เคยสังเกตุกันบ้างไหมครับว่าสองข้างถนนจะมีธุรกิจหนึ่งที่เห็นเยอะเรียงรายข้างถนนจนบางครั้งรู้สึกว่าทำไมมันเยอะแยะขนาดนี้ ก็คือ ซ่อมแอร์ เปลี่ยนแบตเตอรี่กับซ่อมไดนาโม รถยนต์ครับ เมื่อก่อนผมเคยสงสัยมานานว่าทำไมมันเยอะจัง ระยะทางกิโลเดียวมีประมาณสองสามร้าน
วันนี้ขออนุญาตคุยเรื่องจริงอีกเรื่องที่พบมากับตัวเอง เผื่อเป็นประโยชน์ครับ
คือรถ forgunner อีกคันของผมนะครับ เกิดมีปัญหาแอร์ไม่เย็น อยู่ดีๆก็หายไปเฉยๆ ก็รีบหาร้านข้างทางที่มีอยู่เยอะ ให้ช่วยดูให้ พอถึงร้านเด็กออกมาเปิดฝากระโปง ยังไม่ได้ตรวจเช็คอะไรเลย เด็กบอกว่า คอมน็อก ต้องเปลี่ยนคอมใหม่ ราคาประมาณหมื่นเศษ หรือจะเอาคอมมือสองก็ได้ หกพันถึงแปดพัน รับประกัน 1 เดือน ผมเลยงง...?? ยังไม่ตรวจสอบอะไรเลย สรุปแล้ว..!! เลยบอกเด็กว่าเดี๋ยวมาดูอีกทีขอเอารถไปทำธุระก่อน กลับถึงบ้านเลยไปหาร้านที่ทำประจำกันอยู่ ตรวจไปตรวจมา overlode พังครับราคาไม่กี่สตางค์ (overlode เป็นอุปกรณ์ อิเล็คทรอนิก ติดอยู่บนหัวของคอมครับ) ตัวคอมไม่เป็นไร ก็เลยรอดตัวไป ถ้าเป็นคนอื่นทั่วไปมีหวังเสียเงินหมื่น ได้ของใหม่มา แต่เสียของเราที่ไม่ได้เสียไป หรือไม่ก็เสียเงินสักแปดพัน เอาคอมมือสองดีๆที่หลอกถอดคนอื่นเขามาให้เรา ซึ่งอาจจะเก่ากว่าของ
เราเสียอีก มาใส่ให้เรา แล้วเอาของเราไปหลอกขายคนอื่นต่ออีกแปดพัน โดยเอาของคนอื่นที่ไม่ได้เสียไปหลอกขายคนอื่นต่อไปเรื่อยๆ สนุกไหมครับธุรกิจนี้ นานๆจะได้ใช้ฝีมือช่างเจอที่มันเสียจริงๆสักที นอกนั้นใช้วิชาหลอก ลักไก่ รับเงินฟรีโดยไม่เสียแรง ไปเรื่อยๆ
แล้วทำไมซ่อมไดนาโมถึงชอบอยู่ด้วยกันกับซ่อมแอร์ละ?? คำตอบก็คือ ใช้สูตรเดิมครับ รถสตาร์ทไม่ติด เปลี่ยนแบตฯก่อน อย่างน้อยก็ได้อย่างนึงละ สองพันกว่า (บางทีขั้วแบตฯหลวม ตะกันเกาะเยอะ ช่างเปลี่ยนแบตฯใหม่ให้ ถือโอกาสล้างขั้วแบตฯ ขันให้แน่นเสียด้วยเลย พอสตารท์ติดก็เลยไม่รู้สาเหตุจริงๆว่าเป็นไรแน่ ระหว่าง แบตฯเก่าที่ไม่ได้เสียอะไร แต่ขั้วหลวม หรือสตาร์ทติดเพราะแบตใหม่ที่ใส่เข้าไปกันแน่
บางคนโดนสองเด้ง เสียตังต์เปลี่ยนแบตใหม่แล้วยังไม่ติด คราวนี้ต้องใช้ความรู้กันละ แต่ไม่ใช่ใช้ซ่อมนะครับ แต่ใช้เพื่ออธิบายให้ลูกค้าให้ได้ว่าทำไมเปลี่ยนแบตฯแล้วยังสตาทต์ไม่ติด
ทีนี้ก็มาถึงเรื่องสตาร์ทเตอร์แล้วละครับ "สตาต์ทเตอร์ไหม้ พัง ต้องเปลี่ยนใหม่" คำพูดนี้จะได้ยินบ่อย มือสองก็หกพันถึงแปดพัน (อันนี้ต้องดูหน้าลูกค้าด้วยว่า...?..ขนาดไหน.หรือท่าทางมีตังค์ หรือหน้าตาไม่ค่อยจะมีความรู้เรื่องช่างมากนัก) ลูกค้าส่วนมากยอมเปลี่ยนครับ เพราะอุปกรณ์ไฟฟ้าเนียะ คนธรรมดาดูไม่ออกครับว่าเสียหรือไม่ เราเสียของดีของเราไป แล้วเสียตังค์เอาของมือสองของคนอื่นมาใส่ให้ ส่วนของดีของเราก็จะกลายเป็นของมือสองของคนอื่นแทน
ที่พูดถึงมาทั้งหมดหมายถึงช่างที่เขี้ยวมากๆไม่มีคุณธรรมความ
เป็นช่างนะครับ ช่างดีๆมีคุณธรรมมีเยอะครับ ถ้าหากเจอแล้วอุดหนุนกันไปครับ
ถ้าเรานึกถึง compresser แอร์ เราอาจนึกถึงเพียงแค่ ทรงกระบอกเหล็กดำๆเท่านั้น ความจริงภายในที่ด้านบน ยังมีอุปกรณ์อื่นอีก เช่น overlode หรือ termostat เอาไว้ป้องกัน com ไม่ให้พังง่ายๆครับ เวลาแอร์ไม่เย็นอาจเกิดจาก ฝุ่นติดจนตันไม่เคยล้าง , ท่อรั่วน้ำยาหมด(น้ำยาแอร์ไม่มีพร่องนะครับ คือมีแต่เต็มกับหมด ไม่มีคำว่าน้อยลงต้องเติมเพิ่ม) ,overlode พัง ,คอมไหม้(อันนี้หนักสุดแต่ไม่ค่อยเกิด) แสดงความรู้ทันให้ช่างเห็นก็ดีเหมือนกันนะครับแต่ฉลาดคุยหน่อย แสดงความฉลาดเกินเดี๋ยวเกิดเสียจริงๆจะโดนฟันเลือดโชก เพราะความหมั่นใส้ของช่าง ...
ต่อไปเรื่องสตาร์ทไม่ติด สาเหตุใหญ่ๆ มีสองอย่างครับ คือ แบตเตอรี่(จ่ายไฟให้ตัวสตาร์ทเครื่อง) ,กับชุดสตาร์ทเครื่อง(ชุดสตาท์ทเตอร์)
แบตเตอรี่ ถ้าแบตฯเสียหรือหมดอายุ ลองพ่วงแบตจากรถคันอื่นจะไม่ติด(ตรวจเช็คสายไฟหลักๆ หรือขั้วต่อให้ดีก่อนนะครับ เผื่อขาดเผื่อหลวม) หรือถ้าเป็นรถเกียร์ธรรมดา ช่วยกันเข็นถ้าสตาร์ทแล้วเครื่องสตาร์ทติด ก็แปลว่าแบตฯเสียครับ
ต่อไปเรื่องของสตาร์ทเตอร์ อุปกรณ์ตัวนี้มีความมหัศจรรย์อยู่ตรงที่ตัวมันเองสามารถทำงานได้สองหน้าที่ครับ คือถ้าเครื่องยนต์ยังไม่หมุน มันจะทำหน้าที่ขับให้เครื่องยนต์หมุน(ตัวมันจะเป็นตัวขับ เครื่องยนต์เป็นตัวตาม ตอนนี้เราเรียกมันว่า "สตาร์ทเตอร์ คือตัวสตาร์ทเครื่อง) แต่เมื่อเครื่องยนต์หมุนแล้ว เครื่องยนต์จะกลายเป็นตัวขับมัน(เครื่องยนต์กลายมาเป็นตัวขับ ตัวมันกลายมาเป็นตัวตาม ตอนนี้เรียกมันว่าเป็น ไดชาร์จ หรือไดนาโม ผลิตไฟไปป้อนเติมแบตฯครับ) ข้างในประกอบด้วยขดลวดทองแดงเส้นใหญ่มาก ไม่ไหม้ง่ายๆหรอก ที่ด้านทัายจะมีอุปกรณ์อิเลคทรอนิกอยู่ชุดหนึ่ง เรียกว่า เร็คติไฟเออร์ rectifier หรือบางท่านเรียก เร็คกูเลเตอร์ ชุดนี้ทำหน้าที่เรียงไฟเข้าไปป้อนแบตครับ (ไม่อธิบายเยอะกว่านี้ เอาแค่ให้พอรู้ว่ามีอะไรมากกว่าแค่รูปร่างเหมือนมอเตอร์ลลูกหนึ่ง )อุปกรณ์ชุดนี้ราคาไม่กี่ร้อย มีโอกาสเสียมากกว่าขดลวดไหม้เยอะครับ เปลี่ยนก็หาย ....ออ้..!!อีกอย่างนึงที่ทำให้ไดชาร์ทไม่ทำงานและต้นเหตุนี้เป็นบ่อยครับ คือ แปรงถ่านสึกหมด คู่นี้ไม่กี่ตังค์ครับ เปลี่ยนก็หาย
ที่เล่ามาเนียะผมหมายถึงช่างที่ไม่ค่อยมีคุณธรรมนะครับ ช่างดีๆที่มีคุณธรรมและใช้วิชาช่างอย่างสุจริตมีมากครับ ถ้าเจอก็สนับสนุนกันครับ ดูดีๆก็แล้วกัน ...
ต่อไปนี้รถมีปัญหาช่วยช่างพิจารณาอาการด้วยนะครับ....pjmong....
วันอังคารที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559
เรื่องของแอร์กับไดนาโม
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ขอบคุณมากครับ กำลังจะไปซ่อมไดร์ชาร์ทพอดี ตอนชาร์ทไฟเข้าน้อยกว่า 12 โวล์ทเล็กน้อย
ตอบลบไดสตาร์ท หรือ มอเตอร์สตาร์ท มีหน้าที่สตาร์ทเครื่องยนต์ เป็นคนละชิ้นส่วนกับ ไดชาร์จ ครับ
ตอบลบ