที่สุดสำหรับประชาชน วิถีชีวิต พฤติกรรม แนวคิดของคนจึงโน้มเอียงไปทางลัทธินี้ ผนวกกับลัทธิฯ นี้สร้างสื่อขึ้นมา "สะกดจิต" คนทั่วโลกให้คล้อยตามตลอดเวลาเช้า สาย บ่าย ค่ำ

ต่อมาประเทศที่เคยตกเป็นอาณานิคมอังกฤษ คือ จีนมีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการปกครองเป็นคอมมิวนิสต์ โดยมีหลักการคือความเท่าเทียมของประชาชน และรัฐเป็นผู้ควบคุมทุน ทางฟากลัทธิประชาธิปไตย เห็นว่าจะเป็นแนวคิดที่จะเป็นคู่แข่งการครองโลกจึงสร้างภาพให้ร้ายต่างๆ นาๆ

แล้วแทรกแซงทางการเมืองประเทศต่างๆ ที่ตนล้างสมองคนหมดแล้ว จึงเกิดการต่อสู้โดยใช้กำลังทหารระหว่าง 2 ลัทธิแบบเผชิญหน้าในหลายสมรภูมิ เช่น เวียดนาม เกาหลี อาฟกานิสสถาน จนประชาชนล้มตายเป็นใบไม้ร่วงหลายล้านคน ต่อมาจีนที่ซุ่มปิดปฏิรูปประเทศหลังม่านไม้ไผ่อยู่หลายสิบปีจึงค่อยเปิดประเทศออกมา

พลิกผันกลยุทธ์ซุนวูทางการค้ากลายเป็นชาติที่ร่ำรวยมหาศาลอย่างก้าวกระโดดภายใต้ระบอบอนุรักษ์นิยม เป็นก้างชิ้นเบ่อเร่อในการครองโลกของชาวตะวันตก จนมาถึงปัจจุบันกว่าที่ชาติจ้าวลัทธิประชาธิปไตยจะรู้ตัว ก็ถูกจีนกลืนทางเศรษฐกิจไปค่อนประเทศแล้ว ตนเองเผลอแพล๊บเดียวกลายเป็นลูกหนี้รายใหญ่ที่สุดในโลกของจีน

สร้างหนี้สาธารณะที่ก่อโดยรัฐพุ่งสูงยิ่งกว่าจรวดไปถึง 18 ล้านล้านดอลล่า (ราว 615 ล้านล้านบาท) ชาติจ้าวลัทธิประชาธิปไตยมีหลักคิดมานานแล้วว่า "ครองอาหารได้ก็ครองชาติ ครองพลังงานได้ก็ครองทวีป ครองระบบการเงินได้ก็ครองโลก" การที่ตนเองเป็นหนี้จีนเสียเองมากขนาดนี้นั่นหมายถึงจีนกำลังกลับตาลปัตรครองโลกด้วยตำราของตะวันตกเอง

นั่นหมายถึงลัทธิประชาธิปไตย และทุนนิยมจะถึงกาลล่มสลาย ชาติต่างๆ จะหันไปใช้ระบอบอนุรักษ์นิยมแบบจีนกับรัสเซียกันหมด ความยิ่งใหญ่ที่บรรพบุรุษนักล่าอาณานิคมสร้างมานานหลายร้อยปีจะจบลงในยุคนี้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ฟากลัทธิประชาธิปไตยยอมรับไม่ได้ การก่อกวนอย่างหนักจึงเริ่มขึ้น

โดยการสร้างตัวละครกลุ่มก่อการร้ายไปทั่วโลก พร้อมสนับสนุนทุน อาวุธ การแทรกแซงทางการเมือง การปลุกปั่นยุยง การสร้างความไร้เสถียรภาพบนโลกไปทุกภูมิภาค และทุ่มหมดหน้าตักเพื่อทุบทำลายตลาดทุนการเงินของจีน ใช้กองทุนเฮดฟันเข้าไปปั่นตลาดหุ้นจีนยกแรกโดนจีนสวนหมัดดองเค็มเงิน 68 ล้านล้านบาทตายสนิท

จีนเอาไปเข้าตระกร้าเงินจีนเรียบร้อย ตอนนี้กลุ่มอิลลูมินาติยังไม่เข็ด ล่าสุดหุ้นร่วงหนักทั่วโลก ในชาติตะวันตกไม่ต้องพูดถึงตกทีเป็นพันจุด มูลค่านับไม่ไหว รวมทั้งในจีนด้วย ทำให้มหาเศรษฐีอันดับ 1 ของจีน นายหวัง เจี้ยนหลิน ประธานและผู้ก่อตั้งต้าเหลียน หวั่นต๋า บริษัทอสังหาริมทรัพย์และสถานบันเทิงของจีน

สูญเงินในวันเดียวถึงราว 127,815 ล้านบาท มูลค่าสินทรัพย์ของเขาหายไปกว่า 1 ใน 10 ในวันเดียว แต่ถามว่าสะเทือนไหม ?? คำตอบคือไม่..เพราะตั้งแต่ต้นปีจนถึงขณะนี้เขารวยขึ้นราว 213,055 ล้านบาท และ เศรษฐีจีนที่ขาดทุนเป็นอันดับ 2 คือ นายแจ๊ค หม่า ผู้ก่อตั้งอาลีบาบา อีคอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่

มูลค่าสินทรัพย์เขาหายไปราว 19,350 ล้านบาท..ก็สิวๆ ขนหน้าแข็งไม่ร่วงเพราะก่อนหน้านี้เขาฟันกำไรสะสมมากกว่านี้หลายเท่าตัว แต่ที่จุกถึงคอหอยคือผลพวงมาจากตลาดทุนและการเงินโลกที่ได้รับผลกระทบจากตลาดหุ้นของจีน ราคาน้ำมันดิบล่วงหน้าเดือนตุลาคมในตลาด WTI ของอเมริกา ลดลงไปอีกเหลือ 38.24 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

มากที่สุดในรอบ 6 ปี คาดว่าจีนจะใช้กลยุทธ์ซุนวู ทุบราคาน้ำมันลดลงได้อีก โดยน่าจะอยู่ที่ประมาณ 35 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ถ้าสถานการณ์เลวร้ายลงอีกราคาน้ำมันโลกอาจไหลลงไปถึง 20 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล..เมื่อนั้นทุกประเทศที่ขายน้ำมันเป็นรายได้หลักจะล้มละลายเป็นโดมิโน่กันไปทั้งโลก และอเมริกาที่อิงค่าเงินชนิดเปโตรดอลล่า จะยืนตายทั้งเป็น

เพราะต้นทุนการผลิตน้ำมันของอเมริกาเป็นชนิดหินน้ำมันที่มีต้นทุนสูงราว 44 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล (ย่านตะวันออกกลางจะเป็นจากฟอสซิลถูกกว่าต้นทุนราว 20 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล) นั่นหมายความว่าตอนนี้อเมริกากำลังขาดทุน 6 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เป็นเงินเกือบแสนล้านบาทต่อวัน

ถ้าชาติจ้าวลัทธิประชาธิปไตยยังทุบตลาดทุนจีนหนักเท่าไร ผลมันจะเด้งกลับเหมือนเตะบอลอัดผนัง ตนเองก็จะวินาศจากราคาน้ำมันมากเช่นกัน ผลคือจะทำให้อเมริกาตกอยู่ในสถานะประเทศล้มละลายในไม่ช้านี้..บอกได้เลยว่าบัดนี้เขาประกาศสงครามต่อกันแล้ว แต่เป็นสงครามในรูปแบบใหม่

และลำดับต่อไปเขาจะทำลายระบบการสื่อสารกัน ตามด้วยทำลายระบบพลังงานทั้งหมด โลกเสี่ยงจะกลายเป็นอัมพาต..คนไทยคงต้องเริ่มหัดใช้การส่งสัญญาณควันสื่อสารกัน และใช้พลังงานจากฟืนกันอีกครั้ง..สูงสุดคืนสู่สามัญ..โฮ่ ฮี้ โฮ !!

เรียบเรียงโดย

สถาพร เกื้อสกุล :สำนักข่าวทีนิวส์

วันอาทิตย์ที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2560

เศรษฐกิจพอเพียง

  ก่อนมีความสุขสนุกสนานกันในเทศการปีใหม่ไทย ขออนุญาตคุยเรื่องดีๆเป็นประโยชน์สักนิดนะครับ 
    ผมได้เห็น คลิปนี้เมื่อสองวันก่อนในห้องนี้ เลยแอบโหลดเก็บไว้ ใช้พื้นที่บนเครื่องไป 42.7 Mb แต่ก็คุ้มมากๆ อยากขอบคุณคนเอามาลง แต่ก็ลืมไป เรื่องเศรษกิจพอเพียง เป็นอีกเรื่องที่ผมตั้งใจจะรณรงค์ให้มากที่สุดตลอดไปเท่าที่ตัวเองจะมีโอกาสทำ  ในระหว่างที่พระองค์ท่านยังอยู่ นี่เป็นเรื่องเดียวที่โดดเด่นที่สุดในผลงานของท่านในสายตาผม  เพราะผลงานอื่นๆของประองค์ท่านสร้างแล้วก็ใช้และรักษาต่อไป แต่เรื่องแนวความคิดนี้ต้องพัตนาต่อเพราะเพิ่งเป็นแค่เริ่มตันสำหรับคนไทย แต่ตอนจบของเรื่องน่าจะยิ่งใหญ่กว่าผลงานอื่นของพระองค์ท่าน หลายร้อยหลายพันเท่า  ถ้าสมมุติว่าคนบนโลกนี้เพียงแค่ 25% ทีมีอยู่บนโลกใบนี้ หันมาใช้ความคิดนี้ดำเนินชีวิต รับรองได้ว่าเราจะเห็นรอยยิ้มกับชีวิตที่มีความสุข และทรัพยากรบนโลกใบนี้ถูกผลาญน้อยลงกว่านี้อีกหลายเท่าตัว เรื่องพิสูจน์แล้วว่าจริงเพราะผมใช้แนวความคิดนี้มาใช้กับตัวเองนี่ก็เกือบยี่สิบปีแล้ว ทำงานได้เยอะ มีความสุข ไม่ค่อยทุกข์ ท่านมีความหวังอย่างมากกับเรื่องนี้ที่จะให้มนุษย์เราเดินตามแนวทางนี้ แต่แปลกใจมากที่สุดก็คือ รัฐบาลในอดีตเสียเงินมากมายกับการโฆษณารณรงค์ถึงเรื่องนี้ แต่กลับไปคิดว่าเรื่องนี้ใช้ได้แต่เฉพาะชาวไร่ชาวนา มีแต่เรื่องไร่นาสวนผสม แต่ความจริงก็คือ สามารถใช้ได้ทุกคนทุกอาชีพ ดารานักแสดง จำเป็นไหม ..?? ที่ต้องมีรองเท้ามากมายเป็นร้อยเป็นพันคู่ เสื้อผ้ามากมายจนต้องปลูกบ้านอีกหลังเพื่อเก็บ แถมเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีกับแฟนคลับของตัวเองอีกด้วย ถ้าลองเปลี่ยนความคิดใหม่ว่าไม่ต้องมากมายขนาดนั้น เอาแค่พอดีใช้ สวยที่ใจ สง่างามที่การวางตัว มารยาท คำพูด และความคิด จะดีกว่าไหม..?? ถ้าทุกคนคิดปรับ ทรัพยากรที่ต้องถูกนำมาใช้กับของที่เหลือใช้ขนาดนั้นจะเหลือไว้ได้อีกเท่าไหร่ ?? เงินในกระเป๋าจะยังจะเหลืออยู่อีกแค่ไหน ??
      ใครจะรู้ ...?? ปราชญ์ของแผ่นดินของมหาบุรุษผู้นี้ อาจเป็นเจ้าของระบอบการปกครองแนวใหม่ในอนาคตก็ได้ วันนี้เกือบทุกประเทศ ใช้ระบอบการปกครองแบบ.."" ประชาธิปไตย แบบทุน(วัตถุ เงิน)นิยม.."" เมื่อโลกพิสูจน์แล้วว่าระบบนี้ เผาผลาญทรัพยากร เผาใจตัวเองให้มีแต่จ้องจะหาทุนหาเงินเข้ากระเป๋าตัวเองที่ทำให้ปัญหาอีกมากมายตามมา
    วันหนึ่ง ทดลองใช้จากคนๆนึงได้ผล เขยิบขึ้นมาเป็นครอบครัว จากครอบครัวเป็นหมู่บ้าน เป็นตำบล.... หรือถ้ารัฐบาลใจดี ตั้งหมู่บ้านทดลองขึ้นมาอาจได้เห็นผลจริงจัง  ต่อไปอาจมีสักประเทศเอาปรัชญานี้ไปลองปรับใช้ จากแค่ปรัชญา อาจเขยิบขึ้นมาเป็นลัทธิ เขยิบขึ้นมาเป็นระบอบการปกครองก็ได้....ก็ระบอบการปกครองแบบ.."" ประชาธิปไตย แบบเศรษกิจพอเพียง.."" ไงละครับ ...ไม่รู้ว่าผมคิดมากไปเองไหม.? แต่ผมก็คิดแบบนี้จริงๆ ว่ามันน่าจะได้ผลจริง และเป็นตัวตอบโจทย์ ของทุกปัญหาที่เกิดในชีวิตคนได้ ซึ่งตัวผมเองเอาตัวเข้าพิสูจ์มาแล้วเป็นสิบๆปี และเห็นผลจริง คำตอบของเรื่องนี้ให้อะไรกับผมมากมายจนบรรยายตรงนี้ไม่จบ ...
       ถ้ารักพระองค์ท่านจริง ก็ไม่ใช่แค่ใส่เสื้อดำเพื่อไว้อาลัยต่อพระองค์ท่าน แต่พระองค์ท่านคงมีความสุขที่พสกนิกรของพระองค์ท่าน ได้น้อมนำปรัชญาของท่านมาใช้แล้วชีวิตตัวเองและคนรอบข้าง จนไปถึงระบบรวมทั้งประเทศ มีความสุขขึ้น มีเงินเหลือใช้มากขึ้น โลกจะสวยมากขึ้น ...
     หลังจากที่พระองค์จากพวกเราไป ผมก็คิดว่าอยากจะทำอะไรสักอย่างเพื่อเก็บความทรงจำดีๆต่อพระองค์ท่านไว้ เลยตั้งกลุ่มขึ้นมาบน facebook ตั้งใจจะให้เป็นกลุ่มสาธารณะ เพื่อรณรงค์ให้ข้อมูล ข่าวสาร เชิญชวนให้คนไทยหันมาใช้แนวความคิดนี้เป็นเครื่องมือดำเนินชีวิต ..รับรองว่าชีวิตดีขึ้นแน่นอนครับ ไม่มากก็น้อย แต่รับรองว่าไม่ขาดทุนแน่นอน  ใครมีความคิดดีๆ หรือสนใจ ก็เข้าไปร่วมกันก็ได้นะครับ แต่ถ้าไม่มีใคร ผมก็จะทำไปคนเดียวละครับ ทำไปเรื่อยๆเท่าที่มีโอกาส ชื่อ facebook ว่า ""กลุ่มรณรงค์ให้ใช้ชีวิตแบบปรัชญาพอเพียงและรักษาทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม ""  นะครับ เปิดไว้นานแล้ว ข้อมูลค่อยๆลงไป ช้าหน่อยเพราะไม่มีคนช่วยแต่ก็ไม่ซีเรียส เพราะผมตั้งกลุ่มอื่นไว้อีกสองกลุ่ม กลุ่มหนึ่งก็อย่างที่บอกครับ คือเรื่อง salsa อันนี้เป็นกิจที่ชอบส่วนตัว กับคนที่ชอบเหมือนกัน อีกกลุ่มหนึ่งทำเพื่อส่วนรวมอีกละครับแต่ออกเป็นงานทางช่าง ทางวิศวกรรม ครับ แล้วค่อยเล่าให้ฟังทีหลัง ...สุดท้าย ขอบคุณเจ้าของคลิปที่เอามาลงครับ ผมจะโหลดเอาไปเก็บที่กลุ่มครับ สะสมเป็นข้อมูลไว้.....pjmong...
  

วันเสาร์ที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2560

อยาคตอันใกล้

นี่คือความเป็นจริงในอนาคตอันใกล้นี้ ต้องอ่านให้ได้นะครับ ยาวหน่อยแต่ต้องเตรียมตัวนะครับ

สืบเนื่องจากการปิดตัว ของ หนังสือพิมพ์ บ้านเมือง

คุณประสิทธิ์ องอาจตระกูล ให้ความเห็นว่า .....

โลกดิจิตอล "น่ากลัว" กว่าที่คิด !!!

เปรียบเหมือน "คลื่นยักษ์" ที่ทำลายล้างทุกอย่างที่ขวางหน้า

หลังจากที่คลื่นลูกนี้ Disrupt (ทำลายล้าง) ธุรกิจฟิล์มถ่ายรูปแล้ว ต่อมาก็ทำลายล้างธุรกิจเทปซีดี ตอนนี้กำลังทำลายล้างธุรกิจทีวีและธุรกิจสิ่งพิมพ์

(ปัจจุบัน คนแทบไม่ดูทีวี คนอ่านหนังสือน้อยลงมาก หันไปเล่น Smartphone กันหมด)

ต่อไปคลื่นลูกนี้กำลังมุ่งสู่ธุรกิจการเงิน สาขาของธนาคารหลายแห่งจะปิดตัว หรือควบรวมกิจการ

ห้างสรรพสินค้าจะกลายเป็นเหมือนโชว์รูม คือ คนไปเดินดูสินค้า แต่ไม่ซื้อ กลับมาซื้อผ่านออนไลน์ที่ถูกกว่า 20-30%

และมีธุรกิจอีกมากมายที่ "รอคิว" ที่จะถูกทำลายล้างอยู่

ภายในอีกไม่กี่ปี ตำแหน่งงานในสหรัฐ จะหายไปหลายล้านตำแหน่ง

ถามว่า "ตัวเราล่ะ" เตรียมพร้อมที่จะรับคลื่นลูกนี้หรือยัง?

เตรียมพร้อมเพื่อรับแรงกระแทกจากคลื่นดิจิตอล คลื่นยักษ์ที่จะทำลายล้างทุกสิ่ง

ยกเว้น "คนที่พัฒนาและปรับตัว" อยู่เสมอ

ดูบทความนี้ประกอบครับ 💜โลกเปลี่ยน...คนเป็นครูต้องตีลังกากลับหัวคิดสอนแบบเดิมไม่ได้แล้ว!!!

💜ตรงกับบทความในหนังสือ

“This is a กู” ว่า...

โลกกำลังเปลี่ยน ธุรกิจกำลังเปลี่ยน

หลายอย่างตอนนี้ มันตีลังกากลับหัวหมด

กลับหัวจนคนไทยงง และตามไม่ทัน

💜เมื่อก่อนธุรกิจที่มั่นคง น่าเชื่อถือ

ต้องมีโรงงาน มีสำนักงาน มีบุคคลากรเยอะๆ

แต่สมัยนี้ ยิ่งน้อยยิ่งดี

แต่น้อยอย่างมีประสิทธิภาพ

คนน้อย กำไรเยอะ ค่าตอบแทนสูง

มันกลับหัวไปหมดจากอดีต

💜Apple ไม่เคยมีโรงงานผลิตของตัวเอง

แต่ครองตลาดอันดับ 1 ของโลก เพราะจ้างผลิตล้วนๆ กำไรเพิ่มขึ้นทุกปี มาร์จิ้นสูงมาก ผลประกอบการดี๊ดี

💜Facebook , Google มีรายได้มหาศาลจากโฆษณา โดยไม่มีพนักงานขายโฆษณาเลยสักคน เพราะใช้พาร์ทเนอร์ และให้ลูกค้าทำเองได้ กำไรเพิ่มขึ้นทุกปี มาร์จิ้นสูงมาก ผลประกอบการดี๊ดี

💜วันนี้ไม่เพียงแต่ตัวอย่างข้างต้น

แต่เราจะเห็นโมเดลธุรกิจแบบนี้เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เฮ่ย ! นี่เรื่องจริง ไม่ได้ล้อเล่น

ไม่เชื่อคุณดูข้อมูลต่อไปนี้

💜Uber เป็นบริษัทแท็กซี่ที่ใหญ่ที่สุดในโลก

แต่ไม่มีรถของตัวเองสักคน

💜Alibaba เป็นแหล่งค้าปลีกออนไลน์

ที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลก แต่ไม่เคยมีสินค้าและสตอกสินค้าเลยสักชิ้น

💜และล่าสุด Airbnb ผู้จัดหาห้องพักใหญ่ที่สุดในโลก

แต่ไม่มีห้องพักของตัวเองเลยแม้แต่ห้องเดียว

💜นี่คือเรื่องจริงที่เกิดขึ้น

นี่คือการเปลี่ยนแปลงของโลกธุรกิจ

โลกกำลังเปลี่ยน ธุรกิจกำลังเปลี่ยน

หลายอย่าง มันตีลังกากลับหัวหมด

คุณตามการเปลี่ยนแปลงทันนะครับ...

💜"ร้านค้าอยู่บนอากาศ

สาขาคือมนุษย์ทุกๆคน"

💜ชีวิตในอนาคต

💜โลกนี้จะเปลี่ยนไปอย่างไร?

ชีวิตเราจะเป็นอย่างไร?

💜ในปี 1998 บริษัทโกดักมีพนักงาน 170,000 คนและมียอดขาย 85% ของกระดาษภาพถ่ายทั่วโลก แต่ภายในเวลาเพียงไม่กี่ปีรูปแบบธุรกิจของพวกเขาหายไปและต้องประสบกับภาวะล้มละลาย

💜สิ่งที่เกิดขึ้นกับบริษัทโกดักจะเกิดขึ้นอีกกับอีกหลายอุตสาหกรรมใน 10 ปีข้างหน้า และคนส่วนใหญ่จะยังมองไม่เห็น

จะมีใครในปี 1998 ที่คาดคิดบ้างว่าอีก 3 ปีต่อมาคุณจะไม่ถ่ายภาพบนแผ่นฟิล์มกระดาษอีกต่อไป กล้องดิจิตอลอันแรกที่ถูกคิดค้นขึ้นในปี 1975 มีความละเอียดเพียง 10,000 พิกเซล

💜ตามกฎของมัวร์ เทคโนโลยีส่วนใหญ่ที่สร้างความผิดหวังในตอนแรกและใช้เวลานานก่อนที่มันจะกลายเป็นความสำเร็จและเป็นวิธีที่ดีกว่าในเวลาอันรวดเร็ว

💜มันจะเกิดขึ้นเช่นเดียวกันกับปัญญาประดิษฐ์(หุ่นยนต์), สุขภาพ, รถยนต์ไฟฟ้า, ที่ขับเคลื่อนอัตโนมัติ,การศึกษา, เครื่องพิมพ์ 3 มิติการเกษตรและการจ้างงาน

💜ขอต้อนรับเข้าสู่การปฏิวัติอุตสาหกรรมยุคที่ 4 และต้อนรับสู่ยุคทวีคูณ

💜(1) ซอฟแวร์จะส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมแบบดั้งเดิมมากที่สุดใน อีก 5-10 ปีข้างหน้า Uber เป็นเพียงซอฟต์แวร์ที่ไม่ได้เป็นเจ้าของรถยนต์ใด ๆ แต่จะกลายเป็นบริษัท รถแท็กซี่ที่ใหญ่ที่สุดในโลก Airbnb จะเป็นบริษัท โรงแรมที่ใหญ่ที่สุดในโลกที่ไม่ได้เป็นเจ้าของที่ดินใด ๆเลยคอมพิวเตอร์และปัญญาประดิษฐ์(หุ่นยนต์)จะฉลาดขึ้นเป็นทวีคูณและมีความเข้าใจโลกดีกว่ามนุษย์ ในปีนี้คอมพิวเตอร์สามารถเอาชนะมนุษย์ในการเล่นเกมหมากรุกโกะ ซึ่งเร็วกว่าที่คาดคิดไว้ถึง10 ปี

💜(2) ในสหรัฐอเมริกา, ทนายความที่จบใหม่เริ่มตกงาน เพราะคอมพิวเตอร์ IBM Watson, สามารถให้คำแนะนำด้านกฎหมาย พื้นฐานได้ภายในเวลาเพียงไม่กี่วินาทีและมีความแม่นยำถึง 90% เมื่อเทียบกับมนุษย์ที่มีความแม่นยำเพียง 70% ดังนั้นถ้าคุณกำลังเรียนกฎหมายอยู่ก็เลิกได้เลย เพราะในอนาคต อาชีพทนายจะหายไปกว่า 90% เหลือแต่ผู้เชี่ยวชาญด้านกฏหมายเฉพาะด้านเท่านั้น

💜(3) ปัจจุบันคอมพิวเตอร์วัตสันได้เข้ามามีส่วนช่วยพยาบาลในการวินิจฉัยโรคมะเร็งได้เร็วและแม่นยำกว่ามนุษย์ถึง 4 เท่า

💜(4) Facebook ขณะนี้มีซอฟแวร์ในการจดจำรูปแบบใบหน้ามนุษย์ที่เหนือกว่าคน ในปี 2030 คอมพิวเตอร์จะเริ่มฉลาดกว่ามนุษย์

💜(5) รถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติคันแรกจะเผยโฉมต่อสาธารณชนในปี 2018

ประมาณปี 2020 อุตสาหกรรมรถยนต์จะล่มสลาย ไม่มีความจำเป็นที่คุณจะต้องมีรถยนต์เป็นส่วนตัวอีกต่อไป เพราะเพียงแค่คุณโทรศัทพ์เรียก รถแท๊กซี่ก็จะมารับคุณในตำแหน่งที่คุณเรียกและส่งคุณไปยังจุดหมายปลายทาง โดยคุณไม่จำเป็นต้องจ่ายค่าที่จอดรถแต่จ่ายเฉพาะค่ามิเตอร์และยังสามารถทำงานไปด้วยในขณะเดินทางอีก ลูกๆของเราก็ไม่จำเป็นต้องสอบใบขับขี่หรือซื้อรถยนต์

💜(5) ตัวเมืองก็จะเปลี่ยนแปลงไปเพราะรถยนต์จะหายไปจากท้องถนนถึง 90-95% เราสามารถเปลี่ยนพื้นที่จอดรถให้กลายเป็นสวนสาธารณะได้

อุบัติเหตุทางรถยนต์ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตทั่วโลกปีละ 1.2 ล้านคนก็จะลดลง

รถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติจะช่วยลดอุบัติเหตุทางจราจรจากหนี่งรายต่อทุก 100,000 กม.เหลือเพียงหนึ่งรายต่อทุก 10 ล้านกม. ซึ่งจะช่วยลดการสูญเสียชีวิตมนุษย์ได้ปีละนับล้านคน

💜(6) บริษัทรถยนต์ส่วนใหญ่จะประสบกับการล้มละลาย บริษัท รถยนต์ที่อนุรักษ์นิยมจะเพียงแค่พยายามพัฒนารถยนต์ของตนให้ดีขึ้นในขณะที่ บริษัท TECH (Tesla, Apple, Google) จะปฏิวัติการสร้างรถยนต์โดยใส่คอมพิวเตอร์ลงในล้อรถยนต์ ผมคุยกับวิศวกรจากโฟล์คสวาเกนและออดี้; พวกเขากลัวคู่แข่งอย่างเทสลามาก

💜(7) บริษัท ประกันภัยจะเกิดปัญหาใหญ่เพราะเมื่อไม่มีอุบัติเหตุ, เบี้ยประกันก็จะถูกลง 100 เท่า รูปแบบธุรกิจประกันภัยรถยนต์จะหายไป

💜(8) อสังหาริมทรัพย์จะมีการเปลี่ยนแปลง เพราะถ้าคุณสามารถทำงานได้ระหว่างการเดินทาง คนก็จะย้ายออกไปอาศัยอยู่ในพื้นที่รอบนอกที่มีทัศนียภาพสวยงามกว่ามากขึ้น

💜(9) รถยนต์ไฟฟ้าจะกลายเป็นรถยนต์กระแสหลักภายในปี 2020 เมืองก็จะมีเสียงดังหนวกหูลดลงเพราะรถทุกคันจะเป็นรถไฟฟ้า

💜(10) ราคาค่าไฟฟ้าก็จะถูกลงและเป็นพลังงานสะอาดอย่างเหลือเชื่อ: การผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ได้เพิ่มขึ้นเป็นอย่างมากใน 30 ปีที่ผ่านมา แต่คุณเพิ่งจะเห็นผลกระทบของมัน ปีที่แล้วมีการติดตั้งโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ทั่วโลกมากกว่าโรงไฟฟ้าถ่านหินฟอสซิล ราคาค่าไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์จะถูกลงอย่างมากจนทำให้บริษัทเหมืองแร่ถ่านหินต้องปิดตัวลงในปี 2025

💜(11) ราคาค่าไฟฟ้าที่ถูกลงจะทำให้มีน้ำราคาถูกและเหลือเฟือจากการเปลี่ยนน้ำทะเลให้กลายเป็นน้ำจืดโดยการใช้กระแสไฟฟ้าเพียง 2kWh ต่อการผลิตน้ำจืดหนึ่งลูกบาศก์เมตร เราจะไม่ขาดแคลนน้ำในสถานที่ส่วนใหญ่อีกต่อไป เพียงแต่อาจขาดแคลนน้ำดื่มเท่านั้น ลองจินตนาการถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นถ้าทุกคนสามารถมีน้ำสะอาดให้ใช้ได้เท่าที่เขาต้องการโดยเกือบจะไม่มีค่าใช้จ่ายเลย

💜(12) สุขภาพ: ร​​าคา Tricoder X จะมีการประกาศในปีนี้ จะมี บริษัทที่ผลิตเครื่องมือทางการแพทย์ที่ทำงานได้กับโทรศัพท์ของคุณ (ชื่อ "Tricorder" มาจากภาพยนตร์เรื่อง Star Trek) ซึ่งจะสแกนม่านตาของคุณ พร้อมทั้งตรวจตัวอย่างเลือดและลมหายใจของคุณแล้ววิเคราะห์ ข้อมูลทางชีวภาพ 54 ตัวที่จะบอกโรคได้เกือบทุกชนิดด้วยราคาที่แสนถูก ดังนั้นในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า มนุษย์ทุกคนบนโลกนี้ก็จะสามารถเข้าถึงการแพทย์ระดับโลกในราคาที่เกือบฟรี

💜(13) การพิมพ์ 3 มิติ: ราคาของเครื่องพิมพ์ 3 มิติที่ถูกที่สุดได้ลดลงจาก 18,000 $ มาเป็น400 $ ภายในเวลาเพียง 10 ปีและมีความเร็วขึ้นกว่าเดิม 100 เท่า บริษัทรองเท้าใหญ่ๆได้เริ่มต้นการผลิตรองเท้าด้วยเครื่องพิมพ์ 3 มิติ รวมถึงในสนามบินที่อยู่ห่างไกลก็เริ่มมีการผลิตชิ้นส่วนอะไหล่ของเครื่องบินโดยเครื่องพิมพ์ 3 มิติแล้ว สถานีอวกาศในขณะนี้ก็มีเครื่องพิมพ์ 3 มิติสำหรับผลิตชิ้นส่วนอะไหล่เอง เพื่อลดความจำเป็นในการเก็บอะไหล่จำนวนมาก ในปลายปีนี้ สมาร์ทโฟนใหม่จะมีความสามารถในการสแกน 3 มิติ ที่จะทำให้คุณสามารถสแกนเท้าของคุณและพิมพ์รองเท้า 3 มิติที่เหมาะสมกับเท้าของคุณไว้ใส่เองที่บ้าน ได้ ประเทศจีนในขณะนี้มีการสร้างอาคารสำนักงาน 6 ชั้นด้วยเครื่องพิมพ์ 3 มิติได้แล้ว ภายในปี 2027 10% ของผลิตภัณฑ์ทุกอย่างจะถูกผลิตโดยเครื่องพิมพ์ 3 มิติ

💜(14) โอกาสทางธุรกิจ: ถามตัวคุณเองก่อนว่า "ในอนาคตจะเกิดสิ่งนั้นขึ้นไหม" ถ้าคำตอบคือใช่ คุณจะมีวิธีทำให้มันเกิดขึ้นเร็วกว่านี้ไหม แต่ถ้ามันไม่สามารถจะใช้งานร่วมกับโทรศัพท์ของคุณ ก็จงลืมความคิดนั้นไปได้ เพราะความคิดใด ๆ ที่ออกแบบมาเพื่อความสำเร็จในศตวรรษที่ 20 จะล้มเหลวในศตวรรษที่ 21

💜(15) ตำเหน่งงาน: 70-80% ของตำเหน่งงานจะหายไปใน 20 ปีข้างหน้า จะมีงานใหม่เกิดขึ้นจำนวนมาก แต่มันก็อาจจะยังไม่เพียงพอในระยะเวลาที่สั้นเกินไป

💜(16) การเกษตร: ในอนาคตจะมีหุ่นยนต์ที่ใช้สำหรับการเกษตรราคาถูกเพียงตัวละ 100 $ เกษตรกรในโลกที่ 3 จะทำงานเป็นผู้จัดการแทนที่จะทำงานกลางแดดตลอดทั้งวัน การเกษตรแบบ Aeroponics จะใช้น้ำน้อยมาก

💜(17) เนื้อลูกวัวที่ผลิตในจานเพาะเลี้ยงเซลและเริ่มมีการขายในขณะนี้จะมีราคาถูกลงกว่าเนื้อลูกวัวจริงภายในปี 2018

ปัจจุบัน 30% ของพื้นที่ทางการเกษตรทั้งหมดใช้สำหรับการเลี้ยงปศุสัตว์ ในอนาคต พื้นที่เหล่านั้นจะไม่มีความจำเป็นอีกต่อไป

💜(18) โปรตีนจากแมลงจะมีการวางตลาดในเร็วๆ นี้ มันมีโปรตีนมากกว่าเนื้อสัตว์ และมันจะถูกติดฉลากว่าเป็น "แหล่งโปรตีนทางเลือก" (เนื่องจากคนส่วนใหญ่ยังคงรังเกียจการกินแมลงเป็นอาหาร)

💜(19) มีแอปที่เรียกว่า "moodies" ซึ่งสามารถบอกอารมณ์ของคุณได้ในปัจจุบัน แต่ภายในปี 2020 จะมีแอปพลิเคชันที่สามารถบอกการแสดงออกทางใบหน้าของคุณว่าคุณกำลังพูดโกหกอยู่ ลองนึกถึงภาพคนดีที่มายืนยันว่า อุปกรณ์ GT 200 ทำงานได้จริง แต่ขณะถูกถ่ายทอด แอปบอกว่าคนคนนี้กำลังตอแหลอยู่

💜(20) Bitcoin Onecoin Crypto-currency (เงินดิจิตอลที่ใช้ซื้อขายทางอินเตอร์เน็ต): จะกลายเป็นสกุลเงินกระแสหลักในปีนี้ และอาจจะกลายเป็นสกุลเงินสำรองด้วย

💜(21) อายุวัฒนะ: ปัจจุบันค่าเฉลี่ยของชีวิตมนุษย์เพิ่มขึ้น 3 เดือนต่อทุกปี

สี่ปีที่แล้วอายุเฉลี่ยของมนุษย์อยู่ที่ 79 ปี ปัจจุบันนี้เพิ่มเป็น 80 ปี ภายในปี 2036 เราทุกคนอาจมีชีวิตยืนยาวไปถึงมากกว่า 100 ปี

💜(22) การศึกษา: ปัจจุบันราคาสมาร์ทโฟนที่ถูกที่สุดอยู่ที่ 10 $ ในแอฟริกาและเอเชีย ภายในปี 2020 คนในโลก 70% จะมีสมาร์ทโฟนเป็นของตัวเอง ซึ่งหมายความว่าทุกคนจะสามารถเข้าถึงการศึกษาระดับโลกได้ เด็กทุกคนสามารถใช้ Khan Academy สำหรับเรียนรู้ทุกสิ่งที่เด็กในโรงเรียนของประเทศที่เจริญแล้วเรียนได้ ซอฟแวร์นี้ได้เปิดใช้แล้วในประเทศอินโดนีเซียและจะมีเป็นภาษาอาหรับ ภาษาสวาฮิลีและภาษาจีนในฤดูร้อนนี้ สำหรับApp ภาษาอังกฤษจะเปิดให้ใช้ฟรีเพื่อให้เด็กในประเทศแอฟริกาได้เรียนพูดภาษาอังกฤษได้อย่างคล่องเคล่วภายในเวลาเพียงครึ่งปี

💜ดังนั้น ผู้เตรียมตัวเผชิญหน้ากับอนาคตจึงจะอยู่รอดและได้ชัยชนะอันยิ่งใหญ่/

Credit LINE CR ตามชื่อ