วันอาทิตย์ที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

อยุธยาไม่เคยสิ่นคนดี

          ผมนึกถึง คำพูดที่เคยได้ยินบ่อยๆว่า ..""ไม่ต้องกลัวหรอก อยุธยาไม่เคยสิ้นคนดี...""หมายความว่า อะไรจะเกิดขึ้นในเมืองไทยจนล่มสลายขนาดไหน ก็จะมีคนดีมากอบกู้เสมอ ..ในที่ผ่านมาผมคุยกับเพื่อนมาเสมอว่า จริงอยู่อยุธยาไม่เคยสิ้นคนดี ประเทศเราเคยตกเป็นของคนอื่น(หมายถึงทั้งประเทศเลยนะ ไม่ใช่แค่ การเงิน การปกครองหรือเศรษกิจ เหมือนสมัยนี้) ถึงสองครั้ง แต่ละครั้งเรามีคนดีอย่างพระนเรศวรในครั้งแรก และ พระเจ้าตากฯในครั้งที่ 2 มากอบกู้
   แต่สิ่งที่ผมเห็นจริงมาตลอดก็คือ คนดีสองคนนั้นได้เกิดขึ้นหลังจาก  ประเทศเราล่มสลายกันไปแล้ว และก็เกิดจากความชั่วของคนอื่นก่อน หมายถึงมีคนชั่วมาทำให้ประเทศป่นปี้ไปก่อน เป็นลบไป แล้วคนดีของศรีอยุธยาถึงได้เกิดมาดึงให้กลับมาแค่เป็นศูนย์เหมือนเดิม  บ้านเราจะไม่มีโอกาสมีคนดี ในยามสงบ ทำจากสงบมาเป็นบวก เหมือนลีกวนยูทำให้สิงค์โปรเลยหรือครับ  ผมนั่งรอวีรบุรุษของคนไทยคนนั้นทุกวันว่าเมื่อไหร่จะเกิดสักที  คิดไปคงจะยากเพราะ ลีกวนยูพัตนาประเทศสิงค์โปรในยามสงบ ประเทศอยู่ในสภาวะที่พร้อมจะเดินหน้า การศึกษาของคน เศรษกิจ การเมือง การบังคับใช้กฏหมาย การเคารพกฎเกณฑ์ของบ้านเมือง ความหยิ่งและรักเกียติในการประกอบอาชีพของคนในชาติ ท่านลีกวนยูแค่เป็นคนมองการณ์ไกล ฉลาด ตั้งมั่น และที่สำคัญ เขาพร้อมเสียสละทำเพื่อประเทศของเขา คนในชาติของเขา อย่างจริงใจ
  แล้วทำไมประเทศเราถึงไม่เป็นแบบนั้น...??
    ก็เพราะ บ้านเราไม่เคยอยู่ในสภาวะพร้อมพัตนาเลยสักครั้ง เป็นลบมาตลอด ไม่เคยสงบให้ตั้งหลักเดินหน้าได้สักที ตอนนี้ยังไม่ต้องหวังรอวีรบุรุษมาพัตนามาทำให้บวกหรอกครับ แค่หาคนดีที่ว่ามาแก้ความเป็นลบ(ของทุกเรื่องที่มีอยู่)ก็ยากเต็มทีแล้ว ขนาดเอาทหารว่าแกร่งที่สุดแล้วที่จะบังคับอะไรก็ได้ ยังกุมขมับอยู่ทุกวันนี้
    ทำไมเมืองไทยจะมีคนดีเกิดขึ้นทั้งทีต้องมีคนชั่วทำลายให้พังก่อน เหมือนอดีตที่ผ่านมา เสียกรุงครั้งที่ 1 พม่ายกทัพมารบครั้งแรก ชนะไปแต่ไม่สำเร็จได้แค่ให้ไทยส่งบรรณาการ กับภาษี มาครั้งที่สอง รบกันจนพม่าจะยกกลับแล้วมาอยู่เป็นปี แต่ไทยเสียทั้งประเทศเพราะ พระยาจักรี เพียงคนเดียว ใช้เวลาทำลายชาติตัวเองแค่เดือนเดียว  พระนเรศวรเป็นผู้สู้กู้คืนมา แต่ต้องเสียพระสุพรรณกัญญา ไปอีกคนหนึ่ง
   เสียกรุงครั้งที่สอง  เกิดจากการแก่งแย่งชิงอำนาจกันเองในยามสงบของคนในชาติ(เหมือนสภาวะตอนนี้เลย) สู้กันเองจนหมดแรงหมดทรัพย์ พระมหากษัติย์ตอนนั้นก็อยู่ในยามสงบมานาน จึงขาดประสบการณ์ต่อสู้ ตอนนี้มีแต่ค้าขายเป็นหลัก เวลาตอนนั้นยามบ้านเรือนสงบกลับเอาเวลามาสนุกสนานกัน แทนที่จะพัตนาความรู้ความสามารถ ให้เจริญเป็นผู้นำ แต่คนในชาติมัวแต่ทะเลาะกันในยามสงบ เจ้าขุนมูลนายก็มัวแต่สนุกกันในรั้วในวัง พม่าบุกเข้ามาเลยไม่มีแรงต่อสู้ ดีนะที่ตอนนั้นจีนบุกพม่าตอนเหนือ ทำให้เมื่อได้ไทยแล้วพม่าต้องรับยกทัพกลับ ทำให้พระเจ้าตากมีโอกาสหนีออกมาได้ เกิดเป็นคนดีคนที่ 2
    แล้วตอนนี้การเอาคนอื่นเป็นเมืองขึ้นไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้ว เพราะเมื่อก่อนมาแบบตัวต่อตัว พม่ากับไทย ไทยกับลาว แต่ตอนนี้มากันเป็นพวก เป็นกลุ่ม(กลุ่มธนาคารที่มีหลายประเทศเป็นหุ้นส่วน กลุ่ม IMF) มาในรูปแบบของกฎหมายระหว่างประเทศ มาแบบเจ้าหนี้ กินแบบแยบยล ค่อยๆรุกแบบให้ประชาชนประเทศนั้นเป็นทาสเป็นหนี้แบบไม่ให้รู้ตัว สุดท้ายหลวมตัวไปก็โงหัวไม่ขึ้นแล้ว เป็นหนี้เขา เขายังไม่เอาแผ่นดิน ตีหมาอย่าให้จนตรอก ให้ที่อยู่ไปก่อนแต่ค่อยๆกินทรัพย์สิน กินทรัยยากรณ์ กว่าคนในชาติจะรู้ตัวก็ไม่เหลืออะไรแล้ว เหลือแต่ตัว กับแผ่นดินที่บ้านตั้งอยู่ก็เป็นหนี้สินเขา เหมือนอาฟริกาสมัยก่อน อังกฤษได้เป็นเมืองขึ้น ขนทรัพย์สมบัต้เพรชพลอยใต้ดินไปจนหมด ทุกวันนี้เหลือแต่ดินที่แห้งแล้ง
      ผมไม่โทษใครเลย ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะเิาเปรียบคนอื่น พร้อมที่จะเข้าแย่งชิงของคนอื่นเสมอ เพราะนั่นเป็นสัญชาติญานดิบ(basic instinct) ของสัตว์โลกทุกตัวอยู่แล้ว แต่ผมโทษคนในชาติเราเองที่ไม่เคยคิดจะหาภูมิคุ้มกัน หาความฉลาดมาปกป้องตัวเอง ตรงข้ามกลับจะออกไปรับมาช่วยกันยัดเยียด ช่วยกันสนับสนุนให้คนในชาติหลงไป ่ ใครให้อะไรมาเรารับหมด ค่านิยม การแต่งตัว อาหารการกิน การบันเทิง ฯลฯ
     โดยเฉพาะกลุ่มชนชั้นปกครองของเรา ทำโครงการอะไร ต้องมีวาระแอบแฝงตลอด ยังไม่เคยเห็นใครกล้าทำเพื่อส่วนรวมแบบ 100% สักที ไม่ทำเพื่อให้เป็นผลงาน ก็เพื่อเงิน เพื่อญาติ พวกพ้อง
    ตอนนี้เราสำหรับผมแล้ว ประเทศเรากำลังนับถอยหลังครับ..รอวันที่เราจะเห็นผลชัดแจ้ง แต่ที่แน่ตอนนี้เงินในกระเป๋าคนไทยเงินน้อยลง หากินยากขึ้น คนไทยทำงานน้อยลง คนต่างด้าวกำลังขนเงินที่เรามีอยู่น้อยนิด ออกนอกประเทศกันสนุก ปีละเป็นหมื่นๆล้าน...pjmong..

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น