ิ มีสมาชิกหลายท่านทุกกลุ่มเลยที่ขอให้ผมโพสเรื่องเต้นรำบ้าง เพราะกิจกรรมนี้กับกิจกรรมรัองเพลงเนียะมันเป็นของคู่กันเหมือนกาแฟกับคอฟฟี่เมทเลย เดี๋ยวนี้คนไทยร้องเพลงเก่งกันเยอะพอคิวยาวนั่งรอก็เบื่อส่วนมากเริ่มหัดเริ่มเรียนเต้นรำดีกว่าออกกำลังกายไปด้วยระหว่างรอไม่ต้องเก่งเหมือนฟลอร์ใหญ่แต่เอาแค่ไปวัดไปวาได้ ได้เหงื่อ แต่น้อยคนที่โชคดีที่มีคนเต้นด้วย โดยเฉาะท่านสุภาพบุรุษที่หายากมากๆในเมืองไทย ผมไม่หาสาเหตุดีกว่า รู้ไปก็แก้ไขอะไรไม่ได้ แต่ที่แน่ๆชาวต่างชาติเขาหาผู้ชายเต้นรำง่ายกว่าชายไทย เยอะ ผมอยากให้เปลี่ยนทัศนคติกันใหม่ดีไหมครับ...?? แทนที่จะคิดว่ากิจกรรมลีลาศเนียะ มันดูดุ๊กดิ๊ก มันไม่ man เอาเสียเลย ผมอยากจะให้เข้าใจกันนะครับว่า การลีลาศเนียะผู้ชายต้องเต้นแบบแมนๆครับ ไม่ต้องดิ้นมาก เพราะหน้าที่ของผู้ชายมีสองอย่างคือ นำผู้หญิงให้ใช้ฟิกเกอร์(ลวดลาย)ตามที่ต้องการ และเป็นหลักให้ผู้หญิงส่วนผู้หญิงก็ต้องแสดงความอ่อนช้อยสวยงาม สรุป.... ผู้ชายต้องสง่า ผู้หญิงต้องสวยครับ ถ้าคู่ใครที่ผู้ชายเต้นแล้วดิ้นไปดิ้นมา แข่งกับผู้หญิงเขาเรียกขโมยซีนครับ แบบนี้โดนตัดคะแนน อีกอย่างนึงคือ ไม่อยากให้ผู้ชายคิดว่าการลีลาศเป็นเรื่องสนุก ไร้สาระ แมนๆอย่างเรามาเต้นรำแล้วเดี๋ยวดูไม่ดี ผมเนียะเป็นตัวอย่างของผู้ชายที่ควรจะต่อต้านการเต้นรำมากที่สุดเลย เพราะโดยอาชีพที่ทำนี้เป็นกลุ่มอาชิพที่ควรอยู่ฝ่ายตรงข้ามกับการเต้นรำมากที่สุดอาชีพนึงเลยครับ ก็คือ ทั้งการเป็นทหารที่ต้องแมนๆ จะเดินจะเหิรต้องนิ่ง แมนเข้าไว้ ออกจะหยิ่งๆเล็กน้อยเพราะอยู่ในเครื่องแบบ อีกอาชีพนึงคือ พวกช่างครับ สองอาชีพนี้รวมอยู่ในตัวคนๆเดียวคนอย่างผม ผมไม่ควรจะเต้นรำเลย แต่ผมใช้เหตุผลที่จะเรียนมันครับ ผมคิดว่าจะใช้มันเป็นยาป้องกันโรคครับ (เน้นว่าป้องกันนะครับไม่ได้รักษา คือไม่ให้เป็นโรคง่ายๆครับ) ใช้ออกกำลังกาย เอาไว้ใช้ตอนเล่นกีฬาอื่นไม่ไหวแล้ว ตอนเรียนผมคิดแบบนั้นจริงๆ แต่ความจริงผมกลับต้องใช้มันเข้าสังคมมาเป็นสิบๆปีแล้ว ผมใช้มันควบคู่กับการเล่นกีฬาอื่นมาตลอด ตั้งแต่ วิ่งมาราธอนเป็นตัวแทนกีฬาสี่เหล่าทัพ ตั้งหลายสิบปีก่อน ต่อมาก็เป็นตัวแทนเทนนีสของกรมใน ทอ.กับ มหาลัยที่เรียนวิศวะอยู่.. ต่อมาก็แข่งแบตฯ และสุดท้ายตอนนี้ก็ กอร์ฟ แต่เต้นรำที่ว่าจะเก็บไว้ใช้ตอนแก่ก็ถูกเอามาใช้คู่ตัวผมมาตลอด ตั้งแต่เริ่มเต้นเป็นนะครับ ใช้มันออกกำลังกายและออกสังคมได้ดีมาก เคยทดลองหาเงินจากการสอนโดยไม่รบกวนเวลาทำงานปรกติได้ถึงเดือนละสามแสน ผมลองทำดูได้ไม่กี่เดือนกลัวจะเบื่อมันเลยเลิกสอนเอาเงิน เพราะใครๆก็พูดว่า อะไรที่เรารักถ้าทำเป็นอาชีพมันจะเหมือนถูกยังคับแล้วจะเบื่อ ซึ่งมันก็มีแนวโน้มว่าจริง เลยกลายเป็นสอนฟรี เพราะคำว่าเต้นกินรำกินคำเดียวจริงๆเลยต้องเลิิกหาเงินจากมัน เคยวิ่งช่วยขายที่ให้พี่ชายตอนนั้นเศรษกิจตก ลูกศิษย์คนนึงท่าน(ต้องเรัยกท่านเพราะเป็นผู้ใหญ่จริงๆ ระดับประเทศเลยละ)รวยมากและเป็นคนดีมากด้วย (ตอนนี้เป็นทั้งเจ้าของสนามกอร์ฟระดับห้าดาวและเจ้าของ บ.เพชรติดอันดับเมืองไทยบริษัทหนึ่ง )ได้คุยกับผมว่า "..ได้ข่าวว่าพี่ชายครูหม่องกำลังเดือดร้อนจะโดนยึดที่ กำลังบอกขายด่วน ทำไมไม่บอกกันเลย นี่ต้องได้ยินจากคนอื่นมานะเนียะ เจอกับครูทุกวันแต่ต้องไปรู้จากคนอื่น..." ที่ราคาสิบล้าน เมื่อปี 39 พอรู้ข่าวก็ส่งลูกน้องมาซื้อโดยที่ตัวเองไม่เคยมาดูที่เลย ทุกวันนี้ท่านนั้นยังไม่รู้เลยว่าที่อยู่ที่ไหน ดูประโยชน์ทางอ้อมมันซิครับ ว่าขนาดไหน มันเกินความคาดหมายจริงๆ ใครเดือดร้อนเรื่องเงินๆทองๆ เก่งเต้นรำรับรองไม่อดตายครับ ส่วนผมทำไม่ได้เพราะกลัวจะเบื่อมันที่ทำเป็นอาชีพ จากแค่ต้องการหัดไว้ออกกำลังเฉยๆนะครับ เลยอยากเชิญชวนให้ผู้ชายไทยทั้งหลายเลิกปิดกั้นตัวเองเถอะครับ.... ออกมาเรียนลีลาศที่เป็นการออกกำลังกายที่สมวัยที่สุดสำหรับคนอายุเกินสี่สิบ ครับ อย่าบอกว่าตีกอร์ฟก็ออกกำลังนะครับเพราะผมเป็นนักกอร์ฟมาหลายปี แข่งมาหลายรายการ รับถ้วยมาก็เยอะ เนื่องจากเป็นนักกีฬามาตลอดจึงรู้ว่า เมื่อยกับเหนื่อยมันต่างกัน ยังคิดไม่ออกเลยว่าการตีกอร์ฟมันออกกำลังตรงไหน..?? มันแค่เมื่อย(เมื่อยจริงๆครับ ถ้าไม่ใช้รถก็เดินรอบละ 13 กิโลครับ 18 หลุม ประมาณนั้นครับ) แต่ไม่เหนื่อย ออกกำลังต้องเหนื่อยได้เหงื่อครับ โพสนี้ผมเขียนเชิญชวนให้พี่ๆผู้ชายหันมาออกกำลังด้วยการลีลาศกันเถอะครับ เจอผมที่ไหนผมยินดีสอนให้ฟรีเลยขอให้บอกเถอะครับ ผู้ชายหนึ่งท่านสามารถช่วยให้ฝ่ายหญิงออกกำลังได้ถึงห้าคนเชียวนะครับ อยากสอนให้แต่จะให้เสนอตัวคงไม่กล้าครับเดี๋ยวหน้าแตก นี่ผมลงโพสก่อนเริ่มลงเรื่องเต้นรำเป็นวิชาการ เป็นการขอให้สมาชิกที่เป็นผู้ชายเปลี่ยนทัศนคติ หันมาเก็บเรื่องนี้ไวัเป็นความสามารถพิเศษไว้ในตัวอีกสักอย่างเถอะครับ ไปไหนทั่วประเทศไม่มีเหงา หาเพื่อนได้ทุกที่ทั่วโลก เพราะมันเป็นมาตรฐานสากลไม่ต้องใช้ภาษาก็ร่วมกิจกรรมกันได้ครับ ...pjmong....
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น