วันอังคารที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2567

สัตว์ มลภาวะ

เขาเสียชีวิตเพราะนกพิราบ
          ผมสุรินทร์ วัตตธรรม ขอเรียนอนุญาตเขียนบทความที่ไม่เกี่ยวกับโรคNCDs แต่เป็นโรคติเชื้อโรคจากนกพิราบ
          อัยการจังหวัดผู้ช่วยคนนี้มีภูมิลำเนาอยู่จังหวัดตรัง มาดำรงตำแหน่งอัยการจังหวัดผู้ช่วยคดีเยาวชนจังหวัดสงขลาเป็นลูกน้องผมในปีพ.ศ.2546 อยู่บ้านพักที่ถนนแหล่งพระรามเขาหว่านอาหารให้นกพิราบกินวันละ2ครั้งมีนกมากินอาหารเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เข้าใจว่าเมื่อนกพิราบกระพือปีกบินออกจากบ้านพักฝุ่นและเชื้อโรคเข้าจมูกอัยการผู้นี้ เขารักธรรมชาติและมีความสุขกับการให้อาหารนก ไม่มีใครห้ามไม่มีใครรู้ว่านกพิราบมีเชื้อรา(น่าจะอยู่ที่ปาก) 
         เขาให้อาหารนกพิราบทุกวันไละ2 ครั้งติดต่อกันเป็นเวลา2 ปี เขาก็ป่วยจึงนำส่งโรงพยาบาลที่เก่งที่สุดของภาคใต้ หมอตรวจพบเชื้อราในสมองของเขาและไม่มียารักษาให้หายได้ จนบางวันคลุ้มครั่งเดินแก้ผ้าจนคุณพยาบาลรีบนำเขาห้อง เขาคงทำไปโดยไม่รู้ตัว น่าสงสารเขามาก เป็นลูกน้องที่ดี ทำงานดี เพื่อนร่วมงานรักทุกคน ในที่สุดสู้เชื้อราจากนกพิราบไม่ได้เขาเสียชีวิตในเวลาไม่นาน
         เขียนบทความนี้เพราะตอนใกล้รุ่งผมไปเดินออกกำลังกายเห็นคนไม่รู้จักทั้งหญิงและชายนำอาหารให้นกพิราบ2-3 คนแต่จำนวนนกไม่มากนัก ผมไม่กล้าตักเตือนเนื่องจากไม่รู้จักกัน หากญาติใครยังให้อาหารนกพิราบอยู่อีกกรุณาเล่าเรื่องตามบทความนี้ให้เขาได้พิจารณาบ้างก็ดีครับ
          ด้วยความปรารถนาดีครับ


 อยากคุย ถึงเรื่องสัตว์ ที่คนไทยปล่อยให้มี ไม่ควบคุม  เช่น ปลาสวาย ปลาดูด ปลาปิรันญ่า  ในน้ำ นกพิราบบนฟ้า ลิงกับช้าง บนบก   สัตว์ ทั้ง  น้ำ บก อากาศเหล่านี้ อยู่และขยายพันธุ์ได้ในเมืองไทย จนกลายเป็นโทษกับ ประชาชนโดยรวม เรียกว่ากลายเป็นปัญหาระดับชาติไปได้ ด้วยเหตุผลต่างๆที่ต่างกัน ปลาสวาย เพราะมันตะกละ กินไม่เลือก เป็นปลาที่กินของเสียในคลองสมัยก่อน คนเก่าแก่ถึงบอกว่า อย่าเอาปลาสวายมากินเพราะมีนกินของสกปรก  แต่เพราะความตะกละกินไม่เลือก กินไม่อิ่ม มันจึงถูกเลือกเอามาเป็น ""สัตว์เรียกลูกค้า" ตามตลาดนัด เพื่อดึงลูกค้ามาเที่ยว มาให้อาหารปลา เพราะให้อาหารปลาสวาย มันแย่งกันกินโคลมคราม น่าตื่นเต้น คนให้รู้สึกว่า ให้อาหารปลาแล้ว มันแย่งกันกินขนาดนี้ แล้วได้บุญเยอะ แล้วทุกวัด ทุกตลาดน้ำ แม้แต่หน้าบ้านริมคลองชาวบ้าน ก็มักเลี้ยงปลาสวายไว้หน้าบ้าน ผลที่ตามมาคือ มันแพร่พันธุ์ไปทั่ว กินไข่ปลาอื่นจนหมด ต่อไปประเทศไทยในคลองคงจะเหลือปลาอยู่ประเภทเดียว ปลากระทิง ปลากราย ปลาบู่ ปลาเสือ ที่เคยเห็น ตอนนี้ หน้าบ้านแม่หน้าวัด ไม่เหบือให้เห็นแล้ว 
   ปลาดูด ปลาปิรัญญา อยู่ขยายพันธุ์ ได้มากและลามไปทั่ว เพราะ คนเอาไปทิ้ง  ไม่จัดการใันให้ตาย แต่กลัวบาปเลือกไปโยนลงคลอง เมื่อปลาพวกนี้ถูกไปอยู่ในน้ำ  และเป็นปลาที่คนไม่ต้องการจับเอามาทำเงินมันก็ขยายพันธุ์ไปเองเป็นทวีคูณ ไม่มีศรัตรู มีแต่เหยื่อ  มองในน้ำก็ไม่เห็นแยกแยะไม่ได้ การขจัดยิ่งยาก คนจะจัดการก็ไม่มีใครลงทุนทำ ถ้าไม่ใช้การเบิกงบหรือคนหลวงมาจัดการ  สุดท้ายของประเทศนี้ ในคูน้ำลำคลอง คงจะเหลือปลา อันตราย และประโยชน์น้อย โทษเยอะ แค่ไม่มีชนิดนี่แหละ 
    วิธีแก้ ก็จ้องออกกฎหมาย ใครทำตลาดน้ำ ต้องใช้ปลาชนิดอื่น  เลิกใช้กฎเขตอภัยทาน ให้ชาวบ้านมา เอาไปกินไปขายได้ เพื่อลดปริมานมัน  เรื่องปลามลพิษในน้ำ ไป 1 ้รื่องละ..pjmong 

 อยากคุย ถึงเรื่องสัตว์ ที่คนไทยปล่อยให้มี ไม่ควบคุม  เช่น ปลาสวาย ปลาดูด ปลาปิรันญ่า  ในน้ำ นกพิราบบนฟ้า ลิงกับช้าง บนบก   สัตว์ ทั้ง  น้ำ บก อากาศเหล่านี้ อยู่และขยายพันธุ์ได้ในเมืองไทย จนกลายเป็นโทษกับ ประชาชนโดยรวม เรียกว่ากลายเป็นปัญหาระดับชาติไปได้ ด้วยเหตุผลต่างๆที่ต่างกัน ปลาสวาย เพราะมันตะกละ กินไม่เลือก เป็นปลาที่กินของเสียในคลองสมัยก่อน คนเก่าแก่ถึงบอกว่า อย่าเอาปลาสวายมากินเพราะมีนกินของสกปรก  แต่เพราะความตะกละกินไม่เลือก กินไม่อิ่ม มันจึงถูกเลือกเอามาเป็น ""สัตว์เรียกลูกค้า" ตามตลาดนัด เพื่อดึงลูกค้ามาเที่ยว มาให้อาหารปลา เพราะให้อาหารปลาสวาย มันแย่งกันกินโคลมคราม น่าตื่นเต้น คนให้รู้สึกว่า ให้อาหารปลาแล้ว มันแย่งกันกินขนาดนี้ แล้วได้บุญเยอะ แล้วทุกวัด ทุกตลาดน้ำ แม้แต่หน้าบ้านริมคลองชาวบ้าน ก็มักเลี้ยงปลาสวายไว้หน้าบ้าน ผลที่ตามมาคือ มันแพร่พันธุ์ไปทั่ว กินไข่ปลาอื่นจนหมด ต่อไปประเทศไทยในคลองคงจะเหลือปลาอยู่ประเภทเดียว ปลากระทิง ปลากราย ปลาบู่ ปลาเสือ ที่เคยเห็น ตอนนี้ หน้าบ้านแม่หน้าวัด ไม่เหบือให้เห็นแล้ว 
   ปลาดูด ปลาปิรัญญา อยู่ขยายพันธุ์ ได้มากและลามไปทั่ว เพราะ คนเอาไปทิ้ง  ไม่จัดการใันให้ตาย แต่กลัวบาปเลือกไปโยนลงคลอง เมื่อปลาพวกนี้ถูกไปอยู่ในน้ำ  และเป็นปลาที่คนไม่ต้องการจับเอามาทำเงินมันก็ขยายพันธุ์ไปเองเป็นทวีคูณ ไม่มีศรัตรู มีแต่เหยื่อ  มองในน้ำก็ไม่เห็นแยกแยะไม่ได้ การขจัดยิ่งยาก คนจะจัดการก็ไม่มีใครลงทุนทำ ถ้าไม่ใช้การเบิกงบหรือคนหลวงมาจัดการ  สุดท้ายของประเทศนี้ ในคูน้ำลำคลอง คงจะเหลือปลา อันตราย และประโยชน์น้อย โทษเยอะ แค่ไม่มีชนิดนี่แหละ 
    วิธีแก้ ก็จ้องออกกฎหมาย ใครทำตลาดน้ำ ต้องใช้ปลาชนิดอื่น  เลิกใช้กฎเขตอภัยทาน ให้ชาวบ้านมา เอาไปกินไปขายได้ เพื่อลดปริมานมัน  เรื่องปลามลพิษในน้ำ ไป 1 ้รื่องละ..pjmong