3 พัตนา เรื่องคู่กาย..ไปจนถึงวันนั้น....
อยากคุยเรื่องนี้มานานแล้ว วันนี้ตื่นเช้า นั่งทานกาแฟไป ก็นั่งพิมพ์ไป ระบายออกไปบ้าง ....
ในชีวิตคนเรา มี 3 ช่วง คือ วัยเรียน วัยทำงาน และวัยพักผ่อน แต่เชื่อเหอะ..ทั้งสามวัย ต้องมีอย่างน้อยพัตนาการ 3 อย่าง ถ้าใครพัตนา 3 อย่างนี้ไปได้พร้อมๆกัน รับรองว่าชีวิตจะประสบความสำเร็จ มีความสุข บนร่างกายที่แข็งแรงและสุขภาพจิตที่เยี่ยมยอดเลยละครับ
พัตนา 3 อย่างที่ว่านี้คือ.....
1. พัตนาทางวิชาการ ที่ต้องใช้ ทำมาหากิน สร้างความมั่นคง หมายถึงวิชาการต่างๆที่เราใช้ทำมาหากิน เราต้องเรียนรู้ เพิ่มทักษะให้มากขึ้นทุกวัน รายได้ก็จะมากขึ้น จะรวยขึ้นมั่นคงขึ้น อยากกินได้กิน อยากเที่ยวได้เที่ยว อยากซื้อได้ซื้อ....เรื่องนี้สำคัญที่สุดใน 3 อย่าง และ คุยกะใครไม่ได้เพราะ วิชาชีพ หรือเรื่องที่ทำงานเอามาคุยกับเป็นอะไรคนอื่นที่ส่วนตัวคุยกับคนอื่นไม่ได้เสียด้วย แบบว่าตัวใครตัวมัน ต่างอาชีพกัน มักจะคุยไม่ค่อยรู้เรื่อง สังเกตุไหม..? เราทำกิจกที่ร่วมร้องเพลงเต้นรำด้วยกันมาหลายปี ไม่ค่อยคุยกันเรื่องงานสักเท่าไหร่ ว่าใครทำอะไรที่ไหน อยากรู้เป็นห่วงเหมือนกัน แต่เรื่องวิชาชีพ มันเป็นเรื่องของความชำนาญของแต่ละคนนะ เล่าให้ฟังก็มักจะไม่ค่อยจะรู้เรื่อง .รู้กันแค่คร่าวๆว่าใครทำอาชีพอะไร ที่เหลือก็ตัวใครตัวมัน....สำหรับการพัตนาทางวิชาการนี้ สมองซีกซ้ายของเรารับผิดชอบ ครับ สมองซีกซ้ายว่าด้วยเรื่องวิชาการ เหตุผล ฯลฯ
2. พัตนาสุขภาพจิต ว่าด้วยเรื่องอะไรที่ทำให้เรามีสุขภาพจิตที่ดี สดใส คิดบวก ไม่หดหู่ ตัวอย่างของเรื่องนี้ก็คือ การร้องรำทำเพลง งานศิปะที่ชอบ หรือการนั่งสมาธิ ก็รวมอยู่ในข้อนี้ เรื่องนี้ สมองซีกขวา ทำหน้าที่ครับ สมองซีกขวาว่าด้วยเรื่องศิลปะ แนวๆอย่างที่ชอบ ฯลฯ
เซลสมองทั้งสองซีกควรได้รับการพัตนา ได้ออกกำลังไปพร้อมๆกันครับ จะได้ฟูเท่าๆกัน เพื่อนผมคนนึง เป็นนักวิชาการตัวยง ใส่แว่นหนาเตอะ ตำแหน่งงานใหญ่โต แต่ร้องเพลงทีไรเพื่อนวิ่งหนี เล่นกีฬาไม่เป็น เต้นรำไม่เป็น ไปเอ็กเรย์สมอง สมองด้านซ้ายฟูเต็มกระโหลก ส่วนด้านขวา ห่างกระโหลกเป็นเซ็นเลย แสดงว่า แบวศิลปะไม่เอาเลย เห็นการใช้ชีวิตแบบไม่สมดุลย์ไหมครับ..??
3. พัตนาสุขภาพกาย อันนี้ว่าในเรื่อง physical คือร่างกายภายนอกที่สัมผ้สได้ ที่ต้องแข็งแรง ทนทานต่อการเจ็บใข้ได้ป่วย หมั่นออกกำลังกายสม่ำเสมอ พักผ่อนให้พอ ทานอาหารที่มีประโยชน์ หลีกเลี่ยงอาหารที่เป็นโทษ การทำงานมาก ออกกำลังมาก แต่พักผ่อนน้อย หรือ ทานอาหารที่ไม่มีประโยชน์ เดี๋ยวจะเหมือนโรคยอดนิยมสมัยก่อน คือ ไหลตายนะครับ คือหลับแล้วไม่ตื่นเลยเครื่องมันน็อคไปเองนะครับ
สองข้อหลัง เป็นกำลังสนับสนุนข้อ 1 ถ้าหนึ่งในสองหรือทั้งสอง ไม่แข็งแรง ก็มีผลถึงข้อหนึ่ง ถ้าข้อหนึ่งทำงานได้ดี ก็มีเงินมีทองมาสนับสนุนสองข้อหลัง คงปฎิเสธไม่ได้นะครับว่า ออกไปร้องเพลงเต้นรำต้องใช้เงิน ใช้เยอะเสียด้วยซิ ออกไปเล่นกีฬา ก็ต้องใช้เงิน เงินที่เราหาได้จากข้อ 1 ต้องเอามาจุนเจือกิจกรนมสองข้อหลัง หรือ ถ้าเครียดหรือป่วยไขัก็ออกไปทำมาหากินไม่ได้เหมือนกัน สามอย่างนี้มันพึ่งพากันและกันอยู่อย่างเหนี่ยวแน่น เราจึงต้องพากันไปพร้อมๆกันไงครับ....ถามตัวเองหรือยังครับว่าเราจะเลือกกิจกรรมอะไรที่จะให้เป็นเพื่อนคู่กายเราไปเพื่อการพัตนาแต่ละตัวทั้งสามตัวนี้ ....เลือกที่เหมาะกับเราให้มากที่สุด โดยดูจากปัจจัยของตัวเราแต่ละคน.....สำหรับผม จบวิศวะมา ข้อหนึ่งจึงหนีไม่พ้นเรื่องแนวๆนี้ งานหมู่บ้าน งานวิศกรรม งานบนเน็ต สามตัวนี่เปลืองสมองของจริงเลยครับ ข้อสองนี่เรื่องบำรุงสุขภาพจิต ก็ด้วยวัย ด้วยโอกาสและความชอบก็เหลือร้องกับเต้น ละครับ ส่วนเรื่องสุดท้ายกีฬาให้ร่างกายแข็งแรง ต้องเลือกกีฬาที่มีแรงกระแทกต่ำ บู๊เหมือนเมื่อก่อนไม่ได้แล้วต้องถนอมข้อต่อต่างๆไว้ใช้นานๆ ก็เหลือแค่ กอร์ฟกับเต้นรำ เชื่อไหมครับว่า..? ถ้าเราเล่นกีฬาสม่ำเสมอ มันจะมามีผลต่อความสามารถเรื่องเต้นรำด้วย คือถ้ากล้ามเนื้อแข็งแรง ข้อต่อต่างๆแข็งแรง เราจะเต้นรำได้สวยขึ้น คม กระชับขึ้น ควบคุมการเคลื่อนไหวได้ต่อเนื่งสวยงาม นึกภาพตัวเองดูนะครับ แต่งตัวสวย เต้นรำลื่นไหลสวยงาม...perfect...!!!
เห็นไหมครับ ?? ทำไมผมเชียร์ให้คนมาเต้นรำกันเยอะๆ เพราะมันเป็น 2 in 1 คือทำ 1 ได้ 2 ได้ทั้งสุขภาพจิตและร่างกายแข็งแรง เพราะออกกำลังกายเคล้าเสียงดนตรี บอกได้เลยว่าใครชอบเต้นรำนะมาถูกทางแล้ว สุขภาพจิตดีด้วยร่างกายแข็งแรงด้วย ของแถมคือมีโอกาสแต่งตัวสวยๆหล่อๆ อยู่ในสังคม ในขณะที่คนกิจกรรมอื่นต้องแต่งชุดกีฬาอยู่ในสนาม ไม่ได้ไปสังคมที่ไหน..ออกกำลังเสร็จต้องรีบกลับบ้าน ใครจะใส่ชุดกีฬาไปเที่ยวต่อที่ไหนได้ละครับ.?? ไม่เหมือนชุดเต้นรำนี่..!!..ขอแถมอีกสักข้อก่อนจาก..ไม่มีกีฬาชนิดไหนที่ให้คนสูงวัย หมุนบ่อยๆขนาดนี้ นี่เป็นข้อได้เปรียบอีกข้อหนึ่งของคนสูงวัยที่เต้นรำ ไม่มึนงงง่าย ไม่ล้มง่าย เพราะร่างกายชินกับการหมุนบ่อยๆอยู่แล้ว
ลองจัดตัวเองให้เข้าที่ .เลือกที่เหมาะ..แล้วจัดไป....จะได้มีความสุขกับตัวเองจนถึงวันนั้น....ขอให้มีความสุขกีบชีวิตดีๆนะครับ...pjmong...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น