วันศุกร์ที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2559

###หินปูนจากกรดยูริค ภัยที่มากับหน้าหนาว##

#โอย โอย โอย ใครปวดข้อปวดเข่า มาทางนี้จร้า

#หินปูนหรือกรดยูริกสะสม ถ้าท่านเคยมีประวัติกินสัตว์ปีกซึ่งเป็นสารอาหารที่มีเพียวลีนสูง  อย่างเช่น เป็ด ไก่ ห่าน สัตว์ปีกทุกชนิด เครื่องในสัตว์ ผักที่มีกลิ่นฉุน ยอดผัก รวมถึงผักยอดนิยม อย่างเช่นคะน้า กะหล่ำปลี บรีอคโคลี่ แตงกวาและข้าวกล้อง รู้ไหม ข้าวกล้องหรือน้ำข้าวกล้องงอก อันดับหนึ่งเลยนะ คนมักจะกินข้าวกล้องโดยหวังผลว่าจะได้วิตามิน แต่สิ่งที่เป็นภัย ของเสียที่มากับข้าวกล้องไม่มีใครบอก เขาจะบอกแต่ด้านดีว่าบำรุงสมอง มีสารกาบาอะไรอย่างนี้ แต่ข้อเสียของข้าวกล้องก็คือมีเพียวลีนสูง กินแล้วจะเกิดกรดยูริก ท่านก็จะปวดเข่า ปวดข้อ กินข้าวกล้องนานๆ สมองแจ่มใสก็จริง แต่ทำไมเดินไม่ได้ ไปไหนก็เดินกระย่องกระแย่ง ปวดเข่าปวดข้อ อากาศหนาวก็ปวด  โอย ?.. โอย?.โอย ?.แล้วจะเลิกดีไหม ไม่จำเป็นต้องเลิก จร้า
เรามาหาตัวที่จะมาแก้กันนะคะ ตัวที่จะไปลดยูริค ลดเพียวลีน แก้อาการเก๊าต์ แล้วหินปูนไปเกาะที่ไหนบ้าง หินปูนเกาะที่จอประสาทตา วันหนึ่งอยู่ดีๆเลือดไม่ไปเลี้ยงที่จอประสาทตา หมอก็จะบอกว่า จอประสาทตาเสื่อมโดยไม่ทราบสาเหตุมันมีสาเหตุแต่หมอไม่ทราบเท่านั้น คือมีหินปูนไปเกาะไง ถ้าเราล้างหินปูนทางตา เราก็จะไม่มีปัญหาตาเป้นต้อเป็นอะไร สายตาสั้น-สายตายาวยังพอให้อภัย แต่ตาเป็นต้อนี่ ไม่น่าให้อภัย อย่าเป็นกันนะ ตาเป็นต้อ ท่านต้องล้างหินปูน -หินปูนเกาะที่ขั้วปอด คราวนี้ก็เป็นหอบหืด ไอไม่เลิกอย่างนี้นะ-หินปูนไปเกาะที่เส้นเลือดฝอยหัวใจ อยู่ๆก็ทำให้หัวใจวายได้-หินปูนไปเกาะที่กระดูกสันหลังก็กลายเป็นกระดูกงอกกดทับเส้นประสาท จริงๆเราล้างหินปูน อย่าให้มันไปเกาะก็สิ้นเรื่อง ยาลดกรดยูริกไม่มีนะคะ

## สารเพียวลีนเมื่อเจอกับความเครียดในร่างกายจะเปลี่ยนเป็นกรดยูริกลอยเท้งเต้งอยู่ในกระแสเลือด สะสมนานเข้าก็ตกตะกอนกลายเป็นหินปูน หินปูนก็จะไปเกาะตามอวัยวะต่างๆ เช่นเกาะในหู เกาะจอประสาทตาเป็นต้อหิน ทั้งผ่าทั้งขูดทั้งลอกเท่าไหร่ ถ้าไม่แก้ที่ต้นเหตุก็จะงอกอีก หรือไปเกาะตามข้อกระดุก ทำให้คนเรามีอาการปวดรุ่นแรง ปวดข้อปวดเข่า ปวดกระดุก จนกลายเป็นโรคเก๊าตื  รูมาตอยดื และที่ร้ายกว่านั้น  หินปูนอาจจะไปเกาะตามอวัยวะสำคัญเช่นปอด  ตับ ไต หัวใจ โดยเฉพาะหลอดเลือดหัวใจ ถ้าแก้ไขไม่ทันอันตรายถึงชีวิต แล้วเราจะทำอย่างไรล่ะ มี สองสูตร 
&&สูตร ที่ 1สูตรน้ำลูกเดือย ขอแนะนำว่าให้ใช้ลูกเดือยต้มน้ำเป็นเครื่องดื่มน้ำลูกเดือยดื่มเป็นประจำจะช่วยลดหินปูน วิธีทำ ลูกเดือย 1 กำมือ ต้มกับน้ำ 1 ลิตร ให้เป็นเหมือนน้ำข้าว ดื่มอุ่นๆได้ทั้งวัน พอน้ำงวดก็เติมน้ำร้อนใหม่ ดื่มได้อีก เติมอีกดื่มอีก จนกว่าจะจางใส ดื่มติดต่อกัน 7-15 วัน

󾁂󾁂(กากลูกเดือยทิ้งไปไม่ต้องกิน เพราะถ้ากินแล้วมันจะไปดึงตัวยากลับมาการรักษาจะไม่ได้ผล) 󾁂󾁂

***ถ้าเติมถั่วขาวลงไปด้วยจะบำรุงปอด บำรุงไต และเพิ่มสรรพคุณในการล้างหินปูนได้แรงขึ้นเร็วขึ้น (อัตราส่วน ลูกเดือย 2 ส่วน ถั่วขาว 1 ส่วน)

󾁂󾁂น้ำลูกเดือย ถ้าดื่มก่อนนอนวันละ 2 แก้ว จะไปช่วยบำรุงตับทำให้หลับสบาย ด้วยนะจ๊ะ󾁂󾁂

&-สูตรที่ 2 ใบรางจืด 7 ใบ ใบเตย 7 ใบ ต้มกับน้ำ 3 แก้วต้มแล้วให้น้ำเหลือ 2 แก้ว ให้ดื่มช่วงท้องว่างจะช่วยในการดูดซึมได้ดีกว่า ดื่มต่อเนื่อง 8-10 วัน (ต้องต้มใหม่ทุกวัน) จึงจะได้ผล คือต้มดื่มวันต่อวัน พอวันรุ่งขึ้น ต้มใหม่

󾁃󾁃สูตรรางจืดใบเตย เมื่อใส่ใบเตยแล้วไม่ต้องกลัวว่า มันจะไปล้างอะไร มันจะล้างแค่หินปูนเท่านั้น 󾁃󾁃

### สูตรต่างๆทั้งหลายเหล่านี้ เมื่อกินได้ระยะหนึ่งจนหายดีแล้ว ให้เลิกกินบ้าง ไม่ใช่ว่าชอบกินอะไรก็จะกินแต่สิ่งเหล่านั้นเรื่อยไป

Cr. อาจารย์สุทธิวัสส์ คำภา

ที่มา&& น้ำลูกเดือย สูตรเด็ดฉบับสีเขียว และสิ่งที่หมอเรียกว่าโรค เล่ม 1 สำนักพิมพ์พลังเลข๑ไทย

&& สูตรน้ำใบรางจืดใบเตย จากหนังสือชีวิตนี้อยู่ได้ 150 ปี ตามวิถีภูมิปัญญาไทย

และ หนังสือนาฬิกาชีวิต ที่เรียบเรียงโดยอาจารย์นวลฉวี ทรรพนันท์

ขอกราบขอบพระคุณอาจารย์เป็นอย่างสูงที่มอบความรู้ให้ มาดูแลสุขภาพตัวเองและคนรอบข้าง ได้หายป่วยจากโรคเก๊าท์มามากมาย และที่สำคัญคือ คุณพ่อและคุณแม่ของ ดิฉัน หายป่วยจากโรคนี้ ทั้งที่ ทนทุกข์ทรมานจากความเจ็บปวดจากโรคเก๊าท์มาเป็นเวลาหลายปี มาหายขาดด้วยสูตรน้ำว่านใบรางจืด ส่วนคุณแม่หายขาดด้วยน้ำลูกเดือย

บางคน มีค่ายูริกสูง จะตรวจพบค่าของไต สูงไปด้วย ทั้งๆที่ไม่ได้กินเค็ม เป็นเพราะมีหินปูนไปเกาะที่เนื้อเยื่อไต นั่นเอง
โดยปกติเนื้อเยื่อของไตจะมีลักษณะอ่อนนุ่ม ผิวเป็นรูพรุน เหมือนฟองน้ำ แต่เมื่อหินปูนไปเกาะ ทำให้ไตแปรสภาพคล้ายของแข็ง เหมือนมีปูนปลาสเตอร์ไปโบก ไม่สามารถทำหน้าที่ได้ตามปกติ หมอก็จะจับฟอกไต แค่เราล้างหินปูน ออก ด้วยสูตรน้ำลูกเดือย กับสูตรน้ำรางจืดใบเตย. ก็จะได้ไม่ต้องไปฟอกไต ให้เปลืองตัวเปลืองตังค์ แถมเสียเวลาทำงาน เวลาคนเราเจ็บป่วย มันชวนหงุดหงิดในหัวใจ นะเออ ดูแลสุขภาพก่อนป่วย เป็นสิ่งสำคัญ ดีกว่าป่วยแล้วมารักษา...รักนะ ..จุ๊ปๆ ,,,

แบ่งปันโดยจิตอาสาเพื่อสุขภาพที่ดีของคนไทย
นปภาธรรมชาติบำบัด ลำพูน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น