ภาษาทั่วๆส่วนมากในโลกล้วนคิดประดิษฐ์เอาลายเส้นเรียกว่าตัวอักษร และ เอาลายเส้นอีกพวกแทนโทนเสียง ที่เรียกว่า สละ แล้วเอาลายเส้นที่ว่าผสมกันเปลี่ยน ตำแหน่งกันไปมา โดยเอาพื้นฐานที่คุณ Nti ว่าเป็นเกณฑ์พื้นฐานทั้งการออกเสียง และความหมาย (สมัยก่อนไม่มีการเขียนมีแต่วาด)ใช้สื่อสารด้วย เสียง ท่าทางและภาพวาด ) ผสมกันไปผสมกันมา เป็นหลักภาษาและคำศัพท์ ให้ลูกหลายชมชนนั่นๆใช้สื่อสารกัน เช่น ภาษาอาราบิก ที่ประเทศอิสลามใช้กัน ภาษาอินเดีย พม่า ไทย อังกฤษฯลฯ ล้วนประดิษฐ์อักษรและสละจากลายเส้น แต่ใช้ลายเส้นที่ไม่เหมือนกันเท่านั้น แต่ ก็มีอีกพวกนึงที่คิดการสื่อสารโดยการใช้การเขียน ภาษาที่แตกต่างออกไป คือ ภาษาที่ไม่ได้เกิดจาก ลายเส้น แต่เกิดจากภาพที่เห็นแล้ววาดให้เหมือนเอามาแทนเป็นความหมายเลย เราเรียกว่า ""ภาษาภาพ""ครับ เช่น ภาษาจีน ญี่ปุ่น เกาหลี ....แบบนี้จำกันเป็นตัวๆไปเลย เช่น ^ รูปนี้เหมือนหลังคาบ้าน เราจะเห็นรูปนี้ อยู่ ในอักษรจีนที่แปลว่าบ้านอยู่ด้วย ภาษาจีนสมัยก่อน ไม่เป็นเหลี่ยมสวยเป็นระเบียบแบบนี้ มันจะเป็นเหมือนภาพวาดมากกว่า โค้งมนอ่อนช้อย แต่เดี๋ยวนี้ ดัดแปลงให้ดูเรียบร้อยเป็นทางการขึ้นเพราะต้องใช้กัยบรรทัดบนสมุดบ้าง ใช้ในคอมบ้าง จะอิสละเหมือนแต่ก่อนไม่ได้..pjmong..
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น