วันศุกร์ที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2567

งานนวัตกรรม

                                                                     



                                                                      1/2
 
        สวัสดีตอนเช้าครับกับสมาชิกผู้ทรงคุณวุฒิทุกๆท่าน อยากคุยด้วยเพื่อให้บรรยากาศของห้องผ่อนคลายลงบ้างครับ ขอคุยด้วยความรู้สึกเหมือนเพื่อนคุยกันนะครับ  เรื่องที่เราอยู่ใกล้มากกว่าใครคือ เรื่อง""งานนวัตกรรม"" ครับ 
  ""งานนวัตกรรม""(innovation)  เป็นงานยาแรงเพื่อสร้างชาติ ที่ทุกชาติที่เจริญแล้วร่ำรวยแล้ว ทุกประเทศ เริ่มต้นด้วยการให้คนในชาติเข้าใจและร่วมกันช่วยงานคิดผลิตงานนวัตกรรม ขึ้นมาครับ ในอดีตประเทศเกาหลีใต้ มีการจดสิทธิบัตร งานนวัตกรรมมากที่สุดในโลก ปัจจุบันถ้าประเทศจีน ที่ไม่ได้ปกครองด้วยระบบเหมือนสากล ถ้าจีนสามารถจดสิทธิบัตร ในระบบสากลได้ก็น่าจะเป็นประเทศที่มีงานนวัตกรรม มากที่สุดในโลก เพราะนี่คืองานที่คนจีนถนัดและถูกปลูกฝังมาเป็นพันปี กับชาวบ้านทุกๆคน 
 "" งานนวัตกรรม ""  คืองานที่ถูกสรรสร้างขึ้นใหม่โดยไม่เคยมีใครทำมาก่อน ทั้งทำใหม่หรือพัฒนาให้ดีกว่าเดิม มีทั้งที่มองเห็น จับต้องได้ (hardware) เช่นเครื่องมือเครืองจักร ส่วนมากเป็นงานนวัตกรรมวิศวกรรม เคมี ชีวะ ฯลฯ  และงานที่ มองไม่เห็น หรือ จับต้องไม่ได้  (solfware) เช่น program บนคอมฯ  application บนมือถือ, วิธีการจัดการ, งานนิพนธ์, งานศิลปะ  ฯลฯ
 "" งานนวัตกรรม"" มักเกิดจาก ความชำงานในการทำงานนั้นมานานซ้ำๆ จนเกิดความคิดหาทางสร้างเครื่องมือให้ทำงานได้ปลอดภัยขึ้น สะดวกรวดเร็วขึ้น มักเกิดจาก คนทำงานภาคปฎิบัติมานานๆและชำนาญงานด้านนั้นสูง  หรือเกิดจาก คิดการคิดค้นทดลองของผู้ที่ ศึกษาเรื่องนั้นมามากจนสามารถมีคิดค้น สูตรในห้องทดลอง ห้องวิจัย ให้ผลงานออกมาได้ เช่นงานเคมี ชีวะ  
  คนทำงานด้านนี้เราเรียกพวกเขาว่า ""นวัตกร"" (innovator) ครับ ในสมาคมระดับประเทศของเราที่ผมเป็นสมาชิก  สมาชิกหลายคนมีงานนวัตกรรม ที่จดสิทธิบัตร มากมายต่อคน บางท่านมีถึง 80 ผลงาน แต่น่าเสียดายที่รัฐบาลไม่ค่อยเห็นความสำคัญ จึงไม่ได้สนับสนุนให้ประชาชนสนใจงานด้านนี้ นวัตกรส่วนมากพบปัญหาคือต้องใช้ทุนมากในการผลิตต้นแบบออกมา เป็นผลงานเพื่อ เอาออกมาทำเป็นธุรกิจ หลายชิ้นงานต้องลงทุนทำต้นแบบโดยใช้เงินเป็นล้าน กับผู้ชำนาญงานระดับชาวบ้านนั้น มันห่างความจริงมากที่จะเอาผลงานนั้นออกมาให้เป็นธุรกิจ   
                   -----นนท์นริฐ  ----        1/2

                                                       

                                                                        2/2

  ประเทศจีนเริ่มต้นสร้างชาติด้วยการ ตั้งโครงการช่วยเหลือทุกวิธีเพื่อให้ ประชาชนในประเทศ สร้างผลงาน ต้นแบบออกมาให้ได้ ตั้งแต่โครงสร้างหลักจนถึงความสวยงามภายนอกโดยการให้บริการช่วยสร้างให้ฟรี หรือให้เงินช่วยเหลือ เป็นเหตุให้ คนในชาติ ได้ผลงานหลากหลาย ออกมาขายกันเต็ม ไปทั่วโลก ของแถมที่ได้มาที่มีค่ามหาศาลคือ คนต่างชาติที่มีงานดีๆ ก็มาขอใช้บริการ ประเทศจีนคือผู้ผลิตให้ ก็เก็บข้อมูลไว้ สามารถนำมาต่อยอด ให้คนในชาติทำเองได้อีก เป็นร้อยเป็นพันผลงาน
   ตัวอย่างประเทศ ที่ร่ำรวยจนเป็นประเทศพัตนาแล้ว ที่เกิดจากงานนวัตกรรม
       -- สเปน ฮอลันดา จีน ยุคสมเด็จพระนารายณ์ของเรา ค้นหาโลกใหม่ เพื่อทำการค้าและล่าเมืองขึ้น เอาเงินเข้าประเทศ ด้วยเรือที่ใช้เดินทางในทะเลและวิทยาการการค้าใหม่ๆที่เอาไปใช้กับประเทศอื่น เรียกว่า ช่วงนั้นเป็นจุดเริ่มต้นในการ ออกแสวงหาการค้านอกประเทศตัวเอง ด้วยความคิดใหม่ วิธีการใหม่และเรือเดินสมุทรใหม่
       - ต่อมาคืออังกฤษ ได้นวัตกรรมเรื่องเครื่องจักรไอน้ำ เรื่องเดียวแท้ๆ ที่เอามาทำ เรือสินค้าเรือรบ เครื่องจักร อาวุธ สารพัด จนกลายเป็นประเทศที่ตะวันไม่เคยตกดิน คือมีประเทศเมืองขึ้นที่ไปล่าอาณานิคมไว้ทั่วโลก แล้วไปขนเอาทรัพยากร เขามาจากทุกประเทศ จนกินไม่หมดมาทุกวันนี้ 
  --อเมริกา ได้เรื่องเทคโนโลยี่ ทั้ง hardware .solfware ,อาวุธ ,ธุรกิจการค้าเช่นอาหารเครื่องดื่ม ที่แต่ละยี่ห้อออกไปขนเงินเข้าประเทศทั่วโลก ทุกวันนี้ ,หลักการวิธีการ หาทางเอาเงินเข้าประเทศ เช่นเปลี่ยนมาตรฐานการพิมพ์เงินจากทองให้เป็นน้ำมัน สร้างความร่ำรวยจากค่าเงินดอลล่าร์มามากมายมหาศาลหลายสิบปี 
 -- ญี่ปุ่น เกาหลี เยอมัน ไต้หวัน ได้จากงานด้าน วิศวกรรม 
--- สิงค์โปร ฮ่องกง มาเลเซีย ได้เรื่องเกี่ยวกับ นวัตกรรม การค้า การเงิน ธุรกิจนายหน้า จนเป็นผู้ชำนาญการพิเศษด้านนี้ ร่ำรวยๆ
--ฝรั่งเศษ ได้น้ำหอม แฟชั่น เครื่องสำอาง 
--อิตาลี่ได้ ศิลปะ (เช่นฟอนิเจอร์แนวอิตาลี่ นิยมมากไปทั่วโลก), เครื่องจักรอุตสาหกรรม 
---สวิสเซอร์แลน ประเทศเล็กๆ และไม่มีทรัพยากรอะไรเลย ร่วรวยมั่นคง ด้วยนวัตกรรมความคิดในการออกกฎหมายให้เป็นประเทศเป็นกลางของโลก เงินทองจากทั่วโลกก็ไหลมาเทมาฝากที่นี่ และ นวัตกรรมธุรกิจการเงินที่ต้องสอนให้เด็กๆในชาติต้องศึกษากันตั้งแต่เด็กๆ
  แล้วประเทศไทยละ ? เมื่อไหร่ .? ที่รัฐบาลไทยจะหันมาสนับสนุนจริงจัง  คนไทยจะได้ มีเงินเยอะๆเข้ากระเป๋า ปัญหาทางลบทั้งหลาย ที่เกิดจากความจน ความเครียด ก็จะเกิดน้อยลง คนไทยอยู่อย่างไม่เครียดยิ้มแย้มแจ่มใส ไม่เห็นแก่ตัว ไม่ทะเลาะกัน คนต่างชาติก็เข้ามาเพราะคนไทยยิ้มเก่งเหมือนเดิม ตอนเป็น ""ยิ้มสยาม""แล้ว
  อย่าลืมนะครับ ..ตอบโจทย์ ที่ว่า ..งาน ที่ใช้ทุนน้อยที่สุด ได้เงินเร็วที่สุด และ ได้มากที่สุด ..คืองานอะไร?? คำตอบคืองาน "'นวัตกรรม"" ครับ ที่ผมพูดแบบนี้ได้อย่างมั่นใจ เพราะผมอยู่กับเขา และได้จริงอย่างนั้น ถ้าไม่จริงอย่างนั้น เจ้าของ safe T cut ที่เป็นแค่ช่างไฟฟ้า ธรรมดาๆ คงไม่รวยเป็นเศรษฐี ในข้ามคืนหรอกครับ
   เชิญชวนให้ คนไทยทุกคน รีบขยันทำงานที่ตัวเองถนัด อย่าให้ต่างด้าว อย่างน้อย 5 ประเทศ มาแย่งเงินแย่งงานของเราไป รีบกระโดดออกจากอานมอเตอร์ไซด์รับจ้าง  แล้วให้คนแก่เขาทำงานนี้ไป รีบกระโดดออกจากวงเหล้า หรือราวสะพาน ที่เรามั่วสุมเพราะไม่มีงานทำ เราคนหนุ่มสาว ที่มีแรง มีกำลังสมองิกำลังการเรียนรู้ มาเอางานเราคืนจากคนต่างด้าว  ทำจนชำนาญแล้วคิดค้นงานนวัตกรรม ขึ้นมาแค่คนละชิ้น แค่ชิ้นเดียวเท่านั้นก็ทำเงินเข้ากระเป๋ามากมายได้แล้ว ประเทศจะเจริญ คนในชาติต้องทำงานกันมากที่สุดนะครับ ยิ่งชำนาญงานด้านวิชาชีพยิ่งใช่ และสามารถจ่ายความรู้ให้คนอื่นเอาไปทำได้อีกด้วย พูดง่ายๆคือประเทศใดจะร่ำรวย คนในชาติต้องทำงานกันมากที่สุด และชำนาญงานนั้นๆมากที่สุดในทุกๆคน  จะไม่มีคนว่างงานที่เอาเวลาไป ทำเรื่องลบๆให้ตัวเอง ให้คนอื่น ซึ่งถือว่าเป็นความสูญเสียแบบไร้ประโยชน์ของประเทศเป็นส่วนรวมอีกด้วย  คุยกันสนุกๆแต่มีสาระนะครับ
    ขอบคุณครับ 
    ... นนท์นริฐ จารุติไพบูลย์  ผู้สมัครรับเลือก สว. ระดับจังหวัด จันทบุรี กลุ่ม 13 เบอร์ 3 ... 
  

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น