วันพฤหัสบดีที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

ความลับของฟ้า

ความลับของฟ้า

ประชาชาติธุรกิจ
ธนา เธียรอัจฉริยะ


ความลับของฟ้า ..

เป็นคำที่พี่เล้ง ศิริวัฒน์  วงจารุกร  แห่ง mfec  ใช้บ่อยๆเวลาเล่าเรื่องปรัชญาโบราณและวิธีคิดในการดำเนินชีวิต   โดยหมายถึงว่าใครรู้และเข้าใจถึงความลับบางอย่าง  ก็จะกลายเป็นคนที่ประสบความสำเร็จหรือยิ่งใหญ่ในชีวิตได้  พี่เล้งเองก็เป็นคนที่ประสบความสำเร็จจากความลับนี้ในสายตาของผมและเป็นที่เคารพนับถือของคนที่ได้รู้จักพี่เล้งอย่างมาก

พี่เล้งอธิบายว่า  ในสังคมปกติจะมีคนอยู่สามกลุ่ม  กลุ่มแรกเรียกว่า ผู้ให้ (giver) กลุ่มที่สองเรียกว่าผู้เอา (taker) อีกกลุ่มคือ ผู้ที่ให้มาก็รับ  รับมาก็ให้ (matcher)   พี่เล้งบอกว่าถ้าไปลองวาดกราฟดู  คนที่ประสบความสำเร็จมากๆในสังคมกับคนที่ล้มเหลวมากๆในสังคมมักจะเป็นผู้ให้ (giver) ทั้งสิ้น

ที่ล้มเหลวเข้าใจได้ไม่ยาก  เพราะถ้าผู้ให้ (giver) ไปอยู่ในดงของคนเอาแต่ได้แล้ว ก็คงจะรอดออกมายาก  แต่ผู้ให้ที่อยู่ในฝั่งที่ประสบความสำเร็จนั้นเกิดขึ้นได้อย่างไร

พอฟังเรื่องนี้จบ  ผมเลยนึกถึงเรื่องสามเรื่องที่เพิ่งได้ยินมาไม่นานขึ้นมา


เรื่องแรกเป็นเรื่องของคุณอนันต์  อัศวโภคิณ..

คุณอนันต์เคยเล่าถึงการได้ที่ดินผืนงามในราคาที่ไม่แพงที่ปัจจุบันเป็นที่ตั้งของ  terminal 21    ว่าเกิดจากเมื่อก่อนหน้าจะได้ที่ดินผืนนี้หลายปี  คุณอนันต์ได้ไปติดต่อซื้อที่ดินจากเจ้าของคนหนึ่งแถวสีลม และได้บอกปากเปล่าว่าที่ดินสีลมนี้มีอัตราส่วนการสร้างที่ 4:1  จากความเป็นจริงในตอนนั้นแล้วก็เสนอราคาตกลงซื้อขายกันเรียบร้อย   เวลาผ่านไปไม่นาน  มีการอนุมัติใหม่ให้ที่ดินผืนดังกล่าวมีอัตราส่วนใหม่ที่ 6:1  ทำให้คุณอนันต์ได้ประโยชน์มากขึ้นมาก  และคุณอนันต์เองก็ได้ซื้อที่ดินมาเรียบร้อยโดยไม่ได้มีเงื่อนไขอะไรอื่นอีก   แต่ด้วยความเป็นคุณอนันต์   คุณอนันต์ก็ถือเงินสดส่วนหนึ่งที่ได้จากกำไรที่เพิ่มขึ้น  เอาไปให้เจ้าของที่ดินเดิม  ซึ่งเจ้าของที่ก็งงๆเพราะได้ขายขาดไปแล้วและก็ไม่ได้รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงอัตราส่วนนั้น  แต่ก็คงประทับใจในความแฟร์ของคุณอนันต์

อีกหลายปีต่อมา เจ้าของที่ดินคนเดิมซึ่งมีที่อยู่อีก 10 ไร่ตรงอโศก ก็ประกาศให้เช่าที่ระยะยาวโดยมีราคาเริ่มต้นในการประมูลไม่แพงมากและมีคนสนใจมาร่วมประมูลมากมาย   แต่พอคุณอนันต์แสดงความสนใจในที่ดินผืนนั้น   เจ้าของที่ก็ไม่ลังเลที่จะให้คุณอนันต์ในราคาตั้งต้นโดยที่ไม่ต้องประมูลแข่งกับคนอื่นอีก   คุณอนันต์ก็เลยได้ที่ดินผืนงามมาทำ    terminal 21 ในปัจจุบัน  เป็นอานิสงส์จากการกระทำในอดีตโดยแท้


เรื่องที่สองเป็นเรื่องของคุณตัน ภาสกรนที..

คุณตันเล่าเรื่องหนึ่งถึงสมัยที่ขายของเบ็ดเตล็ด  เทปคาสเซ็ท หนังสือ นิตยสารอยู่แถวท่ารถที่ชลบุรี   ลูกค้าส่วนใหญ่ก็จะเป็นคนที่มาขึ้นรถที่แถวร้านคุณตันเพื่อไปกรุงเทพ ปกติก็จะมีผู้ชายคนนึงชอบเดินเข้ามาเดินเล่นดูเทป ดูหนังสือฆ่าเวลาก่อนขึ้นรถไปทำงานที่กรุงเทพแล้วก็กลับมาตอนเย็นๆ  เดินดูอีกรอบแล้วก็กลับบ้าน  ไม่เคยซื้ออะไรในร้านเลยเพราะราคาเทปสมัยนั้นไปซื้อที่กรุงเทพถูกกว่า  จนวันหนึ่งฝนตกหนัก ชายคนนี้เดินเข้ามาในร้านด้วยสภาพเปียกปอน ในมือถือเอกสารอยู่ปึกหนึ่ง   คุณตันสังเกตุเห็น ไม่ได้พูดอะไรแล้วก็ยื่นถุงพลาสติกลายการ์ตูนที่วางขายอยู่ให้ถุงนึง   ผู้ชายคนนั้นก็ขอบคุณแล้วก็เดินออกไป

หลังจากนั้นคุณตันบอกว่า  ชายคนนั้นกลับมาและซื้อเทปซื้อหนังสือจากร้านคุณตันทุกครั้ง  ถึงแม้ราคาจะแพงกว่าที่กรุงเทพฯ  จนกลายเป็นเพื่อนสนิทกันในที่สุด

เรื่องที่สามเป็นเรื่องของ พี่สุรชัย พุฒิกุลางกูร  มือ illustrator อันดับหนึ่งของโลก 

พี่สุรชัยเคยเล่าเรื่องสมัยที่เรียนอยู่ที่ญี่ปุ่นแล้วไปรับงานเป็นล่ามในงานแสดงสินค้าศิลปะหัตถกรรมไทยที่นั่น   พี่สุรชัยบอกว่าแกมีหน้าที่คอยอธิบาย (แบบงูๆปลาๆ)   ให้คนญี่ปุ่นฟังถึงที่มาที่ไปของหัตถกรรมที่นำไปแสดงโชว์   ในงานนั้นพี่สุรชัยสังเกตุเห็นชายญี่ปุ่นแก่ๆคนหนึ่งมาด้อมๆมองๆเดินดูงานแกะสลักช้างอยู่หลายวันและในที่สุดก็ตัดสินใจซื้อ   พี่สุรชัยก็เลยไปถามว่าทำไมถึงสนใจและซื้องานชิ้นนั้น  ชายญี่ปุ่นคนนั้นซึ่งภายหลังทราบว่าเป็นคุณครูโรงเรียน บอกพี่สุรชัยว่าที่ซื้อเพราะมาอยู่หลายวันและสังเกตุคุณลุงคนไทยที่แกะสลักงานชิ้นนั้น แล้วรู้สึกว่าคุณลุงเป็นคนดีก็เลยคิดว่างานจะต้องดี  ก็เลยซื้อ

พี่สุรชัยบอกว่า การมองงานศิลปะของคุณครูญี่ปุ่นนั้นเปลี่ยนโลกของพี่สุรชัยไปเลย  คุณครูคนนั้นเชื่อว่า  คนดีก็จะย่อมทำงานที่ดี   เป็นวิธีคิดที่พี่สุรชัยคาดไม่ถึง  และทำให้วิธีคิดนั้นติดอยู่ในหัวของพี่เขา จนไปประทับใจกับครีเอทีฟนิสัยดีคนหนึ่งแล้วยอมทำงานให้แบบแทบไม่คิดสตางค์เพราะอยากทำงานกับคนนั้น  จนได้เป็นผลงานระดับสุดยอดของโลก (งาน Samsonite : heaven&hell)  ที่ทำให้พี่สุรชัยแจ้งเกิดในเวทีระดับโลกได้อย่างงดงาม

ด้วยความคิดที่ว่า  คนดีย่อมทำงานที่ดี โดยแท้

………………………………


ความลับของฟ้าที่พี่เล้งบอก  ก็คือว่า  ถ้าผู้ให้ (giver)  ไม่ไปอยู่กับพวก taker หรือ matcher แต่กลับอยู่ท่ามกลางพวก giver ด้วยกัน  โอกาสที่จะประสบความสำเร็จหรือทำอะไรได้เจริญรุ่งเรืองจะมีสูงมาก  เพราะพวก giver ไม่ได้คิดแบบ zero sum game  ไม่ต้องมีเราชนะเขาแพ้  มีแต่ถ้าได้ต้องได้ด้วยกัน  รวยด้วยกัน  มีอะไรก็แบ่งปันกัน  ยิ่งมียิ่งอยากแบ่ง  กลุ่มนี้จึงเป็นกลุ่มที่ประสบความสำเร็จสูงในสังคม  เป็นกลุ่มที่ส่งเสริมเกื้อหนุนกัน  ยิ่งให้ยิ่งได้กลับมาก

เป็นความลับของฟ้าที่ผมแอบมาบอกทุกท่านวันนี้ครับ ….

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น