มีเงินเก็บ 100,000 ลงทุนอะไรดี
ที่จริงคำถามว่า “มีเงินเก็บ....ลงทุนอะไรดี” นั้น มีถามกันเข้ามาตั้งแต่เงินหมื่นไปจนถึงเงินล้าน แต่ที่ฮิตที่สุด ก็คือตัวเลข 100,000 บาท นี่แหละ
อาจเป็นเพราะตัวเลขดังกล่าวนั้นเป็นตัวเลขที่ไม่น้อยเกินไปจนหวังผลอะไรจากการลงทุนไม่ได้ และก็ไม่มากเกินไป จนคนส่วนใหญ่มีเงินไม่ถึง
แต่ไม่ว่าจะเป็นตัวเลขเท่าไหร่ การตั้งคำถามว่า “มีเงินเท่านั้นเท่านี้ ... ฉันควรลงทุนอะไรดี” นั้น เป็นคำถามที่ผิดตั้งแต่เริ่มต้นถาม เพราะมันสะท้อนถึงทั้งในเรื่องของความมักง่าย และ mind set ทางการเงินที่ผิด
มาเริ่มกันที่อุปนิสัย “มักง่าย” ในการลงทุนกันก่อน ....
ตัวผมเองเป็นคนหนึ่งที่แอบรู้สึกขัดใจเสมอ เวลาได้ยินกูรูทางการเงินบางท่านตอบคำถามผ่านรายการวิทยุและโทรทัศน์ เช่น ดิฉันมีเงิน 10 ล้าน ท่านกูรูคิดว่าดิฉันควรเอาไปทำอะไรดี
“ถ้าคุณมีเงิน 10 ล้าน คุณควรเอา 3 ล้าน ไปซื้อบ้าน 2 ล้านไปซื้อพันธบัตร 3 ล้าน ไปซื้อทองคำและกองทุนรวม และที่เหลือฝากธนาคารเอาไว้”
ฟังแล้วตลกดี เพราะดูแล้วมักง่ายทั้งคนถามและคนตอบ
คุยกันยังไม่ถึง 2 นาที วางแผนชีวิตให้เสร็จสรรพ เป้าหมายชีวิตเขาเป็นยังไงก็ยังไม่รู้ ภาระทางการเงินมีอะไรบ้าง ก็ยังไม่เข้าใจ แต่นั่นก็เป็นสิ่งที่คนส่วนใหญ่ชอบ เพราะมันไม่ต้องคิดมาก แค่เทน้ำร้อน ก็กินได้เลย
คำถาม คือ เราเชื่อคำแนะนำของกูรูทางการเงินเหล่านั้นได้อย่างไร?
เขาเป็นใคร เขารู้หรือไม่ว่าเรามีวัตถุประสงค์ในการลงทุนอย่างไร ต้องการผลกำไรจากการลงทุนเท่าไหร่ รับความเสี่ยงได้แค่ไหน มีแผนการเงินต้องใช้จ่ายหรือมีภาระอะไรบ้าง และถ้าเชื่อเขาแล้วขาดทุนขึ้นมา ใครรับผิดชอบ ฯลฯ
จากคำถามข้างต้นจะเห็นว่า ไม่มีใครตอบได้ว่า ลงทุนอะไรดีได้เท่ากับเจ้าของเงิน หรือตัวเราเองหรอกครับ
ดังนั้น ถ้าคุณมีเงิน 1 แสน และกำลังหาวิธีทำให้มันงอกเงยสิ่งแรกที่คุณควรใส่ใจก็คือ “การลงทุนในตัวเอง” โดยการเติมความรู้ให้กับตัวเองเป็นอันดับแรก
คุณสนใจลงทุนเรื่องอะไร ก็ลองลงทุนเวลาหาหนังสือหนังหามาอ่าน เสิร์ชกูเกิ้ล ดู Youtube เข้าสัมมนา หรือแบ่งเวลาไปพูดคุยกับคนที่ลงทุนในแบบเดียวกันกับที่คุณสนใจ เพื่อเติมความรู้ จะได้สร้างแผนการและเลือกลงทุนได้เอง
อย่าทำตัวมักง่าย เหมือนรายการหุ้นในโทรทัศน์
ซื้อตัวนั้นดีมั้ย ราคาเท่าไหร่จึงจะซื้อได้ ซื้อแล้วขายได้ที่เท่าไหร่ดี ฟังตั้งแต่ต้นจนจบ สรุปแล้วคนถามไม่รู้เรื่อง อะไรเลย และไม่ได้คิดอยากจะรู้ด้วย ซื้อหุ้นเหมือนซื้อหวย แทงตามเลขดังเลขเด็ด หุ้นตัวนั้นทำธุรกิจอะไรก็ไม่รู้ พอซื้อถือไว้สักพักก็หงุดหงิดงุ่นง่าน ข่าวดีข่าวร้ายผ่านเข้ามางงไปหมด จะขายหรือจะถือต่อก็ไม่รู้ สุดท้ายแก้ปัญหาด้วยวิธีเดิมคือโทร.ถามคนที่แนะนำให้ซื้อ
แบบนี้ไม่เรียกว่า “การลงทุน” นะครับ
จำไว้ว่า “เงินจะไม่อยู่กับคนที่ไม่ฉลาดทางการเงิน” ดังนั้นต่อให้มีเงินเป็นล้าน แต่ขาดความรู้ทางการเงิน ก็หมดตัวได้ครับ
ดังนั้น จะลงทุนอะไร ไม่ต้องไปถามใคร ถามตัวเอง สนใจอะไรก็เอาเวลาไปศึกษาหาความรู้ในเรื่องนั้น เก็บเงินไว้ก่อน ไม่ต้องรีบใจร้อน และอย่าจ่ายเงินลงทุนอะไรโดยไม่รู้อย่างเด็ดขาด
อีกเรื่องก็คือ อย่าไปยึดติดกับเงินในมือ และเผลอใช้มันเป็นตัวกำหนดขนาดการลงทุนของตัวเอง
ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร ที่คนมีเงินเก็บหลักพัน จะลงทุนบ้านเช่า ราคา 3 ล้านได้
เพราะธนาคารไม่เคยดูเงินเหลือเก็บจริงๆ เขาดูแค่สลิปเงินเดือนว่ามีเงินเดือนเข้าจริงตามที่บอกหรือไม่ ดูว่ามีติดหนี้ที่ไหนอย่างไรต่อให้เงินไม่เคยเหลือ แต่ถ้าสลิปเงินเดือนถึง ไม่มีหนี้เสีย แค่นี้ก็มีสิทธิ์เป็นเจ้าของบ้านเช่าได้แล้ว
โจทย์ทั้งหมดจึงกลับไปอยู่ที่ “คุณมีความรู้ทางการเงินหรือไม่” เพราะ ถ้าคุณมีความรู้ทางการเงิน ต่อให้ไม่มีเงิน คุณก็สามารถ
ลงทุนได้
เริ่มต้นง่ายๆ ที่ตัวเอง ถามตัวเองสิว่า สนใจจะลงทุนในอะไรแล้วเลือกศึกษาจากสิ่งนั้น จะเป็นธุรกิจ อสังหาริมทรัพย์ หุ้น หรือทองคำ ก็แล้วแต่ สิ่งสำคัญ คือ ต้องรู้และเข้าใจในสิ่งที่ลงทุนให้มากพอ ก่อนที่จะใส่เงินลงไป และอย่าโลภจนเกินไป จนเผลอเอาผลตอบแทนเยอะๆ เป็นเป้าหมายการลงทุน โดยไม่ประเมินความสามารถในการรับความเสี่ยงของตัวเอง
High Understanding, High Return : ยิ่งคุณรู้จักสิ่งที่คุณลงทุนมากเท่าไหร่ คุณก็ยิ่งได้รับผลตอบแทนจากมันมากขึ้นเท่านั้น
และจงอย่ามักง่าย เพราะความมักง่ายไม่เคยทำให้ใครรวย
#TheMoneyCoachTH
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น