หลัก 5 คิด ให้ชีวิตดีขึ้น
ก่อนคิดรวยให้คิดช่วยคนอื่นก่อน ..แล้วที่คิดรวยจะสัมฤทธิ์ผลง่ายขึ้น (จริงดิ?)'
ขอบอกว่าอันนี้จริงครับ ...คนเดี๋ยวนี้คิดแต่จะรวยเร็วก่อน ก็เลยไม่รวยไง ..เพราะคิดรวยเร็วแค่ไหนก็ทำให้เรายิ่งมองแคบ มองสั้นมองเฉพาะตัวเอง -- ก็มองแบบนี้มันก็ยิ่งไม่เห็นโอกาสแล้วจะไปรวยได้อย่างไงครับ ?
วิธีคิดสั้นนี่ง่ายมากนะ ..ถ้าอยากมีเงินล้านชั่วข้ามคืน ก็ซื้อหวยซิ ..แต่โอกาสถูกมันแทบเป็นศูนย์ ..เชื่อไหม คนเหล่านี้ก็ยังหาข้ออ้างว่า นี่ไง 'คนนั้นยังถูกหวยเลย' -- จริง!! เขาถูกแต่เอ็งน่ะไม่ถูก เข้าใจตรงกันนะ !!
วิธีคิดยาวมันคิดยาก แต่ถ้าฝึก เราก็จะเปิดโอกาสในชีวิตให้ตัวเรเองมากขึ้น มาดูวิธีคิดยาวแบบง่ายๆ ลองฝึกดู
1. 'คิดว่าจะทำให้บริษัทที่เราทำงานหาลูกค้าได้มากขึ้น' อันนี้คือ คิดให้เรามีอนาคตในที่ทำงาน
2. 'คิดวิธีแก้ปัญหาให้คนอื่น' อันนี้คือ idea ตั้งต้นของธุรกิจ เช่น Google แก้ปัญหาการหาข้อมูลบนเน็ต , UBER แก้ปัญหาแท๊กซี่ทั่วโลก
3. 'คิดวิธีช่วยให้คนมีชีวิตดีขึ้น' อันนี้ Idea ตั้งต้นของนักเขียนและวิทยากรเลย อาชีพอ้าปากก็ทำเงิน ก็เริ่มจากคิดวิธีช่วยคนอื่นให้คิดเป็นทำเป็น
4. 'คิดเพื่อคนอื่นก่อนตัวเอง' อันนี้ Idea ตั้งต้นของ 'ผู้นำ' ..The Leader eat last ผู้นำ คือคนที่เอาประโยชน์ของคนอื่นเป็นที่ตั้ง ประโยชน์ของตัวเองมาทีหลัง
5. 'คิดเพื่อลูกเพื่อหลาน' อันนี้ถ้าตระกูลไหน ผู้นำตระกูลคิดไกล วันนี้ลูกหลานก็รวย
ตาม Concept 'รุ่นปู่ หาเงินเพื่อเก็บ - รุ่นพ่อ ทำงานเพื่อสานต่อ - รุ่นลูก ชีวิตใช้ซะ' ..แปลกใจไหม ที่คนสมัยก่อนรวย แต่คนยุคนี้รวยยากและหาโอกาสในชีวิตยาก -- ไม่แปลก !! 'ก็มรึง คิดสั้น ไง สาดดด ..555'
-- ฝึกคิดให้ยาวขึ้น แล้วโอกาสในชีวิตจะเปิดขึ้นครับ จัดไป !!
มนุษย์เงินเดือน มีกี่อย่าง
'มนุษย์เงินเดือน 4 แบบ'
ใครเป็นแบบใด จะมีค่าจ้างตามแบบนั้น ..หลายคนหลงคิดว่า ฉันเรียนสูง บ้านมีฐานะ อาจจะได้รับการยกเว้นไม่ต้องอยู่ในกลุ่ม
ไม่เลย !! ...สุดท้ายหากเราเป็นมนุษย์เงินเดือน เราต้องเลือกแบบใดแบบหนึ่ง เพื่อไปต่อในด่านถัดไปนะครับ -- 'คุณได้ไปต่อนะคร๊าบบ!!'
หนึ่ง : 'มนุษย์เงินเดือนหลักลอย' ..หลักลอย ก็คือ หลักร้อย ..หาเงินค่าจ้างขั้นต่ำ ..งานที่ทำคืองานที่จ้างเราให้ไปยืนหรือนั่งตรงนั้นแหละ ..งานนี้วัดผลจากสองอย่าง คือ หนึ่ง จำนวนชิ้นที่ทำ สอง วัดจากชั่วโมงที่นั่ง ..และจุดเด่นของงานนี้คือ ใครทำก็ได้ ใช้เวลาเรียนรู้งานไม่นาน ..ถ้าถามนายจ้าง เขาอยากเอาเครื่องจักรมาแทนคนงานเหล่านี้มากๆ ...ถ้างานใครเป็นแบบนี้คือ 'มนุษย์เงินเดือนหลักลอย' ..แนะนำให้พัฒนาตัวเอง เพื่อเปลี่ยนหลักอย่างด่วน !!
สอง : 'มนุษย์เงินเดือนหลักหมื่น' ...งานนี้ต้องมีบัตรผ่านเข้างานเป็นใบปริญญา ยิ่งถ้าเราเรียนเก่งจะได้รับพิจารณาเป็นพิเศษ ..งานนี้ต้องมีความรู้แต่ใครจบปริญญาก็ทำได้ทั้งนั้น ..ใช้เวลาเรียนงานไม่นานมาก ..วัดผลตามจำนวนชิ้นงาน และ เวลาที่เราใช้ ..คนที่จะรุ่งในหลักนี้ ต้องทำงานตามโจทย์ได้ดี ..'สั่งง่าย ทำไว ใจสู้'
สาม : 'มนุษย์เงินเดือนหลักแสน' ..อันนี้เกินใบปริญญาละ มาวัดที่ความเชี่ยวชาญ ..คนที่เงินเดือนหลักแสน ต้องมีความเชี่ยวชาญบางอย่างที่โดดเด่น ...งานนี้ไม่ใช่ใครทำก็ได้ ต้องเป็นฉันเท่านั้น เช่น ถ้าพี่เบิร์ดไม่มาร้องเพลงในงานคอนเสิร์ตแบบเบิร์ดๆ ก็งานล่มอย่างเดียว ..อันนี้แหละงานของมนุษย์เงินเดือนหลักแสน ...เราเป็นผู้เชี่ยวชาญ เราได้รับการยอมรับ และไม่ใช่ใครๆ จะมาแทนเราได้ ...งานแบบนี้ดีทุกอย่าง เงินดี ชีวิตรุ่ง แต่จะไม่มีเวลาให้ตัวเอง เพราะ นี่คือ ระดับสูงสุดของมนุษย์เงินเดือนที่ขายเวลาแลกเงิน
สี่ : 'มนุษย์เงินเดือนหลักสี่' ...เข้าสี่แยกเลยครับ ..คนที่มาถึงหลักสี่ได้ ส่วนมากเคยผ่านมาทุกหลัก แล้วรู้จักพัฒนาตัวเอง ให้เปลี่ยนหลักมาเรื่อยๆ ...ส่วนใหญ่คนที่เก่งมากๆ จะมาติดอยู่ตรงหลักแสน แต่คิดไม่ออกว่า จะไม่ขายเวลาแลกเงิน จะทำอย่างไร ...มนุษย์เงินเดือนหลักสี่ คือ คนที่แยกตัวเองออกจากงานโดยการสร้างผลงานที่ทำงานแทนตัวเอง ...เพราะตัวเราทำเงินได้ แต่ผลงานเราจริงๆ ก็สร้างเงินได้ - คนที่จะเก่งในหลักนี้ ต้องคิดเรื่องการสร้างผลงานที่ทำเงิน
ลองสำรวจดูซิครับว่า เรากำลังอยู่ในมนุษย์เงินเดือนหลักไหน ? ...ทุกหลักเปลี่ยนไป ถ้าเรารู้จักพัฒนาตัวเอง
เปลี่ยนตัวเอง ให้เปลี่ยนหลัก!!
รักตัวเองให้มาก
ผมชอบตัวเอง แล้วคุณชอบตัวเองไหม'
วันนี้คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยชอบตัวเอง เพราะมัวแต่ทำตัวเองให้ทุกคนชอบ ..บอกตรงๆ ถึงแม้สุดท้ายทุกคนชอบคุณ(ซึ่งเป็นไปไม่ได้) แต่คุณจะค่อยๆ ไม่ชอบตัวเองมากขึ้นเรื่อยๆ
'ผมเองก็เคยเป็นแบบนั้น' ..สมัยเด็กๆ ผมได้รับการติ๊กในสมุดพกว่า 'เป็นที่รักใคร่ชอบพอ ชนะใจผู้อื่น' ..เวลานั้นผมคิดว่า จะทำอย่างไรก็ได้ให้ทุกคนชอบผม -- รู้ไหมว่า 'เหนื่อยครับ' เพราะทำไงก็ตามก็ต้องมีบางคนไม่ชอบผมอยู่ดี
นั่นแหละจุดที่ผมเริ่มคิดได้ ...'แล้วผมจะมานั่งทำให้คนที่ไม่ชอบ ให้ชอบทำไม เสียเวลา -- สู้เอาเวลามาทำสิ่งที่ทำแล้วผมชอบตัวเองมากขึ้นน่าจะดีกว่า'
ครับ!! เดี๋ยวนี้ผมเลือกเยอะ แต่ผมเลือกทำในสิ่งที่ผมชอบ เช่น งานที่ผมทำแล้วมันอธิบายตัวผม ทำแล้วภูมิใจในผลงาน ผมก็จะเลือก Focus เวลาที่มีจำกัดของผมไปที่ตรงนั้น
สรุปคือ ชีวิตผมดีขึ้น เริ่มมีผลงานมากขึ้น และ ผมได้ทำสิ่งที่ผมถนัดมากขึ้นเรื่อยๆ
ใช่ !! สิ่งที่ผมอยากแชร์ให้คนรุ่นใหม่วันนี้คือ เราต้องแคร์ตัวเองให้มากขึ้น นี่ไม่ใช่การเห็นแก่ตัว เพราะ เมื่อคุณเริ่มหาตัวเองเจอ คุณจะรักตัวเองมากขึ้น รักสิ่งที่ทำ และ สุดท้ายคุณจะรักคนอื่นมากขึ้น
เมื่อคุณรักคนอื่นมากขึ้น เมื่อนั้นโอกาสที่เราไม่เคยคิดจะได้มา จะวิ่งเข้ามาแบบน่าอัศจรรย์ ...เชื่อซิ ไม่มีความบังเอิญในโลก มันมีแต่การกระทำของเราเอง ที่สร้างสิ่งมหัศจรรย์ให้ชีวิตเรา
..Pw.....Fw by pjmong
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น